หนทางแห่งความรู้และหนทางแห่งความศรัทธา
ด้วยการกราบไหว้บูชา


พลังความคิดของท่าน ให้ทานชีวิตแก่เรา เช่นที่ พระพรหมลิขิตดวงชะตาไว้ให้ทำตามพ่อทางจิต ที่เราเรียกขานท่านว่า บราห์มา บาบา จากหัวใจที่เต็มไปด้วยศรัทธาในบทบาทของการเป็น พ่อของมวลมนุษย์ (Prajapita Brahma - Father of Humanity) หรือ Adi Dev เทพองค์แรกที่มาของอดัม Adam





ชีวิตหมุนเวียนเปลี่ยนไปตามวงจรของเวลาตั้งแต่โบราณกาลจนถึงปัจจุบันที่ต้องกลับมารื้อฟื้นความจำและทำให้สติปัญญากระจ่างชัดด้วยความรู้แห่งสัจจะที่สมบูรณ์อีกครั้ง พระเจ้าชีวา ผู้ไม่มีตัวตน อยู่เหนือการเกิดการตาย ได้เลือกมนุษย์ที่เคยมีประสบการณ์ชีวิตอันยาวนานที่สุดมาเป็นเครื่องมือด้วยการขนานนามว่า พระพรหม พระผู้สร้าง เป็นการสร้างโลกใหม่ด้วยความรู้ที่ทุกสิ่งขึ้นอยู่กับครรลองของการเปลี่ยนแปลงจากความเจริญสูงสุดจนถึงความตกต่ำที่สุดของอารยธรรมโลก เริ่มจากหนทางของความรู้(Path of knowledge-gyan)มาสู่หนทางของความเลื่อมใสศรัทธา(Path of devotion-bhakti) ถึงจุดของการวางเฉย(Path of disinterest) เมื่อความจำของมนุษย์นั้นถึงจุดเสื่อมเพราะหลงลืมสิ่งที่ตนได้สร้างอารยธรรมอันศักดิ์สิทธิ์ไว้ช้านานจนแตกแยกออกเป็นศาสนาลัทธินิกายต่างๆมากมาย ขยายออกไปตามแรงศรัทธาในแต่ละยุคสมัย ไม่สามารถค้นพบพลังของจิตวิญญาณใดๆ เมื่อประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ของโลกมีการซ้ำรอย เพราะกฎธรรมชาติที่มีการหมุนเวียนเปลี่ยนไปเป็นวงจร แผ่นดินที่เคยมั่งคั่งอุดมสมบูรณ์ที่สุด ที่เรียกว่า นครบารัต ได้กลายเป็นแผ่นดินที่ยากจนข้นแค้น เหลือแต่ความงมงายในการทำพิธีกรรมกราบไหว้บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ
ท่านเฝ้าดูผู้ที่บันทึกความก้าวหน้า(chart) ด้วยการจดจำระลึกถึงพ่อสูงสุด ภายใน 24 ช.ม.ในช่วงตี 4 ถึง 4 ทุ่มเป็นประจำ










การกลับคืนสู่ความรู้โบราณด้านจิตวิญญาณ คือการปลุกเรียกผู้ที่เคยปฏิบัติจริงให้กลับมาเป็นพราหมณ์ทางจิตเพื่อเพียรพยายามในการกลับมามีค่าต่อการกราบไหว้บูชาอีกครั้ง เนื่องจากเป็นเวลาของการสะสางบัญชีกรรมของคนทั้งโลก ผู้ที่เคยเป็นเช่นไร ในนามของบรรพบุรุษโลก หรือผู้นำจากทุกศาสตร์สาขาต้องกลับมาทำหน้าที่ของตนในยุคแห่งการเชื่อมต่อระหว่างโลกเก่าและโลกใหม่ ยุคของการเปิดเผยสัจธรรมอย่างสมบูรณ์เพื่อเปลี่ยนแปลงด้วยภูมิปัญญาที่ล่วงรู้สาเหตุของปัญหาที่แท้จริงของมนุษย์ เมื่อมีภาวะความจำเสื่อม เราต้องกลับมารื้อฟื้นความจำอีกครั้งในสิ่งที่ทิ้งหลักฐานเป็นอนุสรณ์หรือสัญลักษณ์ในการกราบไหว้ใช้ทำพิธีกรรมต่างๆมากมาย เป็นการกลับมารับผิดชอบต่อการเป็นผู้นำในทุกด้านทุกมุม การปฏิบัติจริงคือบทพิสูจน์ ทุกสิ่งซ้ำรอย อดีตกำลังจะกลับมาให้เห็นในปัจจุบันที่กำลังมีชีวิตอยู่เพื่อทำสิ่งนั้น สำหรับอนาคตของโลกใหม่
จุดเริ่มต้นคือจุดจบนั่นเอง

ผู้สร้าง(Creater)และสิ่งสร้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุด(Creation) คือสมุติเทพทั้ง 3 เรียกว่าตีมูรติ...

เทพสมุติทั้ง 3
    ตรีมูรติ คือสิ่งสร้างที่สำคัญที่สุดของพระเจ้า ชีวา(ศิวะ) ผู้ไม่มีตัวตน
  • ผู้สร้างสวรรค์(Creator) ด้วยบราห์มาสำหรับโลกที่เต็มไปด้วยศีลธรรมจรรยา จากการให้ความรู้ที่เป็นสัจจะอย่างสมบูรณ์
  • ผู้บำรุงรักษาสวรรค์(Sustainer) ด้วยวิษณุ สำหรับโลกที่เหล่าเทพอาศัยอยู่ด้วยความมั่งคั่งอุดมสมบูรณ์ทั้งภายใน-ภายนอก ช่วงเวลาครึ่งแรกของวงจรละครโลก (ยุคทอง-ยุคเงิน)
  • ผู้ทำลายนรก (Destroyer) ด้วยชางก้า จากการทำลายสำนึกที่เป็นร่างกายมีตัวตน อันเป็นเหตุของกิเลสที่ทำให้โลกไร้ศีลธรรม ตกต่ำจนถึงที่สุดในครึ่งหลังของวงจรละครโลก (ยุคทองแดง-ยุคเหล็ก)


การบูชา ‘พระพรหม’ โดยคุณเพชร ผู้เป็นพราหมณ์พิธีกรรมในอดีต
ณ เดอะ ชีวา แซงค์ชัวรี่ เขาใหญ่
16 มกราคม 2025

คลิกอ่าน

วันที่ 16 มกราคม 2025 เราทุกคนได้มาพร้อมกันที่ ชีวาแชงชัวรี่ อ.ปากช่อง เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา
พร้อมกับพี่หล้าเพื่ออธิบายถึงความรู้อันละเอียดอ่อนที่เป็นปัญญาธรรมของพระพรหมที่แท้จริง ดังในบางช่วงบางตอนที่พี่หล้าได้แบ่งปันความรู้ความว่า
"คุณค่าและความดีไม่ได้มาจากการจัดตั้งทำพิธีอะไรเพื่อความศักดิ์สิทธิ์ของชีวิตไม่ใช่หรือ" การทำพิธีคือการยืนยันว่าแท้จริงแล้วความศักดิ์สิทธิ์ในตัวเราย่อมนำมาซึ่งความสำเร็จ
สิ่งที่คิดว่าดีที่สุดสำหรับเราคืออะไร? ส่วนเทพที่รองจากสิ่งสูงสุดคือพระพรหม ผู้ทำหน้าที่ปลุกเรียกคนไทยและคนทั้งโลกให้มาทำความรู้จักท่านแล้วทำตามท่าน ในชีวิตปัจจุบัน เนื่องจากท่านมีอดีตที่กลายเป็นอนุสรณ์ของความดีและมีค่าต่อการกราบไหว้บูชา ท่านไม่ได้ต้องการให้ใครมาทำอะไรให้ท่าน แต่เป็นการเรียนรู้เพื่อจะจบสิ้นหนทางแห่งความภักดีอย่างไม่รู้ไม่เข้าใจ จงศรัทธาด้วยสติปัญญา และทำตัวให้มีค่าต่อการกราบไหว้จากภายใน เช่นที่เราเคารพใคร ไม่เพียงแต่เป็นจารีตประเพณี แต่ต้องมาจากหัวใจของเราที่เรียนรู้จักกัน และสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่เสมอภาค เอื้อต่อการแลกเปลี่ยนให้เกิดสิ่งที่ดีงามในชีวิต รูปปั้นบูชาพรหมมี 4 หน้าหันไปทุกทิศทั่วโลก เหนือ ใต้ ตก ออก เพื่อให้คุณประโยชน์อย่างไม่มีขีดจำกัด ไม่เพียงแต่ประเทศไทย แต่ประเทศไทยกลายเป็นดินแดนที่มีการกราบไหว้บูชาพระพรหม ทุกหนแห่ง นี่คือ แหล่งแห่งความรู้ที่ต้องทำให้เกิดปัญญาในการแก้ปัญหาแก่แผ่นดิน ด้วยเหตุที่ทุกชีวิตบนผืนโลกนี้ต้องได้รับการหลุดพ้น
คลิกอ่านต่อ
ประสบการณ์ของคุณเพชร พราหมณ์พิธีกรรมในอดีต
เมื่อจะมีการบวงสรวงพระพรหมก็จะมีการปรากฏตัวของพราหมณ์พิธีกรรมเป็นผู้ที่จะประกอบพิธีเพื่อสื่อสารและอ่านองค์การบูชาเทพอัญเชิญพระพรหมและทวยเทพยดาองค์ต่างๆลงมาประทานพรให้กับผู้จัดงาน ในคติความเชื่อในประเทศไทย จากการประสมประสานระหว่างศาสนาผี กับศาสนาพุทธ ซึ่งมิอาจปฏิเสธได้ว่าไทยมีศาสนาผีเป็นฐานรากอันแข็งแกร่ง และประดับประดาให้ดูภูมิฐานทันสมัยน่าเชื่อถือด้วยสิ่งละอันพันละน้อยที่รับจากพุทธและพราหมณ์โดยไม่ขัดหลักผี กล่าวโดยสรุปว่าศาสนาผีรักษากฎเกณฑ์ทางสังคม ส่วนศาสนาพราหมณ์ พุทธ รักษาเกณฑ์ทางจิตวิญญาณของบุคคล ของไทยมีการผนวก ความเชื่อความศรัทธาแต่ละศาสนาได้อย่างลุ่มลึกซึ่งมีผสมปนเปกันไปด้วยความเข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง กลายเป็นพิธีกรรมที่มีความละเอียดอ่อน แต่พอเราได้เห็นหนทางแห่งการกราบไหว้บูชา ได้ประกอบทำพิธีกรรมเข้ามาเรื่อยๆ เราก็เริ่มมีคำถามกับตนเองว่าพิธีกรรมเหล่านี้กำลังจะพาเราเดินไปสู่จุดหมายปลายทางใดกันแน่ จริงๆเราก็อยากจะเห็นองค์เทพเทวา อยากสัมผัสกับความงดงามของเหล่าเทพ อยากได้รับพรอันศักดิ์สิทธิ์ ปะปนไปด้วยความอยากปรารถนาอีกนานัปการ แต่สุดท้ายแล้วพิธีกรรมเหล่านี้ทำให้เราสมปรารถนาได้จริงหรือไม่ การที่เราเป็นเจ้าพิธีมาก่อน จัดงานบวงสรวงแต่ละครั้งก็ใช้เงินทุนมหาศาล ใช้กำลังคน กำลังทรัพย์ กำลังศรัทธาเพราะหวังว่าเราจะได้ในสิ่งที่เราอ้อนวอนจากเทพเทวา ทั้งที่ลึกๆนั้นแล้วเราอยากจะเห็นเทพเจ้าอยากสัมผัสเทวาเทวี ว่าแท้จริงคืออะไร

เมื่อศึกษาลงไปลึกๆแล้วพบทางตันว่ามีแต่ความว่างเปล่า จนถึงจุดๆหนึ่งเราก็ได้ค้นพบศาสตร์วิชาโบราณของราชาโยคะที่ทำให้เราพบความรู้แจ้งที่ลึกล้ำละเอียดอ่อนและทรงปัญญา เราเริ่มมองเห็นพฤติกรรมของเทวา เทวี ผ่านเส้นทางของความเพียรพยายามที่จะทำตามพระพรหมตัวจริงว่าท่านคือใคร ได้พบว่าพระผู้สร้างท่านมาคืออะไร ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็ทำให้ตัวเองหันหลังให้กับเส้นทางการกราบไหว้บูชาอ้อนวอนเพื่อร้องขอ แต่เดินหน้ามุ่งเข้าสู่เส้นทางแห่งราชาที่ใช้ปัญญานำทางเรากลับมาปกครองอาณาจักรภายในของเราได้อย่างแท้จริง
คลิกอ่านต่อ
ขอขอบคุณเจ้าของสถานที่ ในความศรัทธาต่อความรู้ที่เป็นสัจจะ
คุณเชี่ยว (ดร. ภัทรพล เวทยสุภรณ์) และ
คุณนิกกี้ (กัญญภัสสร ผลไม้)
รวมทั้งผู้ใหญ่ที่ร่วมรายการจากการได้รับประสบการณ์แห่ง 'แสง'
คุณตุ๊ (เจริญ ศิริพานิช) สถาปนิก และ
คุณเก่ง (ปัญญฉัฐ เหมนาค) มัณฑนศิลป์

16 ม.ค. ช่วง 10.00 น. ที่ ชีวาแซงค์ ชัวรี่

พี่หล้าให้ความรู้เรื่องพระพรหมที่แท้จริง เพื่อเสริมหลักศรัทธาของผู้ที่กราบไหว้บูชาให้เกิดความเข้าใจอย่างชัดเจน และสามารถนำใช้ในชีวิตประจำวัน ทำให้ตนเองมีค่าจากภายใน และจบสิ้นความงมงายที่มืดบอดของความไม่รู้
ร่วมกันแจกบัตรคุณธรรมเป็นพรพร้อมขนมหวานที่เตรียมมาพิเศษ
คลิกฟังเสียงบันทึกรายการ


ในความเงียบสงบ ได้โปรยดอกไม้ให้ความศักดิ์สิทธิ์ตามพิธีแก่พระพรหม 4 หน้า ก่อนจบพิธี บริเวณหน้าอาคารหลักที่มีหิน รูปไข่ เรียกว่า ชีวาลิงกัม มีการแกะสลักสัญลักษณ์บนหิน เช่น โอม และเครื่องหมายสวัสดิกะ และสามง่าม(ตรีศูร)
พี่หล้าแต้มทิลัค บนหน้าผาก

บริเวณที่ตั้งของตาที่สามแห่งปัญญา

ช่วง 16.00 น. เราเชิญชวนแขกจากชีวาแซงค์ ชัวรี่ มาพบปะที่อาคาร Museum ที่นอร์ดิก้า(ห่างกัน 15 นาที)

เพื่อแนะนำให้รู้จักบราห์มา กุมารี มหาวิทยาลัยทางจิตของโลก จบลงด้วยการเล่าเรื่องราวที่บันทึกไว้ ในมหาภารตะยุทธและคัมภีร์กีตะ อธิบายบริเวณทุ่งคุรุเกษตร สนามเพาะหว่านเมล็ดของการกระทำ ที่มวลมนุษย์ต้องเก็บเกี่ยวผลกรรมของตน กลายเป็นตำนาน การรบที่เกรียงไกรของพระอรชุน ผู้เป็นสารถีคู่กับพระกฤษณะ ในสนามรบของจิตใจ เพื่อเอาชนะความหลอกลวงภายในตนเอง

© 2025 Brahma Kumaris Thailand. All rights reserved.