15 เมษายน 2567 สวัสดีปีใหม่พี่น้องไทยในอารมณ์สงกรานต์ที่ได้ทำตามประเพณี มีสาระของจิตวิญญาณ ซึ่งเริ่มจากเทศกาลโฮลี(Holi)มาแต่โบราณ จากคำเชื้อเชิญทุกท่านในใบประชาสัมพันธ์นี้ มีบางท่านได้ปรากฏตัวเมื่อวาน(14 เมษา)ในหัวข้อ ‘การให้อภัย’ (คลิกฟังเสียง) วันนี้จึงขอถือโอกาสสานสัมพันธ์กันต่อไปด้วยภาพและเสียงจากประสบการณ์ของผู้ร่วมงานโดยเฉพาะอย่างยิ่งน้องใหม่ ส่วนพี่หล้าได้ทำหน้าที่ปรับเปลี่ยนเรียนรู้ที่จะอยู่กับทุกคน ทุกจังหวะเวลา ให้มุ่งไปข้างหน้า ไม่ทิ้งอดีตให้ค้างคาใจ(จนกระทั่งในที่สุดสามารถตัดได้ทันที ไม่มีการทำผิดซ้ำสอง) สุดท้ายขอขอบคุณพี่น้องที่ร่วมสร้างครอบครัวหรือสร้างชุมนุมอย่างสอดคล้องกลมกลืนตามสัญญาที่ละเอียดอ่อนของแต่ละวันที่บาบาส่งผ่านมธุบันมา ขออวยพรอีกครั้งนะคะ Happy Holi และขอขอบคุณที่น้องใหม่บางท่านได้แบ่งปันประสบการณ์จากเสียงบันทึกต่อจาก class วันนี้ (คลิกฟังเสียง)
Sr.La เปิดรายการด้วยสาระของ Holi
แม่ปุ๋ย นำกิจกรรมเผาอดีตของความบกพร่องอ่อนแอ พี่หล้า ให้เขียนบนกระดาษผีเสื้อเพื่อเตือนให้เห็นพลังของการเปลี่ยนแปลงอย่างกล้าหาญด้วยการสำรวจตนและยอมรับความจริงที่ต้องแก้ไขจากภายใน แต่ละคนเขียนจดหมายทิ้งความอ่อนแอ และนำไปยกมอบให้เบื้องหน้าบาบา
ตัวแทนของทั้ง 7 สี ได้แบ่งปันคุณสมบัติที่เชื่อมโยงกับการมีความสัมพันธ์ต่างๆกับดวงวิญญาณสูงสุด
พิธีรดน้ำดำหัวแก่ผู้สูงวัย ด้วยความรัก เคารพ เพื่อให้อภัยต่อความผิดพลาดของกันและกัน เป็นการแสดงการรู้ค่าในความเพียรพยายามของผู้เป็นรากฐานหล่อเลี้ยงครอบครัวทางจิตให้เติบโตมาอย่างไม่ขาดตอน
นั่งล้อมวง แบ่งปันสาระที่ได้รับเป็นของขวัญ
ผู้แทน 7 สี ร่วมกันตัดเค้ก หลังจากพูดถึงนัยสำคัญและความสัมพันธ์กับบาบา
ตัวแทน ทั้ง 7 สี มอบพร 7 สี ให้แก่สมาชิกในสีของตน
สุดท้ายขอมอบสาระสำคัญของการให้อภัยไว้ในโอกาสนี้อีกครั้ง ซึ่งถอดจากการบันทึกเสียงในชั้นเรียนสำหรับผู้รับผิดชอบ "คุณธรรม" เพื่อนำไปไตร่ตรองและสรุปความตามหน้าที่ของแต่ละคน/วัน 'ให้อภัย' น้อง Bowling 24/3/24 การให้อภัย คือการปล่อยวางจากอดีตให้ได้ ด้วยความเมตตากรุณาต่อตนเอง ซึ่งเป็นการพิสูจน์ความยุติธรรมของตนเอง และความรักที่แท้จริงที่เกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน Love and Justise มาด้วยกันอย่างไร เพราะความสามารถที่จะให้อภัยผู้อื่น ขึ้นอยู่กับความซื่อสัตย์ที่ให้กับตนเองเท่านั้น ด้วยการถามตนเองว่าเราไปทำผิดอะไรไว้หรือไม่ ทั้งในรูปของความคิด คำพูด และการกระทำ ในหนทางที่ชีวิตที่ผ่านมา ถามตนเองเราไม่เคยทำผิดอะไรเลยหรือ เมื่อมองดูตลอดเส้นทางที่ผ่านมาอย่างซื่อสัตย์ เราย่อมให้อภัยกับผู้อื่นได้ เพราะทุกคนทำผิด เมื่อเราต้องเผชิญความบกพร่องของตนเอง ความโกรธที่มีต่อผู้อื่นก็จะหายไป ในอดีตเราทำผิดเพราะเราไม่รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ถูก หรือด้วยความกลัวหรือเข้าใจผิด มองกลับไปเราส่วนใหญ่ก็เสียใจในสิ่งที่พูดไป ทำไป แต่ด้วยเวลาและความรู้ที่ได้เราจะตระหนักได้ว่าอะไรถูกแล้วเริ่มแก้ไข เพียงแต่มีความอยากที่จะทำ ที่แก้ไขเปลี่ยนแปลงตนเอง เราก็จะเริ่มขบวนการให้อภัยตนเองแล้ว และต่อเนื่องไปถึงการให้อภัยผู้อื่นได้ในที่สุด เราไม่สามารถกล่าวโทษผู้อื่นและยกโทษให้กับตนเอง นี่คือการคดโกงที่จักรวาลไม่มีวันปล่อยให้มันเป็นไปเช่นนี้ กฎของจักรวาลเราไม่สามารถที่จะคิดเข้าข้างตนเอง พลังของการให้อภัยของเรามาจากความเมตตากรุณา ทำให้การบังคับผลักใสทางใจของเราเจือจางลงไปให้ได้ในการพิสูจน์ว่าฉันถูก อย่าพยายามพิสูจน์ตนเองว่าถูก มันจะแข็งขืนดื้อดึง การให้อภัยจะขจัดความโกรธเคืองที่มีต่อความอยุติธรรมที่คิดตามจินตนาการของเราเอง คนนั้นไม่ยุติธรรม และพยายามที่จะสร้างเรื่องราวที่ต้องแก้แค้น และเอาคืน แต่ถ้าเราไม่เรียนรู้ที่จะให้อภัย สิ่งนั้นจะกลายเป็นยาพิษ และผู้ที่ไม่ให้อภัยจะยื้อยุดอยู่กับการเดินทางที่ยากลำบากหรือการเล่นบทบาทของผู้พิพากษา ที่คาดหวังการตอบรับ ให้สาสมในสิ่งเดียวกัน (คลิกอ่านต่อ) |