การบ้านสำหรับชีวิตทาปาสวี -มิถุนายน 64

วันที่ 1-15 มิถุนายน 2021
เพื่อที่จะทำให้จิตใจจองลูกมั่นคง และมีพลัง ให้ออกกำลังจิตใจ
  1. เพื่อที่จะทำให้จิตใจมั่นคง ทุกชั่วโมง ให้นำเอาห้ารูปของลูกมาไว้เบื้องหน้าเป็นเวลา 5 วินาที หรือ 5 นาที และมีประสบการณ์ห้ารูปเหล่านั้น โดยการทำการออกกำลังนี้ จิตใจของลูกจะไม่ไปสู่สิ่งไร้ประโยชน์ หรือไม่ถูกต้อง และจะไม่มีความไม่ระมัดระวังในจิตใจของลูก เมื่อลูกมีประสบการณ์ของมนตรา "มานมานะภาฟ" ในจิตใจของลูก จิตใจจะกลายเป็นเครื่องมือที่จะเอาชนะมายาด้วยสิ่งนี้
  2. วิธีที่จะจบสิ้นการมีน้ำหนักเกิน คือการทำตามข้อควรปฏิบัติเกี่ยวกับอาหารและการบริโภคและการออกกำลัง ในทำนองเดียวกัน ที่นี่ เช่นกัน สติปัญญาของลูกควรทำการออกกำลังของการอยู่อย่างปราศจากร่างซ้ำแล้วซ้ำเล่า อาหารสำหรับสติปัญญาคือความคิดของลูก และดังนั้นทำตามข้อควรระมัดระวังในความคิดของลูก และจิตใจของลูกก็จะเบา มั่นคง และมีพลัง
  3. เช่นที่การออกกำลังคือวิธีการสำหรับความเบาของร่างกาย ในทำนองเดียวกัน มีการออกกำลังของสำนึกเป็นดวงวิญญาณ ของการฝึกฝนโยคะ หนึ่งนาทีเป็นคาร์มาโยคี นั่นคือเป็นผู้ที่มีรูปมีตัวตน และเล่นบทบาทของลูกบนผืนโลก นาทีต่อไปเป็นเทวดานางฟ้าที่ละเอียดอ่อนและมีประสบการณ์ของการเป็นผู้อยู่อาศัยที่ละเอียดอ่อน นาทีถัดไปไม่มีตัวตน และมีประสบการณ์ของการเป็นผู้อยู่อาศัยในโลกไม่มีตัวตน นาทีถัดไปอยู่ในอาณาจักรแห่งสวรรค์นั่นคือเป็นผู้อยู่อาศัยของสุขาวดีและมีประสบการณ์รูปเทพของลูก ออกกำลังสติปัญญาในลักษณะนี้แล้วลูกจะอยู่อย่างเบาตลอดเวลา และความเร็วของความเพียรพยายามของลูกจะกลับมารวดเร็ว
  4. แม้ร่างกายของลูกอาจป่วย อย่าปล่อยให้จิตใจถูกรบกวนด้วยความเจ็บป่วยของร่างกาย เฝ้าแต่ร่ายรำในความสุขอย่างสม่ำเสมอและร่างกายจะสบายดี ทำให้ร่างกายของลูกทำงานด้วยความสุขในจิตใจของลูก เพื่อที่จะออกกำลังของทั้งจิตใจและร่างกาย ความสุขคือพร และการออกกำลังคือยา โดยการมีทั้งพรและยา ทุกสิ่งจะกลับมาง่ายดาย
  5. กล่าวกันว่า การออกกำลัง เป็นการเยียวยารักษาความเจ็บป่วยของร่างกายทั้งหมด ในทุกวันนี้ ดังนั้นเพื่อที่จะทำให้ ดวงวิญญาณเต็มไปด้วยพลังในเวลานี้ ลูกจำเป็นต้องฝึกฝนการออกกำลังทางจิตวิญญาณ ไม่ว่าจะมีความปั่นป่วนมากเพียงไรในบรรยากาศ ลูกจำเป็นต้องฝึกฝนการอยู่เหนือเสียงในขณะที่อยู่ในท่ามกลางเสียง และอยู่อย่างมีความสงบ ในขณะที่อยู่ ในท่ามกลางความไม่สงบ เป็นเวลาที่ยาวนาน
  6. เมื่อผู้คนมีน้ำหนักของร่างกายมากเกินไป พวกเขาไม่ยืดหยุ่น ไม่สามารถก้มอย่างที่เขาต้องการได้ ในทำนองเดียวกันเมื่อบางคนมีสติปัญญาที่หยาบ นั่นคือถ้ามีรูปแบบใดของภาระที่ไร้สาระหรือขยะอยู่ในสติปัญญา หรือมีบางรูปแบบอื่นใดของความไม่บริสุทธิ์แล้ว ผู้นั้นก็ไม่สามารถที่จะหล่อหลอมสติปัญญาของเขาได้อย่างที่เขาต้องการเมื่อใดที่เขาต้องการ ดังนั้นต้องการสติปัญญาที่สะอาดและบริสุทธิ์มาก นั่นคือสติปัญญาที่กว้าง ละเอียดอ่อน สูงส่ง ไม่มีขีดจำกัด
  7. เข้ามาสู่เสียง 1 นาทีและไปอยู่เหนือเสียงนาทีถัดไปเช่นที่ลูกพบว่าเป็นการง่ายดายมากที่จะเข้ามาสู่เสียงในทำนองเดียวกัน สิ่งนี้เช่นกันควรที่จะเป็นประสบการณ์ที่ง่ายดายมากเช่นนั้นเพราะดวงวิญญาณคือผู้เป็นนาย ในการทำการออกกำลังกายทางจิต ไม่ใช่เรื่องของการไปอยู่เหนือเสียงของปากเท่านั้น ลูกต้องไปเหนือเสียงของความคิดในจิตใจของลูก ไม่ควรเป็นเช่นว่า รูปกลับมาเงียบด้วยปากของลูก แต่เฝ้าแต่พูดคุยในจิตใจของลูกการไปอยู่เหนือเสียงหมายถึง ทั้งปากและจิตใจ ควรอยู่เหนือเสียง หลอมรวมอยู่ในมหาสมุทรของความเงียบสงบ
  8. เมื่อใดก็ตามที่ลูกไม่ว่างเว้นในการทำการกระทำใด แล้วจิตใจและสติปัญญาของลูกข้องแวะอยู่ในงานนั้น และลูกได้รับคำสั่ง "หยุด" ลูกสามารถใช้จุดหยุด หรือลูกยังคงมีความคิดเกี่ยวกับงานนั้นอยู่ว่า "ฉันต้องทำสิ่งนี้ ฉันต้องไม่ทำสิ่งนี้ นี้เป็นเช่นนี้และนี้เป็นเช่นนั้น" ฝึกฝนสิ่งนี้เป็นเวลาแม้ 1 วินาที เฝ้าแต่ฝึกฝนสิ่งนี้เพราะลูกจะเพียงได้รับประกาศนียบัตรสุดท้ายเมื่อลูกใช้จุดหยุดใน 1 วินาที ใน 1 วินาทีหลอมรวมประสบการณ์และกลายเป็นรูปของสาระ
  9. ร่างกายอยู่อย่างมีพลานามัยดีด้วยการออกกำลังทางร่าง ในทำนองเดียวกัน ขณะเดินเหินเคลื่อนไหวไปทั่ว เฝ้าแต่ทำการฝึกฝนห้ารูปของลูก เมื่อลูกพูดว่า "บราห์มิน" จงเข้ามาสู่ประสบการณ์ของชีวิตบราห์มิน เมื่อลูกพูดคำว่า "เทวดานางฟ้า" จงกลายเป็นเทวดานางฟ้า ฝึกฝนการดริลของจิตใจตลอดทั้งวัน ลูกทำการฝึกฝนทางร่างกายเพื่อสุขภาพของร่าง แล้วเฝ้าแต่ทำสิ่งนั้น แต่พร้อมกันกับสิ่งนั้น จงทำการฝึกฝนสำหรับจิตใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า
  10. เนื่องจากลูกต้องกลับมาทัดเทียมกับพ่อหนึ่งคือผู้ไม่มีตัวตน อีกหนึ่งนั้นคือเทวดานางฟ้าที่ละเอียดอ่อน ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่ลูกมีเวลา จงกลับมามั่นคงในสภาพที่ไม่มีตัวตนเช่นพ่อใน 1 วินาที และแล้วขณะทำงานใด ทำงานอย่างเป็นเทวดานางฟ้า เทวดานางฟ้าหมายถึงการเป็นแสงที่เบาสบาย อย่าให้งานเป็นภาระ เป็นครั้งคราวจงออกกำลังของจิตใจด้วยรูปที่ไม่มีตัวตนและเทวดานางฟ้า และจะไม่มีความเหน็ดเหนื่อยใดๆ
  11. เพื่อที่จะไปอยู่เหนือสำนึกรู้ของร่างกาย ลูกสามารถทำการฝึกฝนทางจิตนี้สำหรับ 1 วินาที ขณะทำงานของลูกหรือทำหน้าที่ของลูก ให้สิ่งนี้กลายเป็นการฝึกฝนที่เป็นธรรมชาติ: ไม่มีตัวตนใน 1 วินาที และแล้วกลายเป็นเทวดานางฟ้า ยิ่งลูกทำการฝึกฝนของจิตใจนี้มากเท่าไร ลูกจะกลายเป็นโยคีที่ง่ายดายและเป็นธรรมชาติมากตามนั้น
  12. ในด้านหนึ่ง ให้ทำงานรับใช้ด้วยจิตใจ และอีกด้านหนึ่ง ให้ออกกำลังของจิตใจ 1 นาทีไม่มีตัวตน และนาทีต่อไปเป็นเทวดานางฟ้า เช่นที่ชื่อของร่างกายนั้นมั่นคง และแม้ว่าถ้ามีใครบางคนถูกเรียกชื่อ ลูกก็จะตอบรับ ฉันเป็นดวงวิญญาณ และบัพดาดาคือโลกของดวงวิญญาณ สันสการ์ของดวงวิญญาณคือบราห์มินที่จะไปสู่เทวดานางฟ้า และจากเทวดานางฟ้าไปเป็นเทพ ดังนั้นจงทำการฝึกฝนของจิตใจนี้: ฉัน, ดวงวิญญาณ และบาบาของฉัน
  13. หมอของโลกทุกวันนี้บอกลูกว่าไม่ให้ใช้ยา แต่ให้ออกกำลังกายแทน ดังนั้นบัพดาดาก็พูดด้วยเช่นกันว่า: จงหยุดรบรา หยุดการลำบากตรากตรำ และทำแบบฝึกหัดนี้ของห้ารูปเป็นเวลา 5 นาทีตลอดทั้งวัน สำหรับ 1 นาทีไม่มีตัวตน, 1 นาทีเป็นเทวดานางฟ้า, 1 นาทีเป็นผู้รับใช้ในทุกทาง จงทำแบบฝึกหัดของจิตใจนี้เป็นเวลา 5 นาทีตลอดทั้งวัน แล้วลูกจะอยู่อย่างมีพลานามัยดีเสมอ และได้รับการปกป้องจากความลำบากตรากตรำ
  14. ก่อนอื่นใด พาจิตใจของลูกไปสู่อาณาเขตสูงสุด และแล้วมาสู่อาณาเขตที่ละเอียดอ่อนและจดจำรูปเทวดานางฟ้าของลูก และแล้วจดจำรูปที่มีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชาของลูก จากนั้นรูปบราห์มินของลูก และแล้วรูปเทพของลูก ตลอดทั้งวัน จงทำการออกกกำลังนี้เป็นเวลา 5 นาที สำหรับสิ่งนี้ลูกไม่จำเป็นต้องมีสนามกีฬา ลูกไม่ต้องวิ่งแข่ง ลูกไม่ต้องการเก้าอี้ หรือที่นั่ง หรือเครื่องอุปกรณ์ ลูกเพียงแต่ต้องกลายเป็นรูปของความคิดที่บริสุทธิ์
  15. เพื่อที่จะทำให้จิตใจของลูกมีพลัง จงคงอยู่ในความสุข และความจริงจังและความกระตือรือร้นของลูกเสมอ และมีประสบการณ์ของสภาพที่โบยบิน ให้จิตใจของลูก ทำการ ฝึกฝนและออกกำลัง เมื่อลูกไม่สามารถควบคุมจิตใจของลูกเองได้ จงให้การฉีดยาของการอยู่อย่างปราศจากร่าง เรียนรู้ที่จะโบยบินในความละเอียดอ่อน ในขณะที่อยู่ในรูปหยาบ
วันที่ 16-30 มิถุนายน 2021
ให้ทานพลังด้วยจิตใจของลูก
  1. เช่นที่บัพดาดารู้สึกเมตตา ในทำนองเดียวกันลูกๆก็ต้องกลายเป็นนายผู้เต็มไปด้วยความเมตตา และให้พลังที่ลูกได้รับมาจากพ่อแก่ดวงวิญญาณ ด้วยการใช้ทัศนคติของลูกและผ่านบรรยากาศ เนื่องจากลูกต้องจบสิ้นงานรับใช้ทั่วทั้งโลกในเวลาอันสั้น และชำระล้างวัตถุธาตุด้วยเช่นกัน ดังนั้นจงรับใช้ในความเร็วมาก
  2. ไม่มีลูกคนใดจะสามารถพูดได้ว่า ลูกไม่มีโอกาสที่จะรับใช้ ถ้าบางคนไม่สามารถพูด เขาก็สามารถรับใช้บรรยากาศผ่านจิตใจด้วยทัศนคติและสภาพของความสุขได้ ถ้าสุขภาพของลูกไม่ดี และแล้วจงให้ความร่วมมือขณะที่นั่งอยู่ที่บ้าน เพียงแต่ให้จิตใจของลูกสะสมสต็อกของความคิดที่บริสุทธิ์ และกลับมาเต็มไปด้วยความปรารถนาดี
  3. ลูกสามารถรับใช้ดวงวิญญาณมากมาย ด้วยความรู้สึกที่บริสุทธิ์, ความปรารถนาที่สูงส่ง, ทัศนคติที่สูงส่ง, และกระแสที่สูงส่งของจิตใจของลูก ขณะที่อยู่ในสถานที่ใดก็ตาม วิธีการสำหรับสิ่งนี้ คือ การเป็นประภาคารแห่งแสงและพลังอำนาจ มันไม่ใช่กรณีของการไม่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกทางวัตถุใดๆ, โอกาส, หรือ เวลา ในสิ่งนี้ เพียงแต่มีความจำเป็นที่จะต้องกลับมาเต็มไปด้วยแสงและพลังอำนาจ
  4. เพื่อที่จะรับใช้ด้วยจิตใจ จิตใจและสติปัญญาของลูกควรเป็นอิสระจากการคิดถึงสิ่งใดที่ไร้สาระ ควรมีรูปแบบที่ง่ายดายของมนตรา "มานมานะบาฟ" ดวงวิญญาณที่สูงส่ง ผู้ที่มีจิตใจที่สูงส่ง นั่นคือผู้ที่ความคิดของเขามีพลัง และมีความปรารถนาดีและความรู้สึกที่บริสุทธิ์ สามารถที่จะให้ทานพลังผ่านจิตใจของพวกเขาได้
  5. กระจกของพลังของจิตใจคือคำพูดและการกระทำของลูก ไม่ว่าดวงวิญญาณอยู่ในความรู้หรือไม่ เมื่อลูกอยู่ในสายใยความสัมพันธ์กับทั้ง 2 รูปแบบของดวงวิญญาณ คำพูดและการกระทำของลูกควรเต็มไปด้วยความปรารถนาดีและความรู้สึกที่บริสุทธิ์ คำพูดและการกระทำของผู้ที่จิตใจของเขามีพลังและบริสุทธิ์ จะบริสุทธิ์และมีพลัง และเต็มไปด้วยความปรารถนาดีโดยอัตโนมัติ การมีจิตใจที่มีพลังหมายถึงการเป็นโยคีที่ง่ายดาย ผู้ที่พลังของการจดจำระลึกถึงของเขานั้นสูงส่งและมีพลัง
  6. เช่นที่ลูกจัดรายการสำหรับงานทางร่างกายตามตารางเวลาประจำวัน ในทำนองเดียวกัน ให้จัดรายการสำหรับสภาพของจิตใจที่มีพลัง แล้วลูกจะไม่มีความขุ่นมัวไม่พอใจเลย เมื่อจิตใจของลูกถูกจัดเข้าที่อย่างสม่ำเสมอ นั่นคือมีการเพ่งรวมเป็นสมาธิ และแล้วกระแสที่ดีจะกระจายโดยอัตโนมัติ และงานรับใช้จะเกิดขึ้น
  7. ในทุกขณะ ตัวลูกเองและผู้อื่นควรมีประสบการณ์ว่า จิตใจของลูกมีความปรารถนาดีอย่างสม่ำเสมอ และมีความรู้สึกที่บริสุทธิ์สำหรับทุกดวงวิญญาณ ให้พรเฝ้าแต่ปรากฏออกมาจากจิตใจของลูกในทุกขณะสำหรับทุกดวงวิญญาณ ให้จิตใจของลูกอยู่อย่างไม่ว่างเว้นในงานรับใช้นี้อย่างสม่ำเสมอ เช่นที่ลูกได้มีประสบการณ์ในการรับใช้ด้วยคำพูด และถ้าลูกไม่ได้รับงานรับใช้ใดที่จะทำ ลูกก็จะมีประสบการณ์ว่าตนเองนั้นว่างเปล่า ในทำนองเดียวกัน พร้อมกันกับการรับใช้ด้วยคำพูดงานรับใช้ด้วยจิตใจควรเฝ้าแต่เกิดขึ้นในทุกขณะอย่างอัตโนมัติ
  8. เช่นที่การรับใช้ด้วยคำพูดกลายเป็นธรรมชาติ ในทำนองเดียวกัน การรับใช้ด้วยจิตใจก็ควรที่จะเกิดขึ้นพร้อมกันและเป็นธรรมชาติด้วย พร้อมกันกับการรับใช้ด้วยคำพูด เฝ้าแต่รับใช้ผ่านจิตใจของลูก แล้วลูกจะไม่ต้องพูดอย่างมาก พลังงานที่ลูกใช้ในการพูดจะถูกเก็บออมไว้ เมื่อลูกมีความร่วมมือของการรับใช้ผ่านจิตใจ งานรับใช้ด้วยจิตใจที่มีพลังก็จะให้ประสบการณ์ของความสำเร็จที่มากกว่า
  9. มากเท่าที่ลูกใช้ร่างกาย จิตใจ ทรัพย์สมบัติ และเวลาของลูกสำหรับงานรับใช้ ดังนั้นโดยการรับใช้ด้วยพลังของจิตใจในระดับเดียวกัน ลูกสามารถมีความสำเร็จที่มากกว่าในเวลาที่สั้นกว่า ในปัจจุบัน บางครั้งลูกต้องทำความเพียรพยายามกับตนเอง บางครั้งในการเปลี่ยนแปลงธรรมชาติของลูก ในการเคลื่อนไปภายในชุมนุม หรือในการได้รับความสำเร็จในงานรับใช้ เมื่อไม่มีความสำเร็จอย่างมาก ลูกก็มีประสบการณ์ของความหดหู่หัวใจ สิ่งนั้นควรจบสิ้นไปในขณะนี้
  10. เมื่อมันกลายเป็นธรรมชาติที่เป็นธรรมชาติของลูก ที่จะให้ความปรารถนาดีและมีความรู้สึกที่บริสุทธิ์ด้วยจิตใจของลูกจิตใจของลูกก็จะกลับมาไม่ว่างเว้น และลูกจะสามารถก้าวห่างออกไปจากความปั่นป่วนของจิตใจได้โดยอัตโนมัติ ลูกจะไม่กลับมาหดหู่หัวใจในความเพียรพยายามของลูก และแล้วก็จะมีความอัศจรรย์
  11. เวลานี้ จงเพิ่มคุณภาพของจิตใจของลูก แล้วดวงวิญญาณที่มีคุณภาพก็จะเข้ามาใกล้ชิดมากขึ้น มีงานรับใช้ที่เป็น 2 เท่าในสิ่งนี้: งานรับใช้ตนเองและของผู้อื่น ลูกจะไม่ต้องทำความเพียรพยายามแยกไปสำหรับตนเอง และลูกจะมีประสบการณ์ของการได้รับผลรางวัลของลูก รางวัลที่สูงส่งของเวลาปัจจุบัน คือ "การรักษาตนเองให้เต็มไปด้วยการบรรลุผลทั้งหมด และทำให้ผู้อื่นเต็มเปี่ยม"
  12. ตามเวลาในขณะนี้ ให้ทำงานรับใช้ด้วยจิตใจและด้วยคำพูดในเวลาเดียวกัน อย่างไรก็ตามการรับใช้ด้วยคำพูดนั้นง่ายดาย ในขณะที่งานรับใช้ด้วยจิตใจเป็นเรื่องของการใส่ใจ ดังนั้นจิตใจของลูกควรมีความคิดที่เต็มไปด้วยความปรารถนาดีและความรู้สึกที่บริสุทธิ์สำหรับทุกดวงวิญญาณ ขอให้มีความใหม่ของความอ่อนหวาน ความพอใจ และความง่ายดายในคำพูดของลูก แล้วลูกก็จะเฝ้าแต่ได้รับความสำเร็จอย่างง่ายดาย
  13. มากเท่าที่ลูกทำให้ตนเองไม่ว่างเว้นในการรับใช้ด้วยจิตใจ ลูกจะกลายเป็นผู้มีชัยชนะเหนือมายาได้ง่ายดายมากตามนั้น อย่าได้กลับมามีอารมณ์สำหรับตนเอง แต่ให้ทำงานรับใช้ของการเปลี่ยนแปลงผู้อื่นด้วยความปรารถนาดีและความรู้สึกที่บริสุทธิ์ของลูก ขอให้มีสมดุลของภาวนาและความรู้ด้วยความรักและโยคะ ลูกได้กลายเป็นผู้ให้คุณประโยชน์แล้ว แต่เวลานี้จงกลับมาเป็นผู้ให้คุณประโยชน์โลกที่ไม่มีขีดจำกัด
  14. การรับใช้ด้วยจิตใจคืองานรับใช้ที่ไม่มีขีดจำกัด มากเท่าที่ลูกกลายเป็นตัวอย่างด้วยความคิดและคำพูด ตามนั้นในการมองเห็นตัวอย่าง ผู้อื่นก็จะถูกดึงดูดโดยอัตโนมัติ เพียงมีความคิดที่มุ่งมั่น แล้วงานรับใช้ก็จะเฝ้าแต่เกิดขึ้นอย่างง่ายดาย
  15. ขณะที่ทำงานใด จงทำงานรับใช้ของการกระจายกระแสด้วยจิตใจของลูก นักธุรกิจก็จะเห็นธุรกิจในความฝันของเขาด้วย ในทำนองเดียวกันงานของลูกคือการให้คุณประโยชน์ต่อโลก นี้คืออาชีพของลูก จงรักษาอาชีพนี้ไว้ในการตระหนักรู้ของลูก และอยู่อย่างไม่ว่างเว้นในการรับใช้อย่างมั่นคง


© 2024 Brahma Kumaris Thailand. All rights reserved.