สรุปคลาสค่ำวันพฤหัสที่ 30 ธ.ค. 64 จาก Didi Sudesh เรื่อง โยกยุกต์และยุกตียุกต์
โยกยุกต์ คือ สภาพที่มีโยคะอย่างถูกต้องแม่นยำ ในยุคบรรจบพบกันเป็นยุคที่มีสิริมงคลมาก เมื่อเราได้กลายเป็นบราห์มิน เป็นลูกของบราห์มา นี่คือโอกาสทำตามบราห์มาบาบาในทางปฏิบัติ ท่านเป็นมนุษย์จากการเป็นบราห์มิน กลายเป็นเทวดา ในสภาพที่สมบูรณ์พร้อมหรืออะแวค คือ สภาพปราศจากร่าง ด้วยพลังของพระเจ้า เข้ามาใกล้กับบัพดาดา ทัดเทียมกับท่าน รวมรูปกับท่าน ด้วยการฝึกฝนในสำนึกเป็นดวงวิญญาณ จากคำสอนของพ่อชีวา บาบาพูดเสมอ : เมื่อมูร์ลีกำลังพูดอยู่ผ่านบราห์มาในเวลานั้น เสียงเดียวกันก็ออกมาจากปากของบราห์มา ท่านรับฟังด้วยความใส่ใจต่อสิ่งที่บาบากำลังพูดและนำไปปฏิบัติ นี่คือ ท่านได้กลายเป็นตัวอย่างของการกลายเป็นอันดับ 1 อันดับแรกที่เรียกว่า "อดิเทพ" เทพองค์แรก ผู้ที่เริ่มในการสร้างที่สูงส่ง ชีพบาบาคือผู้สร้างของโลกใหม่ แต่การสร้างที่สูงส่งในร่างมนุษย์ที่มีชีวิตอยู่ในโลกที่มีตัวตน ความรู้ทางจิตที่บาบาให้ บราห์มา บาบา นำไปปฏิบัติ บาบาอธิบายชัดเจนมาก
สำนึกที่ถูกต้อง มีการแสดงออกซึ่งความคิด คำพูดและการปฏิสัมพันธ์ในวิธีที่ถูกต้อง ในการเห็นดวงวิญญาณ เห็นตัวตน มองเห็นผู้อื่นเป็นดวงวิญญาณ หมายถึงการเป็นนายของร่างนี้ เป็น "สารถี" บราห์มา บาบาใช้ยุกตี นำวิธีการที่ถูกต้องในการเป็นสารถีของร่างกายนี้มาใช้ บราห์มาเป็นคนแรก เป็นสารถีและเป็นสารถีคู่ด้วยการเป็นนายของร่างนี้และรวมกันกับท่าน เป็นอำนาจของพระเจ้า เป็นพลัง เป็นคุณธรรม เป็นปัญญาของพระเจ้า หมายถึง การนำความรู้ไปปฏิบัติด้วยจิตใจ คำพูด การกระทำ การกำหนดทิศทางรวมทั้งสายใยความสัมพันธ์ การทำอะไรที่ถูกต้อง ในเวลาที่ถูกต้อง เช่นนี้จึงกลายเป็นผู้ที่"ละวาง" ได้อย่างแท้จริง และรวมรูปกัน ด้วยพลังงานนี้ละวางจากร่าง สารถีนี้ทำให้พระเจ้าเป็น "มิตรร่วมทาง"ชีวิต บราห์มา บาบา เป็นผู้ที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง ชีพบาบากลายเป็นผู้อยู่ข้างหน้าเสมอ เพราะฉะนั้นชีพบาบาก็เป็นสารถีของบราห์มา แต่บราห์มาได้กลายเป็นสารถีในการอยู่อย่างเป็นมิตรร่วมทางกับชีพบาบาและใช้คุณสมบัติอย่างเป็นหุ้นส่วนกับชีพบาบา บราห์มาสร้างโลกใหม่เป็นหุ้นส่วนชีวิตกัน พระเจ้าคือผู้สร้างด้วยบราห์มา ท่านสร้างโลกใหม่และอยู่อย่างเป็นตัวของคุณสมบัติพิเศษของพระเจ้าทั้งหมดและพลัง และปล่อยให้ชีพบาบาทำทุกสิ่งอย่างเป็นสารถี บาบาเป็นสารถี(คนขับ) เราถูกขับโดยการกำหนดทิศทางที่เรียกว่า "ศรีมัท" บาบาเป็นผู้กำหนด บราห์มาบาบาก็ฝึกฝนสิ่งนี้ "สักขี" คือ ผู้สังเกตการณ์ที่ละวาง หมายถึงว่าเมื่อบาบาได้กลายเป็นสักขีผู้ร่วมทางสารถีคู่ โดยอัตโนมัติบราห์มาก็ได้กลายเป็นผู้สังเกตการณ์ที่ละวาง และความรู้ของละครที่ชีพบาบาให้ ก็เป็นการเฝ้ามองทุกสิ่งอย่างเป็นผู้สังเกตการณ์ ณ ที่นี่ สารถีหมายถึง การผูกติด การเชื่อมโยง การเอิบอิ่มในพลัง ไม่ว่าอะไรที่เรามี ที่เราเห็นรอบตัว เราก็จะเห็นฉากต่างๆของโลกอย่างเป็นผู้สังเกตการณ์ที่ละวาง นั่นคือ "สักขีพยาน" แต่เป็นผู้แสดงที่ตื่นตัว ตื่นรู้ เป็นตัวจริง แสดงจริง เมื่อเราได้พัฒนาสำนึกรู้นี้แล้ว เราจะกลายเป็นผู้ที่โยกยุกต์และยุกตียุกต์ และเราจะมีวิธีการที่ถูกต้อง ยุกตี ไม่ใช่กลยุทธ์ หรือกลอุบาย ไม่ใช่เป็นไปเพื่อจัดการกับสถานการณ์ ยุกตี..มาจากการอยู่อย่างโยกยุกต์และยุกตียุกต์ เป็นวิธีที่ถูกต้อง ในการใช้ความรู้ในสำนึกที่ถูกต้องและใช้คุณธรรมในทางปฏิบัติในชีวิตจริง ดังนั้นความคิด คำพูดและการ กระทำโดยอัตโนมัติจะกลายเป็นตัวของคุณสมบัติเหล่านี้ ที่หมายถึงไม่มีการครอบครองเป็นเจ้าของ ไม่มีแรงจูงใจที่เห็นแก่ตัว ไม่มีสิ่งใดเป็น"ของฉัน" เพราะฉะนั้น"การละวาง" หมายถึง การไม่เห็นแก่ตัว ไม่มีแรงดึงดูด ไม่มีการควบคุมบังคับ แต่เป็นสภาพของการสมใจ สมหวังอยู่ข้างใน เป็นความเพียรพยายามอย่างสม่ำเสมอ ที่จะบรรลุถึงสภาพสมบูรณ์พร้อม เพราะบราห์มาตรวจสอบตนเองสม่ำเสมอ ทุกครั้งที่ท่านรับประทาน ท่านก็เฝ้ามองดูตัวเองว่ามีการจดจำบาบาไหม! เมื่อลูกๆจับมือท่าน ทันทีพวกเขาเหล่านั้นก็ได้รับกระแส ท่านจะถามว่า มือของใครที่ลูกจับอยู่? ลูกกำลังจดจำชีพบาบาใช่ไหม! และท่านก็ละวางอย่างสิ้นเชิง ด้วยจิตสำนึกที่ชีพบาบากำลังทำทุกสิ่งอยู่ บราห์มาไม่เคยยอมรับการยกย่องใดๆเลย คารันคาราวันฮาร์กำลังทำให้เกิดขึ้น เมื่อเรากลายเป็นผู้สังเกตการณ์ที่ละวางจริงๆ คุณสมบัติของพระเจ้านี้คือการเป็นผู้ให้คุณประโยชน์ ก็เป็น"สัทยัม ชีวัม ซุนดารัม" คือการยกย่องของพระเจ้า ในการเป็น..ผู้เป็นสัจจะ ผู้ให้คุณประโยชน์และเป็นผู้ที่สวยงาม เมื่อสัจจะนำมาใช้ในชีวิต ผู้นั้นจะไม่มีความเห็นแก่ตัวใดๆ อยู่อย่างเสียสละที่แท้จริง อุทิศตนอย่างแท้จริง ไม่มีสิ่งใดที่ต้องการอีกต่อไป เมื่อใช้สัจจะแล้วชีวิตเรียบง่ายมาก บราห์มาให้การพิสูจน์ในการสละละทิ้งในทางปฏิบัติจริง ไม่เห็นแก่ตัว ให้คุณประโยชน์ เรียกว่า สักขีจริงๆ เป็นพยานและดวงวิญญาณสามารถก้าวหน้าโดยอัตโนมัติ โดยการทำตามรอยเท้าพ่อบราห์มา ผู้ที่เข้ามาอยู่ในอาณาจักรแรก ก็หมายถึงการทำตามศรีมัทของบาบา ในพลังงานของสำนึกเป็นดวงวิญญาณและการมีสำนึกในพระเจ้ารวมรูปกันแล้วโดยอัตโนมัติ ทำให้เรากลายเป็นนายของร่าง สารถีตัวจริงคือ"ผู้ขับขี่" กำลังขับขี่ร่างกายของตน จิตใจ สติปัญญา สันสการ์ของตนเอง เมื่อฉันอยู่ในสำนึกเป็นดวงวิญญาณและสำนึกในพระเจ้ารวมพลังงานเข้าด้วยกัน ไม่เพียงแต่ฉันสามารถกำหนดทิศทางให้กับประสาทสัมผัสของฉัน ฉันยังต้องมีพลังของการปกครอง พลังของการควบคุมบังคับโดยธรรมชาติ โดยไม่มีการบีบคั้น เราไม่จำเป็นต้องควบคุม แต่จะมีการเคลื่อนไปอย่างถูกต้องโดยอัตโนมัติ ด้วยสำนึกที่ถูกต้อง ด้วยความรู้ที่ถูกต้อง จะไม่สามารถผิดไปได้เพราะมันจะกลายเป็นธรรมชาติ คนขับรู้ตัวโดยไม่ต้องคิดถึงสิ่งนั้น ว่าจะต้องขับเคลื่อนตรงไหน เราก็จะกลายเป็นนาย เราจะใช้ร่างกายน้อยลงๆ ใช้สำนึกที่เป็นร่างน้อยลง ใช้สันสการ์เก่าน้อยลง เริ่มใช้สันสการ์ดั้งเดิม สันสการ์ที่คงอยู่ตลอดไปของสำนึกเป็นดวงวิญญาณ นี่คือสันสการ์เยี่ยงเทพที่สูงส่งและบริสุทธิ์ |