| การเดินทางค้นพบความเป็นนิรันดร์ - Journey to Eternity |
รายการนี้จัดขึ้นเพื่อให้บทเรียนราชาโยคะพื้นฐานแก่ผู้ที่สนใจ โดยให้เกียรติแก่เจ้าของสถานที่ คือ คุณเชี่ยว ณ Chiva Sanctuary Khao Yai ที่นำรูปปั้นบูชามาไว้ตามจุดต่างๆ ด้วยความเคารพและศรัทธา เช่น ชีวาลิงกัม, พระพิฆเนศ, สัญลักษณ์ โอม, รูปลูกสนบนหัวเสา ประดับรอบสถานที่ ฯลฯ เราได้ทำให้ผู้เข้าร่วม เข้าใจว่าอะไรคือนัยสำคัญของรูปสัญลักษณ์เหล่านั้นในทางจิตวิญญาณ และสิ่งเหล่านี้มีความเชื่อมโยงกับเราอย่างไร กับมวลมนุษย์อย่างไร....เป็นการเปิดตาที่ 3 เพื่อให้มองเห็น สัจจะทั้ง 3 ได้แก่ (1) ตระหนักรู้จักตนเองว่าเป็นดวงวิญญาณ (2) รู้จักดวงวิญญาณสูงสุด ผู้ที่ผู้คนกราบไหว้ในทุกอารยธรรม หรือ พระเจ้า (3) รู้จักละครโลกอันเป็นนิรันดร์ ด้วยการเข้าใจกฎแห่งกรรม และกาลเวลา ที่ทำให้เราต้องเลือกกระทำกรรมบนจิตสำนึกใหม่ และสร้างกรรมที่สูงส่งเท่านั้นในเวลานี้
ขอบคุณ ‘แม่ปุ๋ย’ ผู้ออกแบบงานประชาสัมพันธ์ และสามารถจัดเวลามาอยู่ในช่วงรายการ 15-17 ม.ค จนสรุปผลงาน
บรรยากาศในการเตรียมงาน
วันที่ 14 ม.ค. (คืนก่อนวันจัดรายการ) มีการฉลองวันเกิดให้กับน้องเหมียว ตัดเค้กช็อคโกแลตแสนอร่อย
พี่หล้าคลุมน้อง ‘ชีวา’ ด้วยผ้าขาวก่อนมอบสร้อย “โอม ชานติ” ที่มีรูปแสงชีวาเป็นของขวัญ
วันที่ 15 ม.ค. ก่อนเปิดรายการบ่ายนั้น
เราเปิดตาขึ้นมาพร้อมนั่งอมฤตเวลาร่วมกันตั้งแต่ตี 4 สร้างกระแสที่ละเอียดอ่อน เพื่อความเป็นสิริมงคลในงานรับใช้ของบาบา พี่หล้าจบระบบด้วยการยืนให้ดริสตีกับทุกคน
พี่ภาติดป้ายเรียบง่าย ให้ผู้เข้าร่วมรายการตามหาเราได้ง่ายขึ้นในสถานที่กว้างใหญ่ มีการเตรียม ‘ยินดีต้อนรับ’ โดยผู้จัดสถานที่
จอดรถบ้าน พร้อมต้อนรับโครงการ Silence is Calling กับมุมนั่งพักผ่อนในความสงบ บริเวณข้างๆห้องรับประทานอาหาร
อาคารที่เราจัดรายการล้อมรอบไปด้วยสระบัว – ให้นัยสำคัญของการ “ละวาง”
15-17 ม.ค.(16.00น.) พี่หล้าเปิดรายการ ณ Chiva Sanctuary เขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา...
เราปรับเปลี่ยนทิศทาง ให้หน้าห้องเรียนมองออกไปเห็นสีสันที่เป็นองค์ประกอบของ ความเงียบสงบ ที่อยู่บนหน้าปกสมุดจดบันทึก และเอกสารแจกอีกมากมาย ประกอบการเรียนการสอนครั้งนี้
สิ่งแวดล้อมใหม่ในบรรยากาศใหม่ที่มีผีเสื้อคอยต้อนรับเราทุกคนให้เห็นชีวิตที่โบยบินไปทุกหนแห่งหลังจากมีการเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่ จากตัวหนอนที่คืบคลานอยู่บนพื้น กินสารอาหารที่ตนสะสมไว้ เป็นระยะเวลาที่ยาวนาน จนกลายเป็นสัตว์ปีกที่สวยงาม ประดับประดาโลก การเปลี่ยนแปลงคือกฎของธรรมชาติ ในการเดินทางชีวิตจากอดีตถึงปัจจุบัน ด้วยแรงและกำลังที่มีอยู่เพื่อไขว่คว้าหาความสงบสุขด้วยกันทั้งสิ้น แต่จะยืนยงคงอยู่ได้นานแค่ไหนขึ้นอยู่กับคุณภาพของความคิดที่เปรียบเหมือนเมล็ดเพาะหว่านลงไปให้เติบโต เป็นคำพูด การกระทำและชะตากรรมที่อยู่ร่วมกัน เมล็ดของความคิดเริ่มต้นจากจิตใจเติบโตในสนามกรรมที่เรียกว่าเวทีละครชีวิต ที่เราต่างก็เล่นบทบาทต่างกันไป ผู้ที่เดินทางมานานสะสมประสบการณ์มากกว่าใครได้มาถึงทาง 3 แพ่ง ที่ต้องเลือกจะไปเส้นทางใด สู่ดินแดนแห่งความสุขดินแดนแห่งความสงบ หรือดินแดนแห่งความทุกข์ (คลิกอ่านต่อ)
ภาพในรายการช่วงวันที่ 15-17 ม.ค.
เปิดรายการ รู้จักกันบนฐานของคุณธรรม
- ทักทายให้รู้จักกันด้วยคำว่า “โอม ชานติ” หมายถึง ฉันคือดวงวิญญาณที่สงบ (เหมียว – ความสงบ)-ได้ใส่เสื้อติดป้ายพิเศษ Om shanti ในงาน
- โยงคุณธรรมละวาง กับ สระบัวที่อยู่ด้านหน้าห้องจัดรายการ (ต่าย - ละวาง)
- ให้โอกาสคุณธรรมมีสัจจะสร้างความเข้าใจของจิตวิญญาณทั้งสามประเด็น ความรู้ที่เป็นสัจจะอย่างสมบูรณ์(Complete Truth) ซึ่งครอบคลุมสาระ : ดวงวิญญาณ, ดวงวิญญาณสูงสุด, ละครวงจรโลก (พี่ภา - มีสัจจะ)
สัจจะ คือสิ่งที่ฝังรากลึกอยู่ภายใน ที่แก่นกลางของชีวิตจะเปิดเผยเป็นความจริงในเส้นทางเดินของจิตวิญญาณ เส้นทางที่นำไปสู่การปฏิบัติได้จริงจากการขุดค้นขึ้นมาจากข้างในด้วยการอยู่อย่างนิ่ง การมีสัจจะ หมายถึงชีวิตที่มีคุณสมบัติของสัจจะนั้นคงอยู่ เช่นที่ขานนามบาบาด้วยแรงรักและศรัทธาว่า Sat Chit Anand สัท จิต อนันต์ ผู้เป็นสัจจะ ผู้มีชีวิต ผู้มีความปิติ การมีสัจจะ คือการเป็นตัวตนที่แท้จริงของตนเอง อยู่อย่างโปร่งใส ใจกว้างยอมรับความเป็นนิรันดร์ของสรรพสิ่ง พื้นฐานที่แท้จริงของสัจจะคือความบริสุทธิ์ที่คงอยู่ภายในอย่างที่ไม่มีใครแตะต้อง การปลุกพลังของสัจจะคือการตระหนักรู้ “สัจจะ” ในสามสิ่ง
(คลิกอ่านต่อ)
-
พูดถึงคุณธรรม ‘เยียวยารักษา’ แม่ปุ๋ยทำให้เกิดการตระหนักรู้ว่าโรคภัยไข้เจ็บทางกายและทางใจ ไม่ได้มาจากสาเหตุใด นอกจากมลพิษที่ค้างฝังในจิต(วิญญาณ) ซึ่งเป็นเวลาที่เราต้องล้างจิต (spiritual detox) ก่อนเชิญ คุณเชี่ยวแนะนำตัวด้วยคุณธรรม ‘เยียวยารักษา’ ที่ได้รับใช้เราพร้อมทั้งกล่าวต้อนรับทุกท่าน
-
น้องใหม่บางท่านแนะนำตนเองจากบัตรคุณธรรม
พี่ปู – ถ่อมตน
พี่เคี้ยง – เป็นสุข
พี่บุ๋ม – เชื่อมั่นในตนเอง
พี่หนุ่ม – เชื่อมั่นในตนเอง
น้องกิ๊ก – ไว้วางใจ
พี่นิด - สงบ
คุณแม่น้องกิ๊ก
พี่รุ่ง - พอใจ
พี่หล้า สรุปสาระทางจิตวิญญาณ ของ ‘ตาที่สาม’ซึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์ที่ใช้ในหนทางของความเชื่อ ความศรัทธาในศาสตร์สาขาและจารีตประเพณีต่างๆ ทั่วโลก (ข้อมูลเก่าจาก จ.ม ข่าวเดือน ก.ย 2013)
พี่น้องช่วยกันสรุป เนื้อหา-สาระ ของสำนึกที่เป็นดวงวิญญาณ ในมุมต่างๆ
- ภา – การมีสำนึกรู้ (awareness)
ในสภาวะที่เราหลงลืมตนเอง ไม่มีการตระหนักรู้ในตนเอง ในมิติทางจิตวิญญาณ ดวงวิญญาณอยู่ในความมืด ก็จะไม่มีการตระหนักรู้ในดวงวิญญาณสูงสุด ผู้เป็นพ่อแม่ทางจิต ผู้มีความเป็นบวกและให้คุณประโยชน์เสมอ การมีชีวิตอยู่เพียงการตระหนักรู้ในมิติของร่างกายและวัตถุธาตุ ดวงวิญญาณจะรับเอาความเป็นลบเข้ามาและเก็บไว้ทำให้อ่อนไหวง่าย ไม่สามารถที่จะต้านทานหรือยืนหยัดอย่างยืดหยุ่นได้ เราจึงสร้างหนี้กรรมเพิ่มขึ้นเพราะรับเอาความทุกข์เข้ามา เป็นการสร้างกรรมใหม่จากการมีปฏิกิริยาตอบโต้ในระดับของความคิด ความรู้สึก สายตา คำพูด หรือการกระทำ เพื่อตัดโซ่ตรวนของ กิริยา ปฏิกิริยาที่ดำเนินไปตลอดเวลา ความทุกข์ทำให้เราหมดพลัง ผลกระทบของความทุกข์ทำให้ฉันอ่อนแอ การรับความทุกข์ตัดขาดฉันจากพระเจ้า ทำให้ฉันต้องมีภาระรับผิดชอบมากมายในเวลาสุดท้ายที่ภูเขาของทุกข์มากมายต้องถล่มทลายจาก ร่างกาย ความสัมพันธ์ทางร่างกาย สิ่งของในครอบครอง และสิ่งแวดล้อม ในเวลานั้นแม้แต่พระเจ้าก็ไม่สามารถช่วยอะไรฉันได้
การให้บทเรียน ได้เวลาเริ่มต้นแล้ว...
น้องเพชร ในฐานะพรามณ์ทางโลก พูดถึง “โอม” ที่มีในบทสวดก่อนทำพิธีมงคล
พี่ป้อม เริ่มบทเรียนแรก รู้จัก “โอม” ฉันคือดวงวิญญาณ เข้าใจการทำงานของดวงวิญญาณ – จิตใจ สติปัญญา และ สันสการ์
น้องเพชร สลับจังหวะมาแบ่งปันนัยสำคัญของรูปกราบไหว้บูชา “พระพิฆเนศ” ตามความเชื่อของเทวปกรณัม ผสานเข้ากับด้านจิตวิญญาณ
พี่ป้อม แบ่งปันนัยสำคัญของ “ชีวลิงกัม” ที่มาจากเสียงเพลง โอม นะมัช ชีวา และ วันนี้เริ่มบทเรียนของการรู้จักดวงวิญญาณสูงสุด, การเชื่อมโยงด้วยความคิด (โยคะ), การเข้าใจกฎแห่งกรรม และ วงจรที่เป็นนิรันดร์ ที่มี แม่ปุ๋ย พี่ศรี เติมแต่งบทเรียนอื่นๆตามจังหวะเวลา
พี่เคเรน พี่ราณี และครอบครัว อีก 2 ท่าน มาร่วมรายการในวันที่สอง(16 ม.ค) ได้มีการแบ่งปันประสบการณ์และเหตุผลที่เข้ามาในความรู้ของบราห์มา กุมารี เป็นแรงบันดาลใจให้ได้เห็นภาพที่เป็นสากลของความรู้ทางด้านจิตวิญญาณที่เป็นไปสำหรับทุกเชื้อชาติ ศาสนา ไม่แบ่งแยก
|
 
|
พี่หนุ่ม(น้องชายพี่ภา-อดิศร แก้วบูชา)ให้คำมั่นสัญญาว่าจะมาเจอกันอีกครั้งที่ศูนย์ราชาโยคะ บ้านโอม
ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกก่อนเดินทางกลับ
นักเรียนแบ่งปันประสบการณ์ พร้อมหน้าตาที่สดชื่นแจ่มใส
น้องกิ๊กและพี่หนุ่มแบ่งปันประสบการณ์ The Call of the Time 2023 ที่ บาหลี อินโดนีเซีย
แบ่งปันประสบการณ์ที่ได้รับจากรายการที่ ชีวา แซงค์
พี่หนุ่ม
จากการได้ร่วมกิจกรรมของบราห์มา กุมารี ราชาโยคะ ที่ The Chiva Santuary เขาใหญ่ ได้พบว่า กิจกรรมได้รับการวางแผนเป็นอย่างดี เพื่อให้ง่ายต่อความเข้าใจของผู้ร่วมรายการ เนื่องจากติดภารกิจสำคัญด้านอื่น จึงทำให้ ร่วมกิจกรรมได้เพียง 2 วันคือ จันทร์ที่ 15 และอังคารที่ 16 ม.ค. 2567 เท่านั้น แต่สิ่งที่ได้รับนั้น คุ้มค่าด้วยแนวคิดใหม่ๆจนไม่มีความรู้สึกว่าเสียเวลาเลย การปรึกษาหารือของผู้ร่วมรายการ เป็นไปด้วยความเข้มข้น ตามหลักการและความอยากรู้อยากเห็นในความรู้ใหม่ๆที่เพิ่งเคยได้ยิน ได้รับรู้ กระทู้ที่ยกขึ้นมาปรึกษาหารือแสดงถึงคุณภาพที่สูงของทั้งผู้ถามและผู้ตอบ รสชาติและคุณภาพของอาหาร แสดงถึงความใส่ใจที่จะนำเสนอสิ่งที่จะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อผู้บริโภค แม้ในช่วงระยะเวลาสั้นๆของกิจกรรม 15-19 ม.ค. 2567 ก็ตาม ส่วนของสถานที่จัดกิจกรรม มีความพร้อมทั้งที่พัก ห้องประชุม ห้องอาหาร อุปกรณ์โสตทัศนศึกษาก็ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน แม้จะมีความขลุกขลัก บ้างก็ถือเป็นส่วนน้อยที่ไม่มีนัยสำคัญ ปรับปรุงอีกเล็กน้อย ก็เข้าสู่มาตรฐานได้ การนำเอาคุณธรรมที่ได้มาใช้ในชีวิตประจำวัน ก็สามารถทำการพัฒนาตนเอง ให้ยกระดับความดีของบุคคลได้
ครูกิ๊ก I am so blessed to be a part of this…
ฉันโชคดีมาก ๆ ที่ได้มาอยู่ที่นี่ ไม่มีเรื่องบังเอิญ
นานมาแล้ว ได้ขึ้นป่าไปพบครูป้อม จากคำแนะนำของเพื่อน...คิดย้อนกลับไป…
ตอนนั้นก็ไปโดยไม่รู้อะไร ไม่รู้จะนอนที่ไหน ไม่รู้จักใคร #ความไว้วางใจ มันมาตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว...
เมื่อปีที่แล้วครูป้อมส่งไป call of the time ที่ Bali ถ้าพูดให้ถูกก็ไม่ใช่ครูป้อมหรอกที่ส่งไปแต่เป็น มหาวิทยาลัยทางจิตของโลก บราห์มา กุมารี ส่งไป
วันนี้ก็มาตามเสียงเรียก...ความไว้วางใจ ยังคงทำงานอย่างต่อเนื่อง พี่หนุ่มอดิศร ขับรถมาเป็นเพื่อน แม่กิ๊ก พี่สาวพี่หนุ่ม พี่บุ๋ม ความไว้วางใจส่งต่อ แม้พวกเรา พวกเขา ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
มาในครั้งนี้ ได้ย้ำเตือนว่า...ถึงจุดหนึ่งความรู้ที่เป็น #สัจจะ ไม่ว่าจะเรียนผ่านครูคนไหน ก็เป็นความรู้เดียวกัน...ร่างกายของเราเป็นพาหนะ เรามีดวงจิต มีแสง ที่เป็นนิรันดร์... ต่างคำสอน ต่างภาษา ต่างชื่อเรียกขาน จุดมุ่งหมาย คือ ความสุข ความสงบ (คลิกอ่านต่อ)
พี่บุ๋ม
สำหรับบุ๋ม การกลับมารู้จัก ราชาโยคะอีกรอบ เป็นความเข้าใจที่มากขึ้นในมุมที่แตกต่างจากตอนแรก
จากที่ก่อนหน้านี้รู้จักเพราะอยากได้ศาสตร์นี้สามารถในเรื่องการดูแลรักษาร่างกายให้กับตัวเองได้และสนใจเกี่ยวกับเรื่องจิตวิญญาณตามหาวิธีการที่เข้าถึง
ตั้งแต่ที่ครูกิ๊กมาแชร์ให้ฟังหลังจากกลับจาก call of time ยิ่งดีใจมากขึ้นว่าครูกิ๊กเข้ามาในพื้นที่นี้ด้วย
ก่อนจะไปเขาใหญ่ ถามครูกิ๊กว่าจะไปเจอพี่ป้อมด้วยใช่ไหม แล้วมันเป็นเรื่องเดียวกันกับราชาโยคะไปอีก ยิ่งรีบตัดสินใจใหญ่เลยกับการไปเจอกันในครั้งนี้
พอได้เจอพี่ประภา พี่หล้า ด้วย มันยิ่งใจฟูมาก ว่าจะได้เรียนรู้เรื่องนี้จริงแล้ว บุ๋มตั้งใจเรียนมากเพราะอยากเข้าใจ แต่ก็ทำดีที่สุดเท่าที่เข้าใจได้ แต่ยังนั่งสมาธิผิด เพราะมั่นใจว่าการนั่งสมาธิคือการหลับตา 55555++ ปล่อยไก่สุดๆเลยค่ะ (คลิกอ่านต่อ)
พี่รุ่ง
วิธีการนี้ เป็นการดูแลจิตวิญญาณของเรา ไม่จำเป็นว่าเราต้องนับถือศาสนาใด มีวัตรปฏิบัติแบบใด เพราะการฝึกไม่ได้เกี่ยวข้องกับวัตรปฏิบัติ ขอเพียงเรามีใจใฝ่รู้ พร้อมที่จะพัฒนาตนเอง เพื่อการสั่งสมความสุข ความเข้าใจคนรอบข้าง มากขึ้นๆๆๆด้วยการละวาง อ่อมน้อม
การฝึกฝนนี้จะช่วยให้เราไม่สูญเสียพลังโดยเปล่าประโยชน์ ดังนั้น ผู้ที่มีจิตสาธารณะ จึงจำเป็นต้องรับการฝึก เพื่อการหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณของตนไม่ให้อ่อนล้า จากสิ่งที่เข้ามากระทบ....
บาบาสอนให้แก้ปัญหา ด้วยใจที่อดทน รวบรวมสมาธิจัดการความสงบให้กับร่างกาย อดทนกับการต้องใช้แว่นตากรองแสงเกือบตลอดเวลาทั้งที่รำคาญสุดๆ ด้วยเหตุที่ไม่มีวิธีใดที่ดีกว่านี้แล้ว ได้เห็นน้ำใจอันงดงามของเพื่อนร่วมรายการที่พร้อมใจกันทนร้อน ปิดแอร์ เปิดหน้าต่าง ให้โล่งที่สุด น้ำใจอันงดงามที่ห่วงใย เมื่อเราทานผลไม้มากกว่าอาหารคาว น้ำใจอันงดงามที่ทนมองเราใส่แว่นตาดำตลอดเวลา...(คล้ายๆกับมาเฟีย...)
พี่นิด
☆ การพูดคำว่า "โอม" บอกได้ว่าผูกพันกับคำนี้มานานมาก เพราะเรียนทางด้านศิลปะมีองค์พระพิฆเนศเป็นเทพทางด้านศิลปะซึ่งท่านเป็นเทพแห่งความสำเร็จ เวลาจะบูชาท่านก็จะขึ้นต้นด้วยคำว่า โอม ทุกครั้ง เข้าใจว่าเป็นคำๆเดียวกับคำว่า โอม ของราชาโยคะ เพิ่งได้ทราบว่า โอม ของราชาโยคะ หมายถึง ฉัน
☆ "ดอกบัว" ดอกบัวเป็นดอกไม้ที่ชอบมาก เพราะนับถือพุทธศาสนาบัว 3 เหล่า 4 จำพวก เป็นปริศนาธรรม นำมาใช้ทำให้ชีวิตดีขึ้น ได้เข้าใจว่า ดอกบัว หมายถึง การละวาง การปล่อยวาง
☆นอกเหนือจากความรู้แล้ว ในเรื่องที่พักสะดวก อาหารอร่อย ทุกคนเป็นกัลยาณมิตรที่ดีค่ะ