การไตร่ตรองมูร์ลีประจำวัน(ภาษาไทย) จาก YouTube
มธุบันได้จัดระบบการรับฟังประเด็นมูร์ลี ด้วยเป้าหมายในการสร้างพลังของการชุมนุม เพื่อเชื่อมโยงกับเมล็ดแห่งสัจจะ
พี่หล้าได้รับมอบหมายให้ไตร่ตรองมูร์ลีในแต่ละวันแล้วส่งผ่านระบบ Gyan Sarovar เพื่อขึ้น YouTube โดยมีการเติมภาพ(VDO) หรือเสียง
กรุณาคลิกที่ link เพื่อเปิดดู VDO ประกอบเสียงเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งสามารถกด subscribe ในการเป็นสมาชิกประจำ และสัมผัสคำสอนอันศักดิ์สิทธิ์จากมหาวิทยาลัยทางจิตของโลก
เพื่อเสริมสร้างคุณธรรมความดีในชีวิตประจำวัน ที่สมาชิกแต่ละคนรับผิดชอบในการทดลองปฏิบัติตลอดทั้งวัน
ขยายเต็มเดือน

♦ วันแรกของทุกเดือน 'พี่หล้า' รับผิดชอบในการเชื่อมโยงคุณธรรมประจำตัว ส่วนวันแรกของเดือนกุมภาพันธ์นี้ พิเศษในการให้ความสำคัญแก่ความเงียบสงบจากสัญญาณที่ละเอียดอ่อน คลิกฟังเสียง

♦ การสรุปคุณธรรมประจำตัว หลังจากบันทึกเสียงเข้าสู่ระบบ YouTube ของแต่ละวัน - ยังคงเป็นหน้าที่รับผิดชอบของแต่ละคน(เจ้าของวัน) ที่จะย่อส่วนลงมาเหลืออย่างน้อยที่สุด 7 บรรทัด โดยมีพี่ภาและแม่ปุ้มช่วยตรวจทานความหมายให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

♦ การแบ่งปันสาระสำคัญในบรรยากาศชั้นเรียนจากการบันทึกเสียง


สร้างสรรค์ (Sr.La) 1/2/24 พี่ภาช่วยนำมาสรุป เพื่อลงระบบสั้นหลังจากมูร์ลีเช้า
ในยุคเพชรบาบามาสร้างโลก มาทำให้ชีวิตของลูกเป็นเพชรที่เปล่งประกาย การสร้างสรรค์เกิดขึ้นเมื่อเห็นสิ่งสร้างที่สำคัญที่สุดของพระเจ้าคือตัวตนที่สมบูรณ์แบบ เริ่มด้วยการทำความสะอาดเพชรที่อยู่ในโคลนตมมานานด้วยการหยุดศึกษาสิ่งต่างๆที่ศึกษามาแล้ว แล้วจดจำวันเวลาในวัยเด็กที่ดวงวิญญาณบริสุทธิ์เป็นเพชรที่บริสุทธิ์ เฝ้าแต่ขจัดมลทินด้วยการสร้างสมพลังของสัจจะที่สวยงาม ดวงวิญญาณเปล่งประกายด้วยสัจจะ เพราะสัจจะคือความบริสุทธิ์ในความจริงแท้ ความบริสุทธิ์หมายถึงความซื่อสัตย์ ความซื่อสัตย์ต่อตนเอง ต่อพระเจ้า และผู้อื่น ขจัดผลกระทบที่เรามีต่อผู้อื่นหรือความผิดที่ทำไว้ เราต้องขจัดออกไปจนไม่เหลือความขมขื่นในหัวใจใครด้วยเจตนาหรือไม่เจตนา พระเจ้ารักหัวใจที่ซื่อสัตย์และทำให้เราเห็นหัวใจ เข้าใจจิตใจของผู้อื่น ในที่สุดเป็นมิตรแท้ของเขาได้ ความซื่อสัตย์ต่อตัวตนที่สูงสุดของตนเองคือการพัฒนาที่ลึกล้ำที่จะมีความสัมพันธ์กับสิ่งสูงสุดหรือพลังของสัจธรรม การกลับมาเป็นเพชรให้ตัวตนที่แท้จริงปรากฏขึ้นมา นั่นคือผลงานที่สร้างสรรค์อันบรรเจิดเลิศเลอ ล้ำค่าที่สุด

สร้างสรรค์ (Sr.La) 1/2/24 พี่หล้าพูดเต็มไว้ในช่วงโยคะเย็น 18.45 น.
สร้างสรรค์ คือพลังของการใช้จินตนาการบนฐานของสัจจะ ณ เวลานี้คือยุคเพชร หรือยุคแห่งการบรรจบพบกันในการกลับมาเป็นเพชรที่ไร้มลทิน เราจึงเปลี่ยนแปลงตนเองให้มีค่าและเปล่งประกายถึงที่สุด งานสร้างสรรค์ต้องเริ่มจากการทำความสะอาดสิ่งที่สกปรกภายในที่สะสมไว้จากความผิดพลาดในอดีต จนกลายเป็นสิ่งสกปรก เป็นมลทิน หรือเป็นเศษดินเศษหินของความผิดบาปติดมา ต้องใช้ความพยายาม เพื่อสร้างชีวิตขึ้นมาใหม่ด้วยความมุ่งมั่น การกลับมาสมบูรณ์พร้อมคือขบวนการขจัดความสกปรกหรือมลทินภายในดวงวิญญาณออกไป นอกเหนือจากการขจัดความหลอกลวงภายในคือการสะสมพลังสัจจะขึ้นมาให้คงความจริงแท้ที่สวยงาม ให้คุณประโยชน์ และไม่สูญสลาย ดวงวิญญาณจะเปล่งประกายด้วยความบริสุทธิ์ของความจริงแท้ที่อยู่ภายใน ส่วนพลังงานที่สร้างสรรค์ของพระเจ้านั้นจะบันดาลให้ความบริสุทธิ์กลับคืนมาสู่ชีวิต จากการมีความซื่อสัตย์ต่อตัวตนที่สูงสุดของตนและดึงดูดพระเจ้าผู้ชำระล้างบาปและมลทินทั้งหลายมา ให้เราได้ฉายแสง โปร่งใส เพราะพระเจ้าคือสัจจะ พลังของพระเจ้าเองย่อมสร้างสรรค์สิ่งที่สวยงามและให้ประโยชน์สูงสุดสำหรับโลก ตราบนานเท่าที่มนุษย์นั้นจะมีความบริสุทธิ์รองรับเพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน การสร้างสรรค์ปรากฎให้เห็นในกิจกรรมที่โน้มนำคุณธรรมที่สูงส่งมาสู่วิถีชีวิตอย่างเป็นธรรมชาติ ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับความซื่อสัตย์ทั้งสิ้น ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนจบของละครชีวิต เมื่อเราซื่อสัตย์ต่อตนเอง ต่อพระเจ้า และผู้อื่น เราจะกลายเป็นเพชรแท้ของงานสร้างสรรค์ที่สวยงาม และให้คุณประโยชน์สูงสุด ในเวลาเดียวกัน การกลับมาสมบูรณ์พร้อมต้องผ่านสภาพที่อยู่เหนือบ่วงกรรม กรรมที่เราต่างทิ้งเรื่องราวและร่องรอยของความเจ็บปวด เป็นบาดแผล เป็นความทุกข์ในหัวใจผู้อื่น นี่คือผลกระทบของความผิดที่ทำไว้ในความสัมพันธ์ต่างๆ จึงจำเป็นต้องมีความซื่อสัตย์มากขึ้น ในการยอมรับและแก้ไข เพราะผู้คนเวลานี้ไม่ได้กลัวพระเจ้ามากไปกว่ากลัวการถูกปฏิเสธหรือไม่เป็นที่ยอมรับของใคร กลัวว่าใครจะพูดถึงหรือคิดถึงเขาอย่างไร ดังนั้น จึงเป็นเวลาที่เราต้องมองเห็นหัวใจของเขา และปล่อยให้หัวใจของเราละลาย ยอมรับ และให้อภัยในความเป็นมิตรแท้ของสัจจะเพื่อแสดงความจริงใจในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นมาในอดีต ในกระบวนการกลับมาเป็นเพชรด้วยความสมบูรณ์พร้อม(Perfection) ที่ปรากฏเป็นผลงานสร้างสรรค์อันยิ่งใหญ่ที่สุด เท่าที่มนุษย์จะทำได้ด้วยการช่วยเหลือของพระเจ้าเท่านั้น

เป็นอิสระ (อึ่ง) 2/2/24
เป็นอิสระจากการสูญเสียทั้งหมดที่มาจากความผูกพันยึดมั่น ทำให้เราขาดประสบการณ์ของพลังและความรักของพระเจ้าอย่างแท้จริง พระเจ้ามาสอนให้เราเห็นด้วยปัญญา ให้เป็นอิสระจากอิทธิพล การถูกบีบบังคับ ความผูกพันยึดมั่น ที่กีดขวางหนทางไปสู่สัจจะสูงสุด สู่การบรรลุผลในการใช้ชีวิตที่ยิ่งใหญ่ เช่น บราห์มา บาบา เป็นตัวอย่างของผู้มีบุคลิกภาพที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เราต้องอยู่อย่างเป็นนาย ในการเป็นตัวของตนเอง ไม่ติดยึดในความผูกพันที่ทำลายสัจจะ ด้วยการเพิ่มคุณภาพของความคิด มีระเบียบวินัยในการใช้เวลาและลมหายใจ ที่จะปลุกเรียกตัวตนที่แท้จริง ผู้ทรงอำนาจ และอยู่อย่างเป็นมิตรร่วมทางกับพระเจ้า เพื่อได้รับพลังและพรจากพระเจ้า มาเพิ่มคุณค่าชีวิตตนเอง เมื่อมีทุกความคิดในการรับใช้ช่วยเหลือผู้อื่น ชี้นำการหลุดพ้นให้แก่ทุกคน เราจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเวลา เพื่อสร้างความสำเร็จให้กับตนเอง และให้คุณประโยชน์แก่ผู้อื่นและโลก

นุ่มนวล (กระต่าย) 3/2/24
การพัฒนาความนุ่มนวล อ่อนโยน ได้อย่างแท้จริง เราต้องขจัดทุกสิ่งที่ซ่อนอยู่ ที่สร้างความไม่สบายใจ ความกัดกร่อนในสำนึก รวมทั้งความสงสัย ความวิตกกังวล และความกลัว อันเป็นสาเหตุของการถูกกระทบกระแทกอย่างแรงตลอดเวลา เราจำเป็นต้องเรียนรู้ที่จะให้อภัยตนเอง(Self-forgiveness) เพื่อแก้ปัญหานี้ แล้วปรับฐานให้แน่ใจว่า...ทำสิ่งที่ดีกับตนเองก่อน การให้อภัยต้องเป็นไปในทางปฏิบัติจริง ตรงไปตรงมา ร่ำลาและลืมความผิดนั้นให้ได้ ความนุ่มนวลจึงตามมาด้วยการอยู่อย่างมีศักดิ์ศรี จริงแท้กับตัวตนภายใน เรียนรู้และเข้าใจอย่างมีปัญญา จัดโปรแกรมข้างในให้ดีขึ้น ซื่อสัตย์ บาบาให้เราเป็นครูที่มีธรรมชาตินุ่มนวล มีความถ่อมตน พร้อมกับทัศนคติของความปรารถนาดี และสายตาที่มองเห็นทุกคนเป็นดวงวิญญาณ อยู่ในการเชื่อมโยงกับแหล่งแห่งพลัง ได้รับผลหรืออิทธิพลของพระเจ้าเท่านั้น ทำให้ตนเองเข้มแข็ง เดินหน้าด้วยแรงศรัทธา ใช้ความนุ่มนวลทำให้ชีวิตเรียบง่าย ง่ายดาย และพร้อมเผชิญความจริงอย่างกล้าหาญและอ่อนหวานในการปฏิสัมพันธ์

มองโลกในแง่ดี (แดง) 4/2/24
การมองโลกในแง่ดีที่จริงแล้ว คือการได้รับอิทธิพลของพระเจ้าทางความคิดในทุกขณะจิตเหมือนแสงแวบขึ้นมา สติปัญญาสัมผัสได้ว่าเป็นแสงแห่งการรู้แจ้ง ที่เปิดล็อคของสำนึกรู้เพื่อซึมซับพลังของความรัก ความสงบของพระเจ้าไว้ได้ ขณะที่เติมเต็มดวงวิญญาณด้วยความรู้สึกเหล่านี้ จะมีความรู้สึกเหมือนได้พบบางสิ่งที่มีค่าที่เราทำหายไป สามารถเห็นความแตกต่างของสภาพจิตก่อนและหลังนี้ เนื่องจากเราเคยขาดความรักที่ยิ่งใหญ่นี้ ราวกับอยู่ในความมืด มีความสับสน วิตกกังวล แยกไม่ได้ อะไรคือความจริง อะไรคือความดี เมื่อแสงได้แตะหัวใจ เราจะรู้ว่า อะไรคือความคิดที่เป็นบวก เมื่อแสงแห่งความรักวาบเข้ามา เราจะเบ่งบานเหมือนดอกไม้ที่สวยงาม การมองโลกในแง่ดีคือการเห็นทุกสิ่งที่ตนเองได้มา เป็นสิ่งที่เคยมีอยู่ดั้งเดิม จึงรู้ค่าและทำทุกอย่างให้ได้มาทุกขณะด้วยการมีความคิดในแง่ที่ดี นำมาปรับเปลี่ยนวิธีคิด ชีวิตก็เปลี่ยนไป ให้ได้สัมผัสกับแสง เพิ่มความสว่างไสวในจิตใจ ก้าวเข้าสู่โลกแห่งแสงนี้ให้ได้ ให้เราเป็นแสงสว่าง เป็นหนทางแก่ทุกคน ร้อยเกี่ยวทุกคนไว้ด้วยความพอใจในบทบาทพิเศษเฉพาะตน นี่คือผลของความปรารถนาดีและพรของวันนี้

ผจญภัย (เหมียว) 5/2/24
ผู้ที่สามารถเห็นและเข้าใจชีวิตตนเองตั้งแต่ต้นจนจบ ชาติแรกถึงชาติสุดท้าย ทุกวงจรจะกลับมาสาโตประธานได้ คือการผจญภัยที่แท้จริง และเรียนรู้ที่จะอยู่อย่างปลอดภัยจากการถูกกระทบของอิทธิพลของความอ่อนแอในตนเอง ความเคารพตนเองเป็นสิ่งจำเป็นที่ช่วยพัฒนาการปลูกฝังสำนึกรู้ทางจิตและยกระดับความคิดจนสามารถเชื่อมโยงกับพระเจ้า จนกลายเป็นมนุษย์ที่มีศักดิ์ศรีที่พระเจ้าหล่อเลี้ยง มีอำนาจการปกครองตนเอง ซึ่งเป็นรากฐานของความกลมกลืนในความสัมพันธ์ที่สอดประสานกันในบุคลิกภาพที่ต่างกัน เป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ที่เราต้องเผชิญกับการปรับเปลี่ยน เรียนรู้ที่จะรักษาดุล ให้เรามีความสัมพันธ์กับทุกคนได้ ซึ่งต้องใช้ความเพียรพยายามของทั้ง 3 คุณสมบัติที่จะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการผจญภัยกับสิ่งท้าทายทั้งหมดในชีวิต 1. ความรัก 2. ความเมตตา 3. การให้อภัย จงเมตตาและให้อภัยต่อตนเองด้วยความรักเท่านั้น แล้วลืมอดีตให้ได้ เพื่อเราจะก้าวหน้าต่อไปและสามารถมีความรู้สึกที่จริงแท้ของความรักและเมตตาต่อผู้อื่น

มองโลกในแง่ดี (ภา) 6/2/24
เป็นหน้าที่ที่เราจะมองโลกในแง่ดี เพื่อปรับเปลี่ยนตนเองอย่างลึกล้ำจนส่งผลถึงการเปลี่ยนกระแสโลกได้อย่างกว้างไกล จบสิ้นบทบาทในการทำผิดทั้งหลาย และมุ่งสู่ตัวตนที่สมบูรณ์พร้อม มองโลกในแง่ดีให้ประสบการณ์ที่ดี เหมือนกลับมาแตะหมอนรองกระดูกสันหลังทำให้แข็งแรง เหมือนรถมีแหนบกันกระเทือนวิ่งไปบนถนนขรุขระ สามารถปะทะกับปฏิกิริยาที่เป็นลบของทุกสิ่งอย่างที่อยู่รอบข้าง ไม่แบกน้ำหนักเกินด้วยความคิดที่ไร้ประโยชน์ ที่ดูดซับรับความทุกข์ทรมานของผู้อื่น ทั้งที่ตนเองก็ไม่มีภูมิคุ้มกัน จนหัวใจแห้งแล้ง หมดแรง มองโลกในแง่ดี คือเปลี่ยนทัศนคติของตน ที่จะเพิ่มศรัทธาในตนเอง ในพระเจ้า ในครอบครัว ในละคร เฝ้าแต่ฝึกโยคะ และการเชื่อมโยงกับพระเจ้า ให้ได้มาซึ่งความเป็นบวก ความเป็นกลาง มีพลังการละวาง พร้อมสร้างฐานบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสงบ ความสุข นี่คืองานรับใช้ที่น่าอัศจรรย์ มีศิลปะในการรับใช้ช่วยเหลือด้วยกระแสจิตซึ่งเป็นฐานของความรักที่ละเอียดอ่อน การมองโลกในแง่ดีคือการเปลี่ยนลบให้เป็นบวกในระดับที่ลึกลงไปด้วยการจดจำศักดิ์ศรีและความสูงส่งดั้งเดิมของตนเอง สภาวะสูงสุดของสัจจะภายในของเรา

รอบรู้ (ศรี) 7/2/24
คือการรู้แจ้งจากการนำความรู้ไปใช้ในการแก้ปัญหา มีพลังทางจิตวิญญาณและคงอยู่อย่างเต็มไปด้วยสาระของความรู้
  1. รู้ว่าฉันเป็นดวงวิญญาณ มีเอกลักษณ์ทางจิต สามารถจัดระเบียบจิตใจให้มั่นคงและพัฒนาพลังจิตขื้นมา จดจ่ออยู่ข้างใน
  2. รู้ว่าพระเจ้าเป็นใคร และฉันเป็นของใคร? ฝึกฝนจิตใจจดจ่ออยู่กับพระเจ้าผู้เดียว ไม่เพียงเห็นปัญหาอย่างชัดเจน แต่สามารถที่จะจัดการและแก้ไขปัญหาได้ เรียนรู้และกลายเป็นนักเรียนที่ดีที่สุด จดจ่ออยู่ภายใน ไม่ว่าจะต้องรับผิดชอบมากเพียงใด เรารู้ว่า...เราจะกลายเป็นนายของโลก ไม่ถูกกระทบและไม่ตกภายใต้อิทธิพล
  3. รู้ว่าเวลานี้ฉันต้องทำอะไร? และกฎแห่งกรรมคืออะไร? ท่านสอนให้เราทำกรรมที่สูงส่งเท่านั้น
กรรมที่สูงส่งนั้นคืออะไร…
  1. ทำกรรมเช่นเดียวกับพระเจ้า ในการขจัดความทุกข์และให้ความสุขกับทุกคน ในทุกศาสนา ท่านไม่เพียงปลดปล่อยเราจากอดีตแต่สอนให้เราทำกรรมที่ถูกต้องต่อไป เข้าใจปรัชญาแห่งกรรมอย่างชัดเจน
  2. กรรมที่สูงส่งคือทำกรรมที่ไม่ก้าวร้าวรุนแรงคืออหิงสา...จบสิ้นการเบียดเบียน ความไม่ชอบ หรือความก้าวร้าว การกล่าวโทษ และมีความรุนแรงใดๆ มีความรู้สึกถึงความรักและมีศรัทธาต่อพระเจ้าอย่างแท้จริง และกลายเป็นเครื่องมือของพระเจ้า

สดชื่นแจ่มใส (สุทธิ) 8/2/24
จดจำเสมอว่าฉันบราห์มินคือจุก(topknot) กำลังกลายเป็นผู้ที่สูงส่ง คงอยู่ในสติปัญญาเสมอว่า "ของฉันคือผู้เดียว และไม่มีใครอื่น" ดวงวิญญาณจึงร่ายรำอย่างสูงส่ง สดชื่นแจ่มใสทั้งในหัวใจและบนใบหน้า เพราะมีการบรรลุผลที่ให้ประโยชน์อย่างแท้จริง ในความเพียรพยายามที่จะทำลายความผูกพันยึดมั่นในโลกเก่าอย่างสมบูรณ์ ไม่เหลือความเป็นลบ พระเจ้าดึงดูดเราเข้าไปหาด้วยหัวใจที่ซื่อสัตย์ เมื่อใช้ชีวิตกับคุณภาพของความรักที่แท้จริง ความคิด คำพูด การกระทำ อ่อนหวาน ถ่อมตน บริสุทธิ์ อยู่ในการจดจำระลึกถึงทุกลมหายใจ ยกกรรมและผลกรรมให้กับพระเจ้า คุณธรรมสดชื่นแจ่มใส มาพร้อมการรู้คิด จึงเบาสบาย ไม่รบรากับใคร ความมั่นคงภายในไม่ไหวหวั่นสั่นคลอนต่อมายาภายนอก เป็นนักแสดงเอกที่ใส่ใจทุกขณะในการหารายได้และดลใจผู้อื่นให้หารายได้จากงานรับใช้ นี้เป็นความสดชื่นแจ่มใสบนฐานของสัจจะที่มาพร้อมความอดทนที่ไม่มีความอยากความปรารถนาใด จึงเป็นความสดชื่นแจ่มใสบวกกับพลัง จะปรากฏให้เห็นว่าไม่มีความอ่อนแอใดบนใบหน้าหรือพฤติกรรมที่เรียกร้องความสนใจ จึงอยู่อย่างสดชื่นแจ่มใสบนฐานของสัจจะและทำให้ทุกคนสดชื่นแจ่มใสด้วยกันกับเรา นี้เป็นโชคของจิตใจ และเป็นความสำเร็จที่แท้จริง

บริสุทธิ์ใจ (นันท์) 9/2/24
ความบริสุทธิ์ใจ คือการมีความปรารถนาที่จะมีคุณสมบัติที่ดี ให้ทุกคนดำเนินชีวิตที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อมีการผสมผสานคุณสมบัติของพระเจ้า สัมผัสได้ถึงสัจจะ ความรัก ความสุข ความสงบ ความบริสุทธิ์ ที่เป็นคุณสมบัติดั้งเดิมของดวงวิญญาณ เมื่อมีความบริสุทธิ์ภายใน จะเป็นมิตรกับพระเจ้าได้จริงแท้ เป็นของพระเจ้า ความบริสุทธิ์เริ่มจากภายในที่ฝังรากลึกในร่องความทรงจำ เราจึงต้องปลุกความบริสุทธิ์ที่แท้จริงนี้ให้ตื่นขึ้น เริ่มด้วยการทำความสะอาดอย่างซื่อสัตย์จากภายนอกเพื่อขจัดเมฆหมอกที่หลอกลวงใจ เคลียร์ใจ ปรับความเข้าใจจนถึงเขียนจดหมายถึงพระเจ้า สติปัญญาจะเปิดขึ้น ให้เห็นแสงของความเข้าใจที่ลึกล้ำทำให้ตระหนักรู้ได้ว่าตัวตนที่แท้จริงของเราเป็นใคร บริสุทธิ์มากเพียงใด จดจำพ่อแม่ที่แท้จริงของตนได้และทุกชีวิตที่อยู่ข้างหน้าคือพี่น้องกัน สิ่งที่ปรากฏให้เห็นคือการละทิ้งสำนึกหยาบๆของร่างกายได้ เหมือนได้รับการปลดปล่อย ในเวลาสุดท้ายจะปล่อยร่างของเราได้ง่ายดาย สิ่งที่ต้องทำในขณะนี้คือมีความปรารถนาดีที่บริสุทธิ์ที่จะเป็นเทวดานางฟ้า เป็นการพัฒนาจิตวิญญาณที่พระเจ้ากำหนด เราจะพบความบริสุทธิ์ใจของบราห์มาที่ท่านสร้างชีวิตของเราขึ้นมาด้วยความคิดของท่าน ท่านพยายามทำให้เราเป็นเหมือนท่าน ด้วยพลังความบริสุทธิ์ใจ เราจะเป็นเช่นพ่อ เพียงทำตามพ่อบราห์มา

รอบรู้ (โบว์ลิ่ง) 10/2/24
รอบรู้ การมีปัญญามาจากการเข้าใจกฏแห่งกรรมอย่างลึกล้ำและเอาชนะกิเลสได้ ซึ่งเป็นเหตุแห่งทุกข์ทั้งหมด รอบรู้ คือ การมีปัญญา ด้วยความบริสุทธิ์ (To be wise is to be pure) ทุกสิ่งอยู่ในมือของเรา เรากำหนดชะตากรรมของเราได้ และปรับเปลี่ยนไปตามกฏแห่งกรรม สถานการณ์ที่ปั่นป่วนจะเกิดขึ้นในชีวิตของเราอยู่แล้ว แทนที่เราจะตื่นเต้น ตกใจ หรือสิ้นหวัง เราสามารถสร้างสรรค์ ด ้วยความแน่วแน่ มั่นคง เพราะความเข้าใจ คำว่า "การกำหนดจุดหมายปลายทางไว้แล้ว" และ "ทำให้สิ่งนี้เป็นไปได้" เพราะฉะนั้นการกำหนดจุดหมายปลายทางทำงานร่วมกันกับปรัชญากฎแห่งกรรม จะคอยเตือนเราว่า ไม่มีอะไรเกิดขึ้นโดยบังเอิญ นั่นคือหว่านเมล็ดอะไร ก็จะเก็บเกี่ยวในสิ่งนั้น การมีปัญญาและรอบรู้ คือรู้ว่าตัวเราเองมีอิสระในการที่จะตัดสิน ไม่มีใครบังคับ ไม่ตกภายใต้อิทธิพลของใคร เมื่อไหร่ก็ตามสิ่งใดที่ยากลำบากเกิดขึ้น จะมี 2 ประโยคที่ต้องพูด
  1. สิ่งนั้นมันต้องเกิดขึ้นอยู่แล้ว เป็นการกำหนดจุดหมายปลายทางไว้แล้วด้วยการร่วมมือกับกฏแห่งกรรม
  2. จงลอยตัวเหนือขึ้นมา และก้าวหน้าต่อไป ตามเจตจำนงเสรี(Free will) ของตนเอง รอบรู้ คือ มีอิสระ มีปัญญาที่จะเลือกเส้นทางไปสู่ความสุขที่แท้จริงของชีวิต

นุ่มนวล (หญิง) 11/2/24
ความนุ่มนวล คือการเป็นผู้ประทานด้วยความอิ่มเต็มในสมบัติที่มีค่าอันเกิดจากการจดจำระลึกถึงบาบาผู้เป็นแหล่งแห่งสมบัติที่มีค่าทั้งหมด ความปรารถนาดีและความรู้สึกที่บริสุทธิ์ของการรับใช้จะสร้างบุคลิกภาพทางจิตที่มีความสุขปรากฏขึ้นมาในพฤติกรรมและบนใบหน้า ด้วยความรักและความเคารพที่จริงแท้ที่มาจากความไว้วางใจจะไม่มีความลำบากตรากตรำ ความทุกข์ ความหนักหน่วง อันเป็นเหตุของความไม่นุ่มนวลในพฤติกรรมและใบหน้า ความรักที่บริสุทธิ์ของบาบานี้เองกำลังเปลี่ยนแปลงสิ่งนั้นอยู่ด้วยการเติมเต็มหัวใจพลังแห่งความรักที่เราได้รับมาสามารถเปลี่ยนความรักไม่ว่าจะเป็นของจริงหรือของปลอมให้กลายเป็นที่น่ารัก มีความบริสุทธิ์ เป็นของจริง เมื่อความรักนั้นเป็นจริง เราจะเป็นอิสระจากการผูกพันยึดมั่นกับการยึดเหนี่ยวเกี่ยวรั้ง การทำสิ่งใดเพื่อประกาศสิทธิ์และวางอำนาจในชีวิตของกันและกัน นั่นไม่ใช่ความนุ่มนวล เพราะความนุ่มนวลอ่อนโยน ในปฏิสัมพันธ์ของกันและกันนั้น ไม่โลดโผนโจนทะยานด้วยอารมณ์ของความเหวี่ยง แต่ต้องมาจากธรรมชาติที่สูงส่งอย่างแท้จริงที่เริ่มปรากฏขึ้นมาและมีอิทธิพลเหนือเราได้อย่างละมุนละไม เป็นเรื่องของความรักที่ละเอียดอ่อน ความเมตตาที่มีปัญญา ในการระงับยับยั้งภาวะความอยากความปรารถนา เราจึงสามารถอยู่อย่างอดทนอดกลั้นเต็มไปด้วยความอ่อนโยนนุ่มนวลในปฏิสัมพันธ์ที่มีต่อกันและในงานรับใช้

เชื่อมั่นในตนเอง (ปุ้ม) 12/2/24
ผู้ที่เชื่อมั่นในตนเอง มีเป้าหมายพัฒนาถึงขีดสุดของตน เพื่อบรรลุผลถึงการหลุดพ้นในชีวิต ด้วยความเข้าใจอย่างชัดเจนว่าอะไรเป็นสิ่งกีดขวางที่ทำให้ขาดพละกำลังในการกำหนดความคิดไปสู่การกระทำ การศึกษาที่แท้จริงที่เป็นสัจจะ ทำให้สามารถใช้ชีวิตเพียงทำกรรมตามความคิดของตนเองได้บนฐานของศรัทธาในพระเจ้า...ด้วยสัจจะในหัวใจ เพื่อตนเองและให้แรงบันดาลใจแก่ผู้อื่น นี่คือความจริงแท้
  • ความเชื่อมั่นในตนเองเป็นบุคลิกภาพที่เราต้องสร้างขึ้นมาด้วยตนเอง ด้วยการวางรากฐานด้วยความลึกล้ำในความนิ่งเงียบภายใน เพื่อมีประสบการณ์ของความเงียบสงบจากข้างในซึ่งเป็นพลังงานหลักในการสร้างชีวิตของเรา เราตระหนักรู้ถึงตัวตนที่แท้จริง และงานที่เราทำนั้นอยู่บนฐานทีมงานที่เราสร้าง นี่คือการทำให้ตนเองบรรลุผล ความเงียบสงบคือพลังงานหลัก ทำให้อยู่ในสภาพการสำรวจตนเองอย่างแท้จริง การลงลึกเข้าข้างในทำให้อยู่เหนืออิทธิพลของเสียงและภาพ เต็มไปด้วยพลังของการละวางจากเอกลักษณ์ภายนอกทั้งหมด และโลกที่มีขีดจำกัดของความคิดและความรู้ต่างๆ
  • ผูกพันยึดมั่นกับบุคลิกภาพทางจิตของตน ในการเป็นผู้มีความสงบภายในและพลังภายใน นี่คือพละกำลังทางจิตวิญญาณที่ทำให้ตัวเองเป็นผู้ช่วยผู้อื่นได้ เพราะจิตใจที่เต็มไปด้วยระเบียบวินัย เต็มไปด้วยความสงบ และความสุข จิตใจที่เข้มแข็งไม่ถูกกระทบจากสิ่งใด ความมั่นใจในตนเองถูกสร้างขึ้นมาด้วย จิตใจและสติปัญญา ที่มุ่งตรงไปสู่เป้าหมายของการเป็นไทแก่ตน อยู่บนความเคารพตนเอง ชื่นชม รู้ค่าในสิ่งที่ตัวเองทำและเป็น ความมั่นใจในตนเองเกิดขึ้นเพื่อทำให้ผู้อื่นได้รับแรงบันดาลใจ และช่วยให้ผู้อื่นเติบโต

ละวาง (ไก่) 13/2/24
พลังการละวาง คือการอยู่เหนืออิทธิพลของผู้อื่นและสิ่งใดภายนอก ที่สามารถเข้ามาควบคุมจิตใจจากสำนึกที่เป็นร่างและการคาดหวังในทุกความสัมพันธ์ ก้าวแรกของการละวางคือ การเข้าใจภาวะที่เป็นจิต อยู่เหนือทุกสิ่งภายนอก เพื่อสร้างบุคลิกภาพทางจิต ชีวิตที่ปราศจากร่างเช่นพ่อ ด้วยการตระหนักรู้จักตนเองและพ่อผู้เป็นสัจจะผู้เติมเต็มชีวิตด้วยความสูงส่ง คุณค่า ความดี ความสงบและพลังภายใน ละวาง คือการคงอยู่ที่ศูนย์กลางความผ่องแผ้วทางจิต ความสงบภายใน และพลังภายใน กลายเป็นมิตรร่วมทางชีวิตของพระเจ้าที่จะไม่มีวันรู้สึกเดียวดายที่ต้องอยู่ตามลำพัง จะคงความสุขอยู่เช่นนั้น แม้ว่าในชีวิตแต่ละวันเต็มไปด้วยสิ่งท้าทายให้ละวาง การละวางไม่ใช่เรื่องที่ต้องแยกตัวห่าง เพียงแต่คงอยู่ในสำนึกที่แท้จริงของตนเอง ที่กำลังเล่นบทบาทที่ต่างกันไป พระเจ้าสร้างเวทมนต์ที่น่าตะลึงงันหลากหลาย ที่ทำให้เราพร้อมให้ความรัก ความร่วมมือกับผู้อื่น ทำให้เราเป็นแหล่งแห่งแรงบันดาลใจให้กับกันและกัน ความรักของพระเจ้ามีแต่จะเพิ่มพูนความสามารถในการนำทุกสิ่งมาใช้ทำทุกสิ่งให้เกิดการพัฒนาในทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นความสามารถหรือปฏิสัมพันธ์ในรูปใด

พอใจ (บุ๋ม) 14/2/24
วันของความรักและพอใจที่จะสำรวจตรวจสอบตัวเอง ว่าสามารถจะเป็นดวงวิญญาณที่สดชื่นแจ่มใสได้ตลอดเวลา เพราะเห็นความเมตตาที่บาบามีให้ อยู่อย่างสำนึกรู้ถึงความเป็นดวงวิญญาณ ไตร่ตรองมหาสมุทรแห่งความรู้ให้เข้าใจ และไต่ระดับการเรียนรู้ให้สูงขึ้นไปได้เรื่อยๆ เพื่อเป็นประโยชน์กับตัวเองและดวงวิญญาณอื่นๆ เรียนรู้ที่จะเปลี่ยนจากหนามเป็นดอกไม้ที่สวยงาม พอใจที่จะศึกษาเล่าเรียน รู้พิจารณาอยู่เสมอว่าทุกความเพียรพยายามเป็นไปเพื่อเมตตาทั้งตนเองและดวงวิญญาณอื่นๆ ความสำเร็จที่งดงามคือความสดชื่นแจ่มใส พอใจในสิ่งที่ตนเองสร้างด้วยความเคารพตนเองจากภายในและชื่นชมกับหนทางที่กำลังเดินหน้าสู่เป้าหมายที่ชัดเจน เกิดความมั่นใจ พอใจ เป็นสุข และทำให้ทุกคนพอใจทั้งในชีวิตครอบครัวทางจิตนี้ รวมทั้งครอบครัวทางโลกจะได้รับประโยชน์จากการทำให้ครอบครัวทางจิตเป็นปึกแผ่น พระเจ้าจะเป็นผู้มอบประกาศนียบัตรของความพอใจด้วยความไว้วางใจ

นุ่มนวล (นิ) 15/2/24
ความนุ่มนวล เป็นความเพียรพยายามทางจิต ที่ทุกคนต้องการเข้ามาร่วมขบวนการการเปลี่ยนแปลงตนเองโดยอัตโนมัติ เพียงคงอยู่อย่างนุ่มนวลอ่อนโยน กับธรรมชาติของตนเองที่จะให้ประโยชน์ เช่นแม่น้ำที่ใสสะอาดบริสุทธิ์ มีแรงดึงดูดในตนเองอย่างเป็นธรรมชาติ ความนุ่มนวลเป็นพลังทางจิตของเราที่สูญหายไปเพราะ
  1. ความผูกพันยึดมั่น เราคิดว่าเราต้องจัดการกับเรื่องนี้เรื่องนั้น โดยลืมไปว่าความเป็นอยู่ที่ดีของเราไม่ได้ขึ้นอยู่กับผู้ใด แต่ละคนมีความพิเศษสุดของตน
  2. การพึ่งพาคนอื่นเพื่อความสบายใจและการหลุดพ้น แท้จริงเป็นการหลอกลวงกันและกัน นำไปสู่ความเจ็บปวดอย่างแรงเมื่อที่พึ่งพิงมีอันเป็นไปหรือแปรเปลี่ยน
เราต้องมุ่งสู่เป้าหมายที่จะเป็นอิสระได้ด้วยตนเอง เพื่อช่วยให้ผู้อื่นเป็นอิสระได้ เราต้องมีเป้าหมายที่จะยกระดับจิตใจและคุณภาพชีวิตของกันและกันโดยการสร้างมิตรภาพที่แท้จริง เราจะมีอิทธิพลทางบวกจากสภาพที่สูงส่งที่สุดของเราเอง คงเจตนาที่จะช่วยเหลือโดยไม่ต้องการสิ่งตอบแทน เรียนรู้ที่จะมีความรักต่อตนเอง บนฐานของความเพียรพยายามที่จะช่วยผู้อื่น หากเราช่วยได้เช่นพ่อที่เปลี่ยนหนามเป็นดอกไม้ด้วยความรัก เราก็จะเติบโตทางจิต มีความนุ่มนวล อ่อนหวานในการสร้างมิตรภาพทางจิต เพื่อที่จะเติบโตร่วมกัน ไปถึงเป้าหมายเดียวกัน

มีสัญชาตญาณ (มาลินี) 16/2/24
มีสัญชาติญาณ เป็นเรื่องราวของการรู้วิธีที่จะสนทนากับตนเองเกี่ยวกับความสูงส่งภายใน ที่สามารถจดจำสัญญาที่ทำไว้กับตนเองและบาบาว่า ฉันจะเป็นผู้ปกครองตนเอง เรียนรู้ที่จะพูดกับจิตใจของตนเองอย่างถูกต้อง เป็นแม่ที่ดีให้แก่จิตใจ เหมือนพูดกับเด็กด้วยความรัก สอนในสิ่งที่ดีและเป็นบวก ช่วยให้จิตใจยกระดับความคิดของตนเองขึ้นไปสู่การกระทำได้ในที่สุด เป็นการเชื่อมโยงระหว่างจิตใจที่สงบและพฤติกรรมที่ดี ทำให้เข้าใจระบบกลไกของความรู้สึกผ่านประสาทสัมผัส ไม่ว่าจะรับรู้ด้วยการเห็น สัมผัสด้วยมือ ได้ยิน และได้กลิ่นที่ห่วงใยกันอยู่ เมื่อจดจำสัญญาได้ ทำให้รู้คิด มีการแก้ปัญหาที่ดี การศึกษาทำให้จิตใจเข้มแข็งในครอบครัว ทำให้มีความสุขภายใน มีสัจจะในการกระทำ พละกำลังนี้คือสัญชาตญาณที่นำไปสู่การควบคุมประสาทสัมผัส ตรวจสอบและเตือนจิตใจของเราอย่างมีสติ ไม่ว่าจะทำอะไร นี่คือก้าวแรกที่จะเป็นนายปกครองอาณาจักรของตนเอง

ไว้วางใจ (เก๋) 17/2/24
ความไว้วางใจ เกี่ยวโยงกับความปรารถนาดีที่จะช่วยเหลือกันและกันให้หลุดพ้นจากอิทธิพลของสิ่งที่เลวร้ายและทำลายความเชื่อมั่นในสัจจะ จำเป็นต้องมีทั้งฝ่ายเราที่ไว้วางใจเขาและฝ่ายเขาที่ไว้วางใจเรา ผู้คนเริ่มไว้วางใจเราเมื่อเห็นเราเอาชนะปัญหาต่างๆได้อย่างน่าเชื่อถือ คงเส้นคงวา เป็นเวลาที่ยาวนานด้วยพลังที่สามารถยืนหยัดอยู่ได้ด้วยตนเอง เมื่อเรามีพลังโยคะ พลังของการจดจำ ผลของความบริสุทธิ์ปรากฏชัด การตัดสินไม่ให้ผลร้ายแก่ใคร แต่มีความถ่อมตน สามารถทำงานกับทุกคนได้อย่างสอดคล้องกลมกลืน เราต้องรักษาสัจจะที่มีอยู่และอยู่อย่างมีสัจจะที่จะใช้ชีวิตกับทุกสิ่งทุกคนอย่างระมัดระวัง ทุกสิ่งที่เราเคยทำมาด้วยความไม่เข้าใจ ด้วยความหลงทะนงต้องเปลี่ยนเป็นความรักที่จะทำอะไรให้ทุกคนบริสุทธิ์ นี้คือการละวางทางจิตที่แท้จริง จงอยู่อย่างไว้วางใจในเวลาที่ทุกสิ่งและทุกคนต้องเปลี่ยนแปลง เพียงแต่เป็นตัวอย่างในการรักษาสัจจะและคงอยู่อย่างมีสัจจะ

ให้อภัย (ปุ๋ย) 18/2/24
ปลุกความกล้าหาญขึ้นมา ล่วงรู้ว่าเราคือผู้เมตตาที่ยิ่งใหญ่ ยืนอยู่บนความซื่อสัตย์ ที่จะรับผิดชอบต่อทุกสิ่งที่เรากระทำไป จึงสามารถหยุดความผิดได้ โดยไม่ปล่อยให้ตนเองต้องเวทนาตนเองมากไปกว่านี้ ใช้การฝึกฝนจิตใจนำไปสู่การตระหนักรู้ภายในด้วยสัจจะ และรับความรักจากพระเจ้าเพื่อเปลี่ยนแปลงตนเองให้ดีขึ้น ให้คงเกียรติและศักดิ์ศรีว่าฉันคือลูกของท่าน หลังจากได้รับบทเรียนในอดีตแล้ว เป็นสิ่งสำคัญมากที่สามารถปล่อยวางได้ เราจะทำในสิ่งที่ดีและจริงแท้ด้วยความรักและการช่วยเหลือของพระเจ้า สำหรับดวงวิญญาณที่กล้าหาญ วิธีเดียวกันใช้ในการปรับเปลี่ยนความสัมพันธ์กับผู้อื่น ....ขอให้ความรักของพระเจ้าเข้ามาเพื่อทำให้หัวใจของฉันกว้างใหญ่ ที่ให้เนื้อที่กับผู้อื่นในการแสดงบุคลิกภาพใหม่ และมุมมองใหม่ของเขาแก่ฉัน...ให้อภัย ด้วยความเข้าใจ ยอมรับ และปรับเปลี่ยนทุกสิ่งที่เกิดขึ้นจากข้างใน ด้วยความเมตตา ถ่อมตน เคารพ และรู้ค่าทุกคน เพื่อความเจริญก้าวหน้าของทั้งสองตามเวลา

มีศักดิ์ศรี (ชิ้ง) 19/2/24
เพราะมีปากกาขีดเขียนเส้นโชคที่สูงส่งของตนเอง ซึ่งเกิดจากการตระหนักรู้ในการเป็นดวงวิญญาณพิเศษ ที่พ่อให้ความรู้ ความเข้าใจว่าอะไรคือสิ่งที่ผิดหรือถูก จนนำไปปฏิบัติเพื่อเกิดปัญญา ที่จะมองเห็นปัญหาและแก้ไขได้ด้วยตนเอง จากการที่ไม่รู้เลยว่า ตนคือใคร ชีวิตจึงเต็มไปด้วยความสงสัย ไม่มั่นใจในการพัฒนาหรือก้าวหน้า เมื่อถึงเวลาฉันสามารถรื้อฟื้นความจำขึ้นมาใหม่ เห็นคำสัญญาที่ให้ไว้ในการบรรลุถึงเป้าหมายของความอิ่มเต็ม ความสมบูรณ์พร้อม ณ เวลานั้นจากสำนึกที่ถูกต้อง ฉันเป็นสุขกับการเรียนรู้และทดลอง มีศรัทธาและความเชื่อมั่นในตนเอง เช่นนี้จะเพิ่มพละกำลัง ไม่กวัดแกว่งไปกับความคิดความเห็นที่ล่อลวง เมื่อใช้ตาพายุของความนิ่งในความจริงแท้ข้างในฉันจะได้ยินเสียงมโนธรรม คอยเตือนอย่างอ่อนหวาน นุ่มนวล ฉันเริ่มสังเกตการณ์และเข้าใจ เพราะสัจจะจะดึงคุณค่าตนเองขึ้นมา ฉันชื่นชมรู้ค่าตนเอง ด้วยศักดิ์ศรีในการพัฒนาตนเองและมีเป้าหมายที่ชัดเจน พร้อมทั้งทำให้ตนมีปัญญาล่วงรู้ว่า ฉัน คือดวงวิญญาณ ชีวิตทางจิตที่ยิ่งใหญ่ สวยงาม เป็นอิสระ และมีสิทธิ์ในทุกสิ่ง

เชื่อมั่นในตนเอง (ปุ้ม) 20/2/24
เกิดจากเสียงเรียกหา...จุดพบปะของมโนธรรม เพื่อทอดสมอเรือชีวิต ณ ที่เรามั่นคงและมั่นใจในปัญญา ที่เต็มไปด้วยความเมตตาของหัวใจ โดยไม่ขึ้นอยู่กับสิ่งใดภายนอก และไม่มีเงื่อนไขในการที่เราต้องอยู่ร่วมกันในโลกที่วิกฤต จะพบกับการเปลี่ยนแปลง ที่มาจากความดีงามของดวงวิญญาณมนุษย์ด้วยกันเอง พระเจ้า...ให้ความรู้ ที่ทำให้มนุษย์อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข และใกล้ชิดกับพระเจ้าได้ ท่านสอนให้เราทำดีด้วยกัน ด้วยการรับฟังเสียงแห่งสัจจะ ที่สร้างพลัง…ของการปลุกเรียกมโนธรรม ให้ได้มีมิตรแท้ที่ใกล้ชิดภายใน หากเราเพิกเฉยต่อเสียงเรียกของสัจจะ เสียงนั้นจะหยุดพูดกับเรา ความมั่นใจจะไม่เกิดเพราะเรายังไม่ได้สัมผัสสัจจะ จิตใจไร้ความสงบ สติปัญญาสูญเสียความสามารถที่จะรับฟังเสียงเรียกของความถูกต้องยุติธรรม ชีวิตจึงไม่สามารถมีอำนาจในการตัดสินและมั่นใจในการทำอะไร เมื่อเรารับรู้คุณค่าของเสียงนั้น เราจะกลับมามีพลังและกล้าหาญ นี่คือพลังของความซื่อสัตย์ที่มาจากฐานของสัจจะที่คงอยู่ตลอดกาล ผู้มีสติปัญญาที่มั่นคงมีพลังของความซื่อสัตย์ ปลุกเรียกความซื่อสัตย์ของตนขึ้นมา และมีความซื่อสัตย์กับความสัมพันธ์ เรารู้ว่าสิ่งบ่งชี้ถึงธรรมชาติของมนุษย์ เป็นความดีงามที่ทุกคนต้องการจะรับฟังเสียงมโนธรรมของตน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในตนเองโดยที่ไม่ทำให้เกิดความทุกข์แก่ใคร

นุ่มนวล (นิ) 21/2/24
ขั้นแรกของความนุ่มนวลของตน คือการตระหนักรู้ถึงคุณค่าที่แท้จริงจากภายใน และสามารถเห็นว่าฉันคือลูกของพระเจ้า สูงสุดเหนือผู้ใด ไม่มีร่างกายที่จะแสดงความรุนแรงใดๆ จงมั่นคงในสำนึกนี้ ที่จะเริ่มเห็นและรู้ค่ารู้คุณว่าพระเจ้ากำลังปั้นแต่งฉันอย่างไร ทุกวันท่องมนตรานี้ว่าฉันรักและรู้ค่าตนเอง ในความสัมพันธ์ระหว่างเด็กและผู้ใหญ่ ในครอบครัว หรือในโรงเรียน ต้องมีการสร้างวัฒนธรรมสันติภาพขึ้นมาในการเคารพคุณค่าของกันและกัน มีความซื่อสัตย์ มีสัจจะ มีความจริงแท้ หรือคุณค่าความดีที่จะอยู่ร่วมกัน เด็กนั้นก็จะมีการพัฒนาไปในทิศทางที่ถูกต้อง เราจึงจำเป็นต้องนุ่มนวลและอ่อนโยนกับตนเอง ด้วยการหล่อเลี้ยงเด็กที่อยู่ภายในของตนหรือตัวตนที่แท้จริง เอาใจใส่ ดูแล ตั้งแต่ระบบของความคิด ความรู้สึก จนมีสมดุลของปัญญาที่ต้องชี้นำทาง ขณะที่พบอุปสรรคภายนอกมากมาย เราก็ต้องเปรียบเหมือนแม่ดูแลให้ลูกหรือจิตใจของเราได้รับความปลอดภัย และมั่นคง ความนุ่มนวลเป็นนายควบคุมอารมณ์ อยู่อย่างซื่อตรง มีความเป็นไท เป็นอิสระ ไม่พึ่งพิงสิ่งใดอย่างแท้จริง จงอ่อนโยนแต่อย่าอ่อนแอ จงกล้าแข็งแต่ต้องนุ่มนวลด้วยเช่นกัน

ผจญภัย (ป้าแมว) 22/2/24
ชีวิตที่ต้องอยู่ในโลกที่วนเวียนอยู่กับการกระทำที่เคยชินทั้งบาปและบุญ พฤติกรรมที่เป็นบาปทำให้เราไม่สามารถแยกออกว่าการกระทำใดลดพลังภายในลงไปและการกระทำใดเพิ่มปัญญาภายในขึ้นมา เมื่อเข้าใจว่าสิ่งไหนทำให้สูญเสียพละกำลังของเราและสิ่งไหนเป็นการทำด้วยสติปัญญา เรารู้ว่าตนเองกำลังสูญเสียพละกำลังบางอย่างจึงดิ้นรนที่จะเรียกกลับคืนมาอีกครั้ง การดำรงอยู่เพียงเพื่อให้ตนเองอยู่ได้ด้วยตนเองนั้นไม่เพียงพอ เราต้องรับใช้ในเป้าหมายที่เหนือกว่านั้น นี่คือการผจญภัยด้วยการเข้าใจว่าเราต้องตัดสินใจที่จะหันเหทุกสิ่งให้ไปในทิศทางที่ถูกต้องเพื่อกลับคืนสู่สภาพที่รับผิดชอบต่อโลกภายในของตนเอง เฝ้าแต่ทำการทดลองกับการสร้างความคิดที่ดี บริสุทธิ์ สูงส่ง เป็นบวก ยกระดับทุกคน ความคิดที่ดีเหล่านั้นเติบโตเป็นคำพูดที่ให้แรงบันดาลใจและช่วยเหลือผู้อื่น พิสูจน์ได้ในการกระทำ พลังของกรรมดีของเราจะเป็นตัวอย่างที่ดี ภายนอกอาจมองไม่เห็นมากมาย แต่พละกำลังภายในกำลังเติบโตขึ้นมาอย่างมหาศาล ขอให้เราใช้เวลาสำหรับการผจญภัยในการมองเห็นชีวิตที่มีทั้งด้านในและด้านนอก และอยู่อย่างพร้อมที่จะตายขณะที่มีชีวิตอยู่ เก็บสะสมพลังที่ทำให้สติปัญญาของเราทำงานและแยกแยะได้อย่างถูกต้อง

ผจญภัย (เหมียว) 23/2/24
ผจญภัยเพื่อที่จะความสำเร็จเกิดขึ้นเมื่อเราพอใจในตนเองและมีความสุขในกิจกรรมที่ตนเองทำ นั่นคือความพอใจและทำให้ผู้อื่นพอใจด้วย เบื้องหลังของการสูญเสียความสุขคือความหลงทะนงตน แทนที่จะทำตามศรีมัท กลับใช้ความคิดตนเองกำหนดทิศทางชีวิต จนเกิดปัญหาบานปลายตกอยู่ภายใต้ความเศร้าโศก เสียใจ หดหู่หัวใจ จำเป็นต้องเปลี่ยนความคิดในทันทีว่าทุกสิ่งเป็นเพียงข้อสอบเท่านั้น ที่มาเพียงชั่วครู่ ให้ปลูกฝังทัศนคตินี้ เพื่อที่จะคงอยู่อย่างมีความสุข เราจำเป็นต้องศึกษาเล่าเรียน ฝึกฝนและมีประสบการณ์ที่จำเป็น ทำให้สติปัญญามีพละกำลัง เพื่อสร้างพลังภายในขึ้นมา หัวใจขอบคุณรู้ค่าในโชคที่คิดว่าสูญเสียไปแล้วให้กลับคืนมา ละวางตนเองจากสถานการณ์และผงาดขึ้นมาอยู่เหนือทุกสิ่ง รวบรวมพละกำลังและเปลี่ยนแปลงตนเองจากลบเป็นบวกอย่างเร็ว และอยู่ในประสบการณ์ของความสุขในปัจจุบันที่เติมเต็มเราด้วยพลังแล้วเราจะสามาถช่วยให้ผู้อื่นมีความสุข ปัญญาและความสุขของเราเป็นสิ่งที่ควบคู่กัน

รับผิดชอบ (วิชญ์) 24/2/24
รับผิดชอบของความเป็นหงส์ที่สูงส่ง ชีวิตของการทำหน้าที่เช่นเดียวกับพ่อคือการมองเห็นแต่สิ่งที่สวยงาม ให้เคารพตนเองบนฐานของสัจจะที่หล่อเลี้ยงให้จิตใจกล้าแกร่ง กล้าเผชิญทุกอุปสรรคด้วยชีวิตที่รับประกันว่าสิ่งดีๆต้องเข้ามา รับผิดชอบการอยู่ร่วมกันด้วยพลังงานที่สร้างสรรค์ สร้างผลผลิตที่สวยงามและพลังในการอยู่ในความดีงามของกันและกัน การชื่นชมและรู้ค่าตนเองเป็นสิ่งที่งดงามที่เกิดขึ้นจากโลกภายใน นี่คือสภาพของหงส์ที่สูงส่ง ความเคารพตนเองที่เกิดขึ้นจะรักษาสมดุลภายในและสมดุลในความสัมพันธ์ ขณะที่มีความสัมพันธ์ต่อกันเราสามารถพึ่งพาตนเองได้ มีอิสระในการทำงานกับผู้อื่น รักผู้อื่น รวมกำลังกับผู้อื่นเพื่อจะก้าวหน้าไปสู่โลกใหม่ที่สวยงามที่พวกเราจะอยู่ด้วยกันในความรับผิดชอบต่อชีวิตตนและผู้อื่นในรูปของการเปลี่ยนแปลงตนเอง รู้ค่าตนเองและเห็นค่าผู้อื่นในเวลาเดียวกัน

นุ่มนวล (หญิง) 25/2/24
นุ่มนวลด้วยการทำตามพ่อ ครู และสัทกูรู ตอบรับ(ฮาจี้)ในสิ่งที่บาบาพูด ด้วยการมีพ่อเป็นผู้ให้การค้ำจุนแต่เพียงผู้เดียว เราสามารถดึงพลังจากท่านได้และเราก็สามารถเห็นค่าและเคารพตนเอง เรามีพลังของจิตวิญญาณ มีความกระจ่างชัดที่เข้าใจและแยกแยะทุกสิ่ง สามารถตอบรับกับสถานการณ์นั้นได้อย่างมีความสอดคล้องและกลมกลืน ปฏิสัมพันธ์กันอย่างนุ่มนวล อ่อนโยน ทำให้เรามีความสูงส่ง มีศักดิ์ศรีจากศักยภาพภายในของการเป็นผู้ที่จะช่วยพัฒนาความสูงส่งในผู้อื่นด้วยเช่นกัน พลังของพระเจ้าไหลรินอยู่ภายในดวงวิญญาณ ดวงวิญญาณสะอาดและพลังของความบริสุทธิ์นี้จะฉายแสงออกไปอย่างนุ่มนวลและอ่อนโยน ขณะที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจและความกระจ่างชัด สิ่งนั้นต้องกระจายออกไปสู่จักรวาล และทุกสิ่งที่เราเชื่อมโยงกับแหล่งนั้นเองก็จะเติมเต็มเราด้วยพลังแห่งความรักและพลังความสงบ ที่จะมีการแบ่งปันกับคนทั่วทั้งโลก

บริสุทธิ์ใจ (นันท์) 26/2/24
บริสุทธิ์ใจคือ การสอนจิตใจให้คิดบวก เพื่อให้สภาวะจิตมีปฏิกริยาในทางบวก มีอารมณ์สุนทรีย์ให้ปัญญาพัฒนาโดยการเชื่อมโยงกับพระเจ้า จากการเรียนรู้ที่มีอิทธิพลเหนือความคิด ความรู้สึก และอารมณ์ของตนเอง ทำให้การปฏิสัมพันธ์ส่งผลอย่างมีพลัง ในการเพิ่มศักยภาพ เพิ่มพละกำลังในการแสดงออก แม้แต่คำพูดก็ประทับไว้ในหัวใจ มีวิถีชีวิตบนหนทางที่ถูกต้อง เพราะมีความรักและความสัมพันธ์กับพระเจ้า ทำให้เราเป็นช่องทางที่พลังของพระเจ้าผ่านชีวิตของเราไปสู่ชีวิตผู้อื่น แล้วโลกก็จะเปลี่ยนแปลง การมีความบริสุทธิ์ใจไม่เพียงคิดว่าเรานั้นเป็นดวงวิญญาณที่ดีมีคุณค่า แต่คุณค่าของเราต้องทำให้ผู้อื่นมีคุณค่ามากขึ้น เราได้บรรลุผลในทุกสิ่งที่ให้คุณประโยชน์แก่ทุกคน เราได้ทุกสิ่งจากพลังของสัจจะ พลังในการนำความเป็นบวกไปสู่อำนาจของการเปลี่ยนแปลง ทำให้ชีวิตมีแต่พลังของการสร้างสรรค์ พลังของการก่อกำเนิดชีวิตใหม่ โลกใหม่

มองโลกในแง่ดี (ภา) 27/2/24
การมองโลกในแง่ดี หมายถึงการมองดูตนเองเพื่อจะมีปัญญาในการเพาะเมล็ดของความคิดลงบนเนื้อที่ของชีวิตให้เต็มไปด้วยคุณค่า ให้มีพลานามัยดี มีความเข้มแข็งและเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ละวันเราต้องเก็บเกี่ยวประสบการณ์ต่างๆ ที่หลากหลาย พลังทางจิตวิญญาณให้ความกระจ่างชัด เพื่อแยกแยะ และตัดสินได้ว่าเราต้องการอะไร มีการเลือกสรรและเติมเต็มตนเองด้วยสิ่งที่ดี ที่ถูกต้อง เพื่อนำขึ้นมาใช้ในเวลานี้ และปล่อยวางสิ่งอื่นๆ จดจำพ่อแต่เพียงผู้เดียว นั่นคือมนตราของจิตใจ และมนตราของสติปัญญาที่จดจ่อในการเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์พร้อม โดยที่ไม่มีสิ่งไหนที่ไร้ประโยชน์ติดตัวมา มีความสุขในการเพียรพยายาม และแบ่งปันความสุขอันเป็นสมบัติที่มีค่าตลอดไป ชัยชนะจะได้มาจากพลังของความเงียบสงบภายใน ความเข้าใจ ความอดกลั้น ในการใช้เวลาแยกแยะประเภทของความคิด แล้วใช้ทั้งชีวิตเพื่อสะสมสิ่งที่สวยงาม และเป็นไปในทางบวกทั้งข้างนอกข้างใน ชีวิตเป็นไปในทิศทางที่พ่อสามารถจะใช้เราและสามารถจะให้พลังเติมเต็มเราไม่ขาดสิ้น

ให้อภัย (ปุ๋ย) 28/2/24
พระเจ้าเป็นมหาสมุทรแห่งการให้อภัย และความเมตตาของท่านคือการนำชีวิตมนุษย์ไปสู่จุดที่เขาต้องกลับมาจดจำตนเองได้อีกครั้ง สายตาที่เมตตาของท่านจะทำให้เราเห็นศักยภาพของเราที่จะพัฒนาไปสู่จุดสูงสุดของความเป็นมนุษย์ และกลับเข้ามาหาตัวเองเพื่อทำให้ตัวเองหลุดพ้นจากบาปและบ่วงที่เคยทำไว้ ความเมตตาต่อตนเองจึงหมายถึงการแสวงหาความดิ้นร้นที่จะทำให้ตัวเองเป็นผู้ที่จริงแท้ในภาพลักษณ์ของความสมบูรณ์พร้อม ด้วยการพยายามดึงพลังทั้งหมดที่พระเจ้ามี กลับมาใช้เพื่อทำหน้าที่ของเรา เมื่อพระเจ้าได้กลายเป็นทุกสิ่งให้กับเรา โดยที่เรามีความเมตตากรุณาและพร้อมจะให้อภัยทุกคนได้อย่างแท้จริง เราจะตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการมีความสัมพันธ์ในทุกรูปแบบกับพระเจ้า ถ้าสิ่งใดขาดไป เราก็ถูกบีบบังคับให้รับการค้ำจุนจากมนุษย์ด้วยกัน และทำให้ตนเองติดกับ นี่คือความผิดพลาด เพราะไม่มีมนุษย์คนไหนในเวลานี้ที่ทำให้เราคงอยู่ในความรักที่ไม่มีเงื่อนไขและสม่ำเสมอได้ตลอดไป ขอให้กลับมาอยู่อย่างปราศจากร่างและเชื่อมโยงกับผู้ที่ปราศจากร่าง จงเมตตาต่อตนเองและให้อภัย การยึดติดในร่างกายทำให้เราติดบ่วง และทำให้ทุกคนอยู่ในสภาวะของความทุกข์และทรมาน

ร่วมมือ (กอล์ฟ) 29/2/24
"คุณธรรมร่วมมือ เปลี่ยนความกลัว สู่ รักที่ไร้เงื่อนไข" เป็นกุญแจสำคัญด้วยการสร้างความร่วมมือกันจากหัวใจ ไม่หวังสิ่งใดตอบแทน การชื่นชมในตนเองเป็นจุดเริ่มต้นของการให้และร่วมมือกับผู้อื่น โดยไม่มีความต้องการพิสูจน์หรือแข่งขัน ส่วนความหลงทะนงตนและการแสดงอำนาจนั้นขัดขวางความร่วมมือที่แท้จริงและการสร้างสรรค์ เมื่อรู้จักและชื่นชมคุณค่าของตนเองก็จะนำไปสู่การเห็นคุณค่าในผู้อื่น สร้างความร่วมมือที่มาจากหัวใจ เกิดเป็นพลังส่งผลสวยงามยิ่งกว่าแต่ละคนจะเล่นบทบาทของตนโดยลำพัง เมื่อพลังงานรวมรูปกันในทางสร้างสรรค์ ทำให้เกิดพละกำลังในผลงาน พลังของความร่วมมือนั่นเองที่รวมกันแล้วจึงไม่เพียงสร้างความไว้วางใจที่เรารู้ว่าเราสามารถขึ้นอยู่กับกันและกันในลักษณะไหน แต่ยังเป็นพลังสำคัญในการก้าวหน้าไปในอนาคตที่ดีกว่าด้วยกัน นี่คือโลกใหม่ที่ต้องใช้ความร่วมมือในการปฏิสัมพันธ์


♦ การแบ่งปันสาระสำคัญในบรรยากาศชั้นเรียนจากการบันทึกเสียง
  1. พฤหัส 1 ก.พ. (เช้า)...แบ่งปันความรู้ที่เชื่อมกับคุณธรรมของตน/ถาม-ตอบ...ความแตกต่างของดริสตีกับสกาซ...พี่นิ+พี่หล้าคลิกฟังเสียง
  2. พฤหัส 1 ก.พ. (เย็น)...สร้างสรรค์ ความสัมพันธ์ด้วยคุณธรรม เพื่อพัฒนาศักยภาพภายในให้อยู่เหนืออิทธิพล การบีบบังคับ และความผูกพันยึดมั่นคลิกฟังเสียง
  3. พฤหัส 1 ก.พ. (เย็น)...แบ่งปันสิ่งที่ได้จากชั้นเรียน...พี่บุ๋มคลิกฟังเสียง
  4. พฤหัส 8 ก.พ. (เช้า) สัญญาณที่ละเอียดอ่อน/แบ่งปันคุณธรรม สดชื่นแจ่มใส...พี่สุทธิคลิกฟังเสียง
  5. พฤหัส 8 ก.พ. (เย็น) ไตร่ตรองความรู้ที่เชื่อมกับคุณธรรม สดชื่นแจ่มใส-การเล่นบาท Hero(ผู้แสดงเอก)...คลิกฟังเสียง

© 2024 Brahma Kumaris Thailand. All rights reserved.