การเอาชนะโรคภัยมากมายของร่างกายมาเป็นระยะเวลาที่ยาวนานของดาดี้แจงกี ด้วยระบบภูมิคุ้มกันที่มหัศจรรย์ พิสูจน์ให้เห็นว่าเหตุของโรคภัยที่แท้จริงเกิดจากจิตวิญญาณ
จึงต้องเยียวยาที่หัวใจและจิตวิญญาณเท่านั้น ดาดี้แจงกี ผู้นำบราห์มา กุมารี มหาวิทยาลัยทางจิตของโลก ละร่างในวัย 104 ปี (27 มีนาคม 2020)
ด้วยการกำหนดของจิตใจที่มั่นคงและมีพลัง ตามสมญาที่วงการแพทย์ยกย่องเมื่อตรวจพบคลื่นเดลต้าแม้ในเวลาตื่นว่าเป็น The most stable mind
in the world ท่านล่วงรู้ว่าโลกกำลังเผชิญกับภาวะวิกฤตของโรคระบาด Covid-19
จึงเตรียมตัวเข้าสู่สภาพที่ละเอียดอ่อน เพื่อให้การช่วยเหลือได้อย่างกว้างไกล พร้อมให้และรับสัญญาณจากผู้ที่มีพลังของจิตวิญญาณ
ท่านได้พูดถึงสุขภาพจิตวิญญาณไว้ให้เราพยายามเตรียมรับมือกับปัญหาและการท้าทายอีกมากมายของโลก
การได้รับสมญาว่าเป็น 1 ใน 10 ของผู้มีปัญญารู้แจ้ง (Keeper of Wisdom) จากการประชุมสุดยอดของสิ่งแวดล้อมโลกในอดีต
กำลังพิสูจน์ในทางปฏิบัติว่าปัจจุบันปัญหาของสิ่งแวดล้อมที่ใหญ่หลวงเกินกว่าที่มนุษย์คาดคิดนั้นกำลังจะตามมา ทุกอย่างเริ่มจากจิตสำนึก กระบวนการล้างจิต
หรือล้างพิษ (ดีท็อกซ์-Detox) ที่แท้จริงเพื่อชีวิตที่ไร้มลพิษกำลังเกิดขึ้นในเวลานี้โลกต้องหันมาพัฒนาจิตวิญญาณร่วมกัน
สุขภาพทางจิตวิญญาณที่ดี หมายถึง การเป็นอิสระจากโรคภัยของวิญญาณ นั่นคือวิญญาณไม่มีโรคภัย ไม่มีแม้กระทั่งร่องรอยของสิ่งที่ไม่ดีหลงเหลืออยู่ ใบหน้าจะมีประกายของความสุขเสมอ
การมีสุขภาพทางจิตวิญญาณที่ดีนั้น เริ่มมาจากการมีชาติเกิดทางจิตวิญญาณที่มีพลานามัย (healthy spiritual birth)
เป็นการเกิดเพื่อเป็นตัวเองที่แท้จริง (Be born to your true self) ที่เป็นธรรมชาติ ซึ่งจะมีบุคลิกภาพของความบริสุทธิ์อย่างเด่นชัด
เขาจะมีพลังในการจดจำดวงวิญญาณสูงสุดในฐานะที่เป็นพ่อ-แม่ที่แท้จริง และได้รับการหล่อเลี้ยงจากท่านอย่างสมดุล เขาจึงพูดเสมอว่า
“ฉันใช้ชีวิตของฉันกับพระเจ้า ฉันพูดกับพระเจ้า ฉันเรียนรู้ทุกสิ่งจากพระเจ้า”
ยาที่ดีที่สุดของมนุษย์ที่มีสุขภาพทางจิตวิญญาณ คือ ความสุขสันต์จากภายใน (Inner Joy)
สุขภาพทางจิตวิญญาณขึ้นอยู่กับว่า “เราเก็บยึดอะไรไว้ในหัวใจ?” ถ้าหัวใจเก็บสิ่งไม่ดี มีแต่รอยช้ำ ความทุกข์ทรมาน สุขภาพของเราก็จะไม่ดีด้วย
ในความเป็นจริงร่างกายและจิตใจทำงานด้วยกัน กล่าวคือ จิตใจมีผลต่อร่างกาย และร่างกายก็มีผลต่อจิตใจ ดังนั้นเราจึงต้องดูแลทั้งสองอย่างนี้
การรับประทานยาเมื่อเวลาเจ็บป่วยนั้นเป็นสิ่งจำเป็น แต่ต้องไม่ใส่ใจต่อร่างกายจนจิตใจตกภายใต้อิทธิพล หรือปล่อยให้ยาเป็นสิ่งค้ำจุน
ถ้าจิตใจเป็นอิสระจากความตึงเครียดและความวิตกกังวล การนอนหลับพักผ่อนจะดีขึ้นโดยธรรมชาติ ดังนั้นหากเราไม่สามารถนอนหลับได้ จึงต้องสร้างความสงบและความเยือกเย็นขึ้นมา เพื่อปลดปล่อยตนเองจากความตึงเครียด และเรียนรู้ที่จะเป็นหมอทางจิตให้แก่ตนเอง ไม่ว่าโรคภัยไข้เจ็บใดก็ตาม ด้วยการฝึกจิตและพลังของการจดจำระลึกถึงพระเจ้า เราสามารถเอาชนะโรคภัยไข้เจ็บนั้นได้ อีกทั้งยังช่วยปกป้องเราจากสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลาย(ความเป็นลบ)ที่มาจากผู้อื่น เช่น การที่หมออาจจะพูดถึงเรื่องสุขภาพของเราให้เราตกใจกลัว ไม่มีความหวังใดๆ หรือ บางครั้งเราได้ยินเรื่องราวความเจ็บป่วยของใครที่ทำให้น่ากังวลใจ แล้วเราก็กระจายกระแสของความกังวลไปให้ผู้อื่น ซึ่งส่งผลให้เราสุขภาพแย่ลง เป็นต้น ดังนั้นถึงแม้ร่างกายเจ็บป่วย แต่เราต้องเรียนรู้ให้จิตใจอยู่อย่างมีพลังในการจดจำระลึกถึงพระเจ้า จนเราไม่มีแม้กระทั่งร่องรอยใดๆของความวิตกกังวล
ความวิตกกังวลมาจากไหน? แรกๆเราอาจมีความวิตกกังวล จากนั้นจะกลายเป็นความทุกข์ สิ่งนี้มาจากการจดจำความสัมพันธ์ในอดีต การครอบครองเป็นเจ้าของ หรือ ปัญหาที่บ้าน ที่ทำงาน ที่ไม่ลงตัว ฯลฯ ความวิตกกังวลเป็นเหมือนกับการทำให้เราติดคุก ที่จะไม่หยุดความแรงที่จะมีอำนาจเหนือเรา ดังนั้นเราต้องป้องกันความวิตกกังวลจากการเติมเต็มด้วยความรักของพระเจ้า หากเราเอาเวลาไปรักพระเจ้า เราจะไม่มีเนื้อที่ว่างให้ความวิตกกังวล ด้วยการพยายามขจัดความวิตกกังวลนี้ จะช่วยเยียวยาเราและทำให้เรามีพละกำลังของความสุข
ปัญหาสุขภาพในอนาคต สรุปจาก คำพูดที่ศักดิ์สิทธิ์ของบัพดาดา เวลาพบกลุ่มแพทย์(1981)
คนไข้จะมาหาหมอสองทาง(double doctors) หมายถึง หมอทางร่างกายและหมอทางจิตวิญญาณด้วยแรงปรารถนาที่จะได้รับการบำบัดทั้งอย่างถาวรและเยียวยาแบบทันทีทันใด
บางครั้งคนไข้ต้องไปหาหมอเฉพาะทาง เพื่อการแก้ปัญหาโรคภัยได้อย่างรวดเร็ว
ลูกเป็นหมอทางจิตที่ต้องให้คำแนะนำว่า ทุกคนนั้นมีบัญชีกรรมที่จะต้องสะสางด้วยความทุกข์ทรมานทั้งจิตใจและร่างกาย
มีการเยียวยาทางจิตด้วยการทำกรรมขณะที่จดจำระลึกถึง เรียกว่า คาร์มา โยคะ
สถานการณ์จะถึงสภาพขีดสุดที่จะนำไปสู่การจบสิ้น ผู้คนจะล้มตายจนไม่มีเวลาเผาศพ มีโรคภัยต่างๆใหม่ๆเกิดขึ้นที่หมอไม่สามารถหาวิธีเยียวยาแก้ไขได้
แล้วจะรู้สึกว่ามีบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น หมอจะจบสิ้นความหลงผิดในการคิดว่าไม่มีดวงวิญญาณและคิดว่าความรู้ของหมอคือทุกสิ่ง ในที่สุดจะไม่มีใครสามารถควบคุมอะไรได้เลย
โรคภัยใหม่ๆจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่
คนไข้จะมามากมายจนไม่สามารถจะทำอะไรได้ นอกจากให้ความสงบชั่วคราวด้วยสายตาที่ส่งกระแสจิตและพลังของพร
สำหรับดวงวิญญาณ ลูกแสนจะมีโชคอย่างยิ่ง ที่ได้ประกาศสิทธิ์ก่อนการทำลายล้าง ด้วยการนั่งบนหัวใจของบัพดาดาอย่างมีความสุขสม่ำเสมอ
ลูกมีความซาบซึ้งที่ทำให้คนไข้มีความสุขด้วยเช่นกัน
เมื่อเขามีความรักและศรัทธา ที่ลูกสามารถให้คำแนะนำไปสู่ผู้เดียวได้อย่างถูกต้องแม่นยำ
ลูกสามารถให้สัญญาณแก่เขาได้ นักวิทยาศาสตร์จะน้อมรับการกลับคืนสู่ความเงียบสงบ สายตาจะถูกดึงไปสู่ลำแสงของลูก ผู้มีพลังความเงียบสงบ การใช้พลังอะตอมมาจากพลังอาตมาของลูก
เป็นการเลียนแบบการใช้พลังงานทางจิตวิญญาณ เมื่อความมืดมิดปรากฏทุกหนแห่ง ลำแสงของลูกก็จะปรากฏให้เห็นได้ชัดเจน ทุกแสงของความรู้ คุณธรรม และพลังจะทำงานเช่นประภาคาร
นักเขียน นักคิด นักปฏิบัติที่ลุ่มลึกทางจิตวิญญาณ จาก บราห์มา กุมารี ได้ให้ความหวังแก่ผู้ติดตามผลงานของเขาทั่วโลกไว้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน “ระบบภูมิคุ้มกันของจิตวิญญาณ”
สุขภาพของร่างกายและความสมบูรณ์ของชีวิตของเราแตกต่างกัน เนื่องจากเราต่างมี “ระบบภูมิคุ้มกัน” ของตัวเอง ขณะที่ร่างกายเผชิญกับรูปแบบของความเจ็บปวด(pain)
ที่เราเรียกว่า โรคภัยไข้เจ็บ (disease) จิตวิญญาณก็ต้องผจญกับรูปแบบมากมายของความไม่สบาย (dis-ease) ที่เราเรียกว่า ความทุกข์ทรมาน(sufferings)
เราสามารถระบุถึงความไม่สบาย(dis-ease) ของจิตวิญญาณ ที่ทำให้เราทุกข์ทรมาน ทั้งโรคหืดหอบของจิตวิญญาณ และอาหารไม่ย่อยของจิตวิญญาณรวมทั้ง แสดงให้เห็นถึงวิธีการที่จะกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันอื่นๆ และวิธีการที่จะเยียวยาตนเอง
ถึงเวลาแล้วหรือยังที่เราจะปลดปล่อยตนเองให้เป็นอิสระจากความไม่สบายทั้งหมด?
|
Return to the source of love , compassion and care
(กลับคืนสู่แหล่งแห่งความรัก ความเมตตา กรุณาและความเอาใจใส่ดูแล)
(คลิกฟังเสียง)
การประชุม NC และ CC ช่วง 24 ก.พ. - 1 มี.ค. 20
ได้รวมระบบการบริหารจากส่วนกลาง ทั้งกลุ่ม CNC, NCCC จบลงที่การประชุมคณะกรรมการบริหาร(BOARD)
จากทุกประเทศ โดยแบ่งกลุ่มสนทนาหารือ มีการเรียนรู้และร่วมกันแก้ปัญหาในสถานการณ์ต่างๆทั่วโลก เพื่อนำมาสรุปในที่ประชุมกลาง B.K.La
(สไบทิพย์ ศิริรัตน์ธำรงค์) ได้ใช้เวลาในกลุ่มที่ใช้คุณค่าชีวิต 5 ประการหลัก
Inclusiveness
Love
Trust
Respect
Unlimited Thinking(คลิกอ่านต่อ)
ยิ่งเราเอาใจใส่ดูแลตัวเองได้มากเท่าไร เรายิ่งอยู่อย่างกระจ่างมากเท่านั้น เรายิ่งสามารถมีความสำเร็จ ที่ชัดเจนมากเท่านั้น ...
ในความเพียรพยายามของตนเองและในงานรับใช้... เวลาของการจบสิ้นก็ยิ่งใกล้มากขึ้นเท่านั้น
|
ย้อนกลับไปดูละครชีวิตผ่านมา ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2020 เราสามารถมองเห็นฉากละครที่สวยงาม ที่บราห์มากุมารีได้จัดรายการ NC/CC Retreat
ประจำปีที่สำนักงานใหญ่ มีผู้แทนประมาณ 300 คนจากร้อยกว่าประเทศมารวมตัวกัน โดยให้ 30 กว่าประเทศในทวีปเอเชีย เป็นเจ้าภาพจัดรายการ
ในปีนี้คณะทำงานได้วางแผนจัดเส้นทางความเจริญของวัฒนธรรมด้านจิตวิญญาณเป็นหลักเพื่อกลับคืนสู่แหล่ง Return to the Source
ตามหัวข้อการประชุมใหญ่
ที่เรารณรงค์ร่วมกันทั่วโลกมาทั้งปี แต่ละประเทศในเอเชียมีหลักฐานทางจิตวิญญาณที่ก่อให้เกิดวัฒนธรรม เราจึงสามารถนำไปไตร่ตรอง สำรวจตน
และสร้างความเป็นหนึ่งเดียวกันในความต่างเพื่อมุ่งตรงไปสู่โลกที่สวยงามอีกครั้ง –
โลกแห่งสัจจะ โลกแห่งความเป็นหนึ่งเดียว โลกที่ทุกชีวิตมีพลานามัยดีปราศจากโรคภัยใดๆ มีความมั่งคั่งทั้งภายในตนเองและมีความสุขสมบูรณ์
ขอเชิญทุกท่านเดินทางไปสู่แหล่งกับเราด้วยภาพ/เสียงของการเปิดรายการ
ช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม ที่โลกต้องต่อสู่กับโรคระบาด เราได้เกิดการเรียนรู้มากขึ้นในการสร้างภูมิคุ้มกัน เพื่อตั้งหลักรับภาวะวิกฤตในอนาคต เมื่อเรายึดมั่นในความเป็นสิริมงคลของการปรับเปลี่ยนทุกระบบตามกฎธรรมชาติ เราสามารถมองเห็นแต่คุณประโยชน์ของทุกสิ่งที่เกิดขึ้น เพื่อความอยู่รอดปลอดภัย บนพื้นฐานของความรู้สึกที่บริสุทธิ์และความปรารถนาดี
พี่หล้าให้ความสำคัญของภูมิคุ้มกันที่เกิดจากความปรารถนาดี
|
(คลิกฟังเสียง)
|
แม่ปุ้มเล่าประสบการณ์ของการรับบทบาทบนเวที
การไปมธุบันครั้งนี้ เห็นความมหัศจรรย์ของความปรารถนาที่บริสุทธิ์ได้รับการเติมเต็ม เพราะต้องวางแผนในการทำงานรับใช้ ด้วยการรำไทยตามวัฒนธรรม ซึ่งครั้งนี้ประชุม NC/CC
ประเทศแถบเอเชียเป็นเจ้าภาพ ต้องรำคนเดียวเป็นครั้งแรก การเตรียมเงินค่าเดินทางก็ได้มาอย่างลงตัว และได้เรียนรู้เพิ่มมากขึ้นของสภาพการอยู่เหนือขีดจำกัดทั้งหลาย
เพราะไม่ว่าอะไรที่เกิดขึ้นคือการนำเอาคุณธรรมที่พ่อได้ให้ฝึกฝนไว้มาใช้ในทางปฏิบัติ
ในการปรับตัวเข้ากับเนื้อหาความต้องการของผู้จัดงานและทำให้เห็นได้ว่าการแสดงที่เลือกมาในครั้งนี้ ก็เหนือความคาดหมาย
จากการรำอวยพรที่เราคิดว่าจะเป็นนางฟ้าที่แปลงกายลงมาร่วมอวยพรแต่ด้วยชุดสีทอง แม้ผู้แสดงจากประเทศญี่ปุ่นก็ทักว่า เป็นจักรพรรดินีในสวรรค์ ลีลาท่ารำที่เป็นแบบไทยคลาสสิค
จึงกลายเป็นเทพลีลา เข้าสู่ยุคทองไปเลยค่ะ
(คลิกอ่านต่อ)
พี่แมรี่เล่าประสบการณ์ไปมธุบันเมื่อต้นปี ก่อน Lock down.
ก่อนไปได้มีการเตรียมตัว เพื่อจัดการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยในงานปิดรายการ NC/CC Retreat หรือ ระดับผู้บริหารศูนย์ทั่วโลก
จากประเทศไทยมีพี่น้องBKจากหลายศูนย์มาร่วมกันแสดงบนเวที หลายๆคนดีใจและภาคภูมิใจที่พวกเราทำได้ดีเกินคาด ทั้งๆที่มีเวลาซ้อมกันน้อยมากๆ
พี่หล้าบอกว่าเราได้รางวัลอันดับ1 ของการให้ความร่วมมือด้วย ยิ่งสร้างพลังความรักได้มากจริงๆ...
หลังจากนั้นพวกเราได้ขึ้นไปพักที่พันดาปบาวัน บ้านดั้งเดิมของพ่อ ตื่นอมฤตเวลาทุกๆเช้ามืดมีหมอกลงหนาแน่นมาก ถ่ายรูปออกมาดูที่ Peace Tower
เหมือนเราลอยอยู่บนเมฆเลย มหัศจรรย์จริงๆ เวลาฟังคลาสต่างๆ ซึ่งจัดที่ ญาณสาโรวาร์ ต้องเดินทางโดยรถบัสไป-กลับ เข้าคลาสตามโปรแกรมทุกวัน เป็นประสบการณ์ที่ดี
มีวินัยในการบริหารเวลาและจัดการกับตัวเอง
(คลิกอ่านต่อ)
รายการพิเศษ สำหรับพี่น้องชาวไทยและผู้สนใจติดตามรายการ online
ขอขอบคุณ Didi Sudesh ที่เพิ่มความเข้าใจในหัวข้อหลักของเรา"จิตวิญญาณ กับความวิกฤต" เป็นพิเศษ ในวันที่ 10 พฤษภาคม
หลังจากการประชุมคณะกรรมการมูลนิธิ บราห์มา กุมารี ราชา โยคะ ... เพื่อก้าวต่อไปในเดือนมิถุนายน
6 มิ.ย. 2563 เปิดเผยความลับของจักรวาล (Reveal the Secret of the Universe)
ขอบคุณ Sr.Denise ผู้ใช้ปัญญาอันลุ่มลึกอย่างนุ่มนวลในการเปิดเผยความลับของจักรวาล
ติดต่อกัน 7 ตอน เริ่ม มิ.ย. ถึง ธ.ค. 2563
นี่คือสิ่งที่มองไม่เห็นแต่เข้าใจได้ แสงระหว่างดวงตาคือแสงแห่งปัญญา ตาในเรียกว่าตาที่สามแห่งความรู้ ซึ่งอยู่ตรงกึ่งกลางระหว่างหน้าผาก
เป็นตาที่สามารถมองเห็นและเข้าใจมุมมองที่ลึกล้ำของชีวิต ฉันคือผู้ที่ไม่ใช่ร่างกายนี้ เราพูดว่าร่างกายของฉัน ฉันคือเจ้าของร่าง ฉันคือใคร?
คลิกฟังประสบการณ์ แสงระหว่างดวงตา
|
ด้วยร่างกายทำให้เรามีประสบการณ์ผ่านอวัยวะประสาทสัมผัส และแสดงออกตามบทบาท เมื่อมองเข้าไปลึกในจิตใต้สำนึกของตนเอง เราจะสามารถเห็นความพิเศษสุดของคุณสมบัติส่วนตัวและมองเห็นคุณสมบัติพิเศษของแต่ละคน ดวงวิญญาณไม่ใช่หญิงหรือชาย อยู่ในร่างที่ต่างกันไป ต่างเพศ ต่างเชื้อชาติ ต่างศาสนา ต่างภาษา เราเรียนรู้ภาษาวัฒนธรรมจากครอบครัวทางร่างกายของแต่ละคน แต่จริงแท้แล้วชีวิตของเรามีวัฒนธรรมของดวงวิญญาณ นั่นคือทุกคนเป็นดวงวิญญาณพี่น้องครอบครัวโลกที่เชื่อมโยงกันทั้งหมด ร่างกายนั้นมีวันตายแต่ดวงวิญญาณนั้นคงอยู่เป็นอมตะ ให้เราหันสู่ภายใน ดึงพลังออกมา เบื้องหลังความรู้สึกคือการคงอยู่อย่างมีความสุขที่เต็มไปด้วยความรักความเคารพต่อตนเองและผู้อื่น
(หญิง)
รายการพิเศษสำหรับสมาชิกประจำ ของบราห์มา กุมารี มหาวิทยาลัยทางจิตของโลก
- 6 มิ.ย. เวลา 15.00 น. "การเปลี่ยนแปลงอย่างซื่อสัตย์"
โดย Sr.Maureen Goodman
(คลิกฟังแปลไทย)
ความซื่อสัตย์เป็นสิ่งที่ต้องเชื่อมโยงกับสัจจะ...บาบาให้เราทุกสิ่ง บอกเราทุกเรื่อง ไม่ซ่อนเร้นสิ่งใดแก่ลูกๆ เช่นเดียวกันเราต้องมีความซื่อสัตย์ต่อตนเอง ต่อบาบาและครอบครัว ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นไร อย่าให้สิ่งนั้นส่งผลกระทบต่อกระแสคลื่นของการสะสมพลังโยคะ
ในงานรับใช้เราไม่ควรรอให้ใครทำดีกับเราก่อนแล้วจึงทำดีตอบ ความซื่อสัตย์เป็นสิ่งที่คู่กับผู้ประทาน ผู้ประทานไม่มีสิ่งใดเจือปนในความคิด เป็นการให้โดยไม่มีเงื่อนไข
จึงทำให้เราปลอดภัยจากการถูกประณามและการถูกกล่าวโทษต่างๆ อย่าได้กลัวพายุของมายาทั้งความคิดที่อ่อนแอและการวิพากษ์วิจารณ์จากผู้อื่น ความซื่อสัตย์ทำให้เราพอใจและเข้าใจผู้อื่นมากขึ้น ทั้งยังได้รับความไว้วางใจจากบาบาและซีเนียร์
ความซื่อสัตย์ทำให้เรารู้ตัวว่าเรากำลังอยู่บนเวทีโลกและไม่สามารถซ่อนเร้นสิ่งใดต่อบาบาได้ ทั้งความซื่อสัตย์ยังต้องควบคู่กับความถ่อมตน ไม่เช่นนั้นจะเกิดเป็นความหลงทะนงตนและกลายเป็นอุปสรรคต่างๆ(แม่เก๋)
- 6 มิ.ย. เวลา 18.30 น. "อยู่เหนือบ่วงกรรม เปลี่ยนบ่วงกรรมเป็นความสัมพันธ์ "
โดย Didi Nirmala
(คลิกฟังแปลไทย)
(ส่วนที่เป็นสาระ 5 คำถามแรก)
Q : Karmateet stage (สภาพเหนือบ่วงกรรม) เป็นอย่างไร?
- เป็นสภาพสุดท้ายที่เราอยู่เหนือขีดจำกัดในธรรมชาติและสันสการ์ และละวางอย่างสิ้นเชิง เป็นสภาพที่มีพลัง เป็นสภาพสูงส่งที่สุดและดั้งเดิม
- ในสภาพนี้ แม้ร่างกายจะป่วย เจ็บปวด แต่ดวงวิญญาณไม่ได้รับผลกระทบ และไม่รู้สึกอารมณ์เสียกับทุกข์ทรมานเหล่านั้น เขาจะไม่ถูกควบคุมโดยบัญชีกรรมของเขา
- ไม่ถูกดึงดูดไปหาใครหรือสิ่งใด
- ไม่มีความอยากปรารถนาที่จะมั่งคั่งร่ำรวย มีชื่อเสียง เกียรติยศ ตำแหน่งฯลฯ
- ไม่มีบ่วงพันธะใด แต่จะรับการค้ำจุนจากบาบาผู้เดียว
- เป็นอิสระจากบัญชีกรรมทั้งหมด
- ในสภาพสูงสุดของพวกเขานี้เอง ที่เขาจะมีนิมิต และด้วยการเห็นของพวกเขา ผู้คนก็จะได้รับนิมิตของบราห์มา ดาดี้ หรือเทพพิเศษ
- เขาจะอยู่เหนือเสียง ในไม่ช้าเขาจะเป็นอิสระจากสิ่งทางโลก
- เขาจะไปและมีสภาพเทวดานางฟ้า สันสการ์เหล่านั้นเป็นสันสการ์เทพ เขาจะบัพสมาน (ทัดเทียมพ่อ)
- เขารับการค้ำจุนจากอวัยวะประสาทสัมผัส แต่จะไปอยู่เหนือสิ่งนั้น นั่นคือเขาจะเห็นสิ่งต่างๆ แต่ไม่ถูกดึงรั้งด้วยสิ่งใด มีชีวิตเช่นดอกบัว บริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์
- เขาจะรักษาสภาพคาร์มาโยคี จิตใจของเขาจะเคลียร์บัญชีกรรม มีสภาพที่เป็นโยคี แต่จะไม่ขึ้นลง กับอารมณ์
- เขาจะมีความสัมพันธ์กับครอบครัวทางโลก แต่อยู่อย่างละวางอย่างสิ้นเชิง ถึงแม้จะอยู่ในร่าง ก็ละวางจากร่าง แม้แต่การหิว กระหาย การหลับนอน ก็จะไม่ดึงรั้งสติปัญญาของเขา
- สิ่งนี้คือสันสการ์หลักของดวงวิญญาณที่ถึงสภาพเหนือบ่วงกรรม
(คลิกอ่านต่อ)
- 13 มิ.ย. เวลา 18.30 น. "การตระหนักรู้และการเปลี่ยนรากสันสการ์ที่ลึก"
โดย Dr.Nirmala
(คลิกฟังแปลไทย)
เป้าหมายของชีวิตคือการเปลี่ยนแปลงสันสการ์จากทาโมประธาน(ไม่บริสุทธิ์ที่สุด)กลับมาสาโทประธาน(บริสุทธิ์สูงสุด) เปลี่ยนสันสการ์บัคตี(เลื่อมใสศรัทธา) เป็นสันสการ์ของความรู้ บาบาเป็นผู้ชำระให้บริสุทธิ์โดย
- เปลี่ยนสำนึกที่เป็นร่าง ให้มีสำนึกเป็นดวงวิญญาณ
- เปลี่ยนตัณหาราคะ เป็นความปรารถนาดีบนพื้นฐานของความรักที่บริสุทธิ์
- เปลี่ยนความโกรธ เป็นความสงบ เยือกเย็น
- เปลี่ยนความละโมบ เป็นความพึงพอใจ
- เปลี่ยนความผูกพันยึดมั่น เป็นความรักและละวาง
- เปลี่ยนความเกลียดชัง ให้เป็นมิตรและรู้ค่า
- เปลี่ยนความคิดที่เป็นลบ ให้เป็นบวก
- เปลี่ยนความเกียจคร้าน เป็นความใส่ใจระมัดระวังและจริงจังกระตือรือร้น
ให้เราใช้ชีวิตเช่นดอกบัว มองทุกสิ่งอย่างผู้สังเกตการณ์ที่ละวาง ไม่ตกภายใต้อิทธิพลของบุคคลหรือสถานการณ์ใด การเปลี่ยนแปลงด้วยภาวนาและศรัทธาที่ลึกล้ำจะมีพลังอย่างมาก จากความคิดที่มุ่งมั่นและซื่อสัตย์ในการตรวจสอบตนเอง
(หญิง)
- 14 มิ.ย. เวลา 18.30 น. "Mama" โดย Sr.Mohini
- ทันทีที่มาม่าได้ถูกเรียกว่า “โอม ราเด้” มาม่าก็กลายเป็นสิ่งนั้น ไม่ใช่เพียงแค่ โอม ชานติ ฉันคือดวงวิญญาณที่สงบ แต่ฉันคือราเด้ ที่เคยเป็นและจะกลายเป็นสิ่งนี้ในอนาคต ท่านยังเป็นราเด้ลูกสาวของบาบา ในฐานะที่เป็นลูก ท่านเชื่อฟังและทำตามบาบาเสมอ
- ด้วยการเชื่อฟังบาบาและตอบรับบาบาเสมอ (Yes, Baba / Haji Baba) นี่ไม่ใช่ศรัทธาที่มืดบอด แต่เป็นพลังของมาม่า ที่จะทำตามชีพบาบา และคิด พูด ทำเหมือนบราห์มา บาบา ท่านจึงได้กลายเป็นมือขวาและพร้อมเสมอ ท่านได้กลายเป็นนาย มีพลังของการแยกแยะตัดสิน ฉลาด รู้คิด เป็นผู้ใหญ่ มีความรับผิดชอบ โดยไม่เห็นว่าสิ่งใดเป็นภาระ
- มาม่าได้กลายเป็น “แม่ของชาวโลก” เพราะให้การหล่อเลี้ยงดูแลยักย่าด้วยความรู้และการเป็นตัวอย่างในทางปฏิบัติ ท่านไม่เพียงแต่ได้ยินความรู้ แต่มีปัญญาที่จะเปลี่ยนความรู้เป็นความอ่อนหวาน เป็นพลังทั้งหมด ดังนั้นจึงเป็นสัญลักษณ์ของอาวุธที่ให้ไว้กับชัคตี
(คลิกอ่านต่อ)
- 20 มิ.ย. เวลา 18.30 น. "ความซื่อสัตย์ การเชื่อฟัง และความไว้วางใจ คุณสมบัติของมาม่า"
โดย Dr.Nirmala
(คลิกฟังแปลไทย)
มาม่าเป็นผู้ที่มีความเพียรพยายาม ด้วยการเชื่อฟัง จึงทำทุกงานให้สำเร็จตามเป้าหมายตามที่บาบาบอก ขณะที่ทำตามศรีมัทอย่างสม่ำเสมอ
มาม่าเป็นตัวของความรู้ มีความสามารถพิเศษในการรับฟังเข้าใจมูร์ลี และสามารถถ่ายทอดได้อย่างลึกล้ำ
มาม่าให้ความสำคัญและไม่พลาดอมฤตเวลาแม้จะนอนดึกขนาดไหนก็ตาม ความรัก ความอ่อนหวาน ทำให้มีพลังโยคะมากในสติปัญญา
หัวใจพร้อมรับใช้อย่างเชื่อฟังและซื่อสัตย์ โดยไม่มีคำถามหรือข้อโต้แย้งใดๆ
จากการที่ได้รับความรู้นี้ ทำให้ฉันเห็นคุณค่าในการทำตามศรีมัทของบาบา เพื่อจะได้รับคุณสมบัติที่ให้คุณประโยชน์แก่ตนเองและโลกได้
บนพื้นฐานของความซื่อสัตย์ที่มาจากความรู้และโยคะ มีการทำกรรมที่สูงส่งเสมอ และใช้สมบัติอย่างมีค่า ความซื่อสัตย์นั้นเชื่อมโยงกับความบริสุทธิ์
เริ่มจากความซื่อสัตย์ต่อตนเอง แล้วเราก็จะสามารถซื่อสัตย์ต่อบาบาได้ การสร้างสมความซื่อสัตย์ที่สมบูรณ์เราจำเป็นต้องมีสำนึกเป็นดวงวิญญาณ เป็นผู้สังเกตการณ์ตนเอง
ด้วยเป้าหมายที่จะเปลี่ยนแปลงตนเอง
(เกรซ)
- 21 มิ.ย. UN Yoga Day
สำนักงานของบราห์มา กุมารี ในองค์การสหประชาชาติ ได้ร่วมฉลองครบรอบ 75 ปีของ UN ด้วยโครงการริเริ่มสำหรับเยาวชน และผู้ใหญ่วัยเยาว์ 'Yogis- Linking Living Lights'
(คลิกดู video)
Sr.Prajwa ผู้แทนเยาวชนของบราห์มา กุมารี จากประเทศไทย ได้นำเสนอ VDO clips 3 นาที
(คลิกดู video)
Sr.Prajwa ปัจจุบันเป็นนักศึกษานานาชาติจากมหาวิทยาลัยมหิดล วัย 18 ทำหน้าที่เป็นผู้แทนเยาวชน ด้วยการประสานงานกับข่ายงานทั่วโลก ของบราห์มากุมารี มหาวิทยาลัยทางจิตของโลก จากการที่ได้เข้ามาศึกษาความรู้ทางจิตวิญญาณกับครอบครัวตั้งแต่วัยเด็กที่ใช้ชีวิตในประเทศไทย
ประสบการณ์จากการเรียนรู้และฝึกจิตแบบราชาโยคะ ของ Sr.Prajwa เกี่ยวกับภาพอนาคตที่สูงส่งของเยาวชน (Youthful
vision of our Divine Future) เมื่อฉันเริ่มเข้าใจราชาโยคะ เป็นความลับอันลึกล้ำที่สุดของเวลา
ฉันเข้าใจว่าโลกเคยมีความเป็นหนึ่งเดียวกัน ซึ่งไม่ได้เป็นเช่นทุกวันนี้ เริ่มด้วยยุคแห่งสัจจะ (Satyug) ที่รู้ได้ว่าเป็นยุคทอง ดินแดนแห่งความสุข
แล้วก็เป็นเตรตายุค (Tretayug) ยุคเงิน เข้ามาถึงดวาเปอร์ยุค(Dwapuryug) ยุคทองแดงแล้วเวลานี้เราอยู่ที่กลียุค (Kaliyug) ยุคเหล็ก
ถ้าเรามองดูวงจรเวลาขณะที่เราอยู่ ณ ที่นี่ เป็นตอนเช้า ตอนกลางวัน ตอนเย็น ตอนกลางคืน ตอนเช้าเราสดชื่น มีชีวิตชีวาและสะอาด เมื่อมาถึงตอนกลางวัน แล้วกลางคืนเราก็เหน็ดเหนื่อย ทั้งอ่อนล้า และสกปรก เวลานี้เราจำเป็นต้องทำความสะอาดเล็กน้อยและพักผ่อน ขณะนี้เราอยู่ในจุดที่กลียุคกำลังจะหมดไปและสัตยุคกำลังจะเริ่มต้น เหมือนรุ่งอรุณ ที่กลางคืนและตอนเช้ามาพบกัน สำหรับบางคนอาจจะเป็นกลางคืนแล้วสำหรับบางคนก็จะเป็นตอนเช้า เช่นช่วงเวลา ตี 4 คนบางคนก็พูด Good morning และบางคนก็พูด Good night Good night หมายถึงการหลับใหลในความโง่เขลา มีชีวิตเพื่อความสำเร็จกับการตอบสนองประสาทอวัยวะสัมผัสของตนโดยไม่มีความรู้เกี่ยวกับตนเองจึงนำไปสู่ความทุกข์ทรมาน
(คลิกอ่านต่อ)
- 24 มิ.ย. วันมาม่า
ปลุกความเป็นแม่ของเยาว์ชน ผู้เป็นเลือดใหม่ในการสร้างโลกใหม่
บราเตอร์ Siddhant มาทำหน้าที่แม่ ปรุงอาหารเย็นกับซิสเตอร์ Prajwa ก่อนการสนทนากับครอบครัว
บันทึกเสียง |
ประสบการณ์ของเยาวชน และผู้ใหญ่วัยเยาว์ |
- Br.Siddhant - วัย 30(อินเดีย)
(คลิกฟังเสียง)
ตอนท้ายเน้นความสำคัญของอาหารบริสุทธิ์ ที่ทำให้อยู่เหนือกระแสลบ
- Sr.Prajwa - วัย 18(อินเดีย)
(คลิกฟังเสียง)
- น้องต่าย - วัย 28 (ไทย)
(คลิกฟังเสียง)
- น้องเหมียว - วัย 37 (ไทย)
(คลิกฟังเสียง)
Siddhant Mahapatra วัย 30 จาก Nayagart, India. มืออาชีพ เป็นวิศวกรเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ -
Software Engineer ได้รับเชิญมาทำงานกับธนาคาร CIMB ในประเทศไทยประมาณ 1 ปี จากผลงานดีเด่นในหลายองค์กร
ในช่วงก่อนการเดินทางกลับประเทศอินเดีย ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวทางจิต และได้ไปเชียงใหม่
Vision of family ภาพของครอบครัว(ทางจิต) ในประเทศไทย
- คือการรวมเป็นหนึ่งเดียวกันของครอบครัว ตามศรีมัทของบาบา
- หล่อเลี้ยงครอบครัวด้วยกันใช้คุณสมบัติพิเศษของทุกคนภายในครอบครัว
- ทำให้จิตใจเข้มแข็งยิ่งขึ้นและช่วยทำให้ครอบครัวมีจิตใจที่เข้มแข็งยิ่งขึ้นที่จะเผชิญกับข้อสอบสุดท้าย
ที่เชียงใหม่ฉันได้ฝึกฝนที่จะเห็นคุณธรรมของทุกคน ฝึกฝนความเคารพตนเองที่ต่างคนก็มีอยู่ภายในเพื่อทำให้ครอบครัวเชียงใหม่เข้ามาใกล้ชิดกัน ด้วยความรักอย่างมากต่อครอบครัวประเทศไทยทั้งหมด
- 25 มิ.ย. วันพฤหัส วันสัทกูรู - อ๊อฟเฟอร์โบ๊ค สำหรับมาม่า
| ทุกคนได้รับพรสวัสดิกะ ที่หมายถึงผู้ล่วงรู้สาระของตน ตามที่มาม่าได้รับการกราบไหว้ ในนามเจ้าแม่สรัสวตี
|
|
| แม่ปุ๋ย นำสบู่พิเศษ มาให้ขัดสีฉวีวรรณ
|
เราได้รับการป้อนองุ่นทุกปี พิเศษปีนี้ จากสาส์นโบ๊ค มาม่า ให้องุ่นแต่ละคน ในอาณาเขตที่ละเอียดอ่อน เพื่อย้ำความสำคัญของประสบการณ์ความรักของพระเจ้า
"ฉันเป็นของบาบา และบาบาเป็นของฉัน"
- 28 มิ.ย. เวลา 18.30 น. "สภาพสุดท้าย การเป็นผู้ที่ไม่ไหวหวั่นและสั่นคลอน"
โดย Dr.Nirmala
(คลิกฟังแปลไทย)
สถานการณ์ปั่นป่วนอาจเกิดขึ้นได้ทันทีทันใด ในทุกหนแห่ง เวลานั้นเราต้องอยู่อย่างไม่ไหวหวั่นสั่นคลอน มีความเงียบสงบภายใน เพื่อจะไม่ถูกกระทบหรือตกภายใต้อิทธิพลของผู้คนรอบข้างหรือกระแสบรรยากาศ ด้วยการฝึกฝนสำนึกที่เป็นดวงวิญญาณเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน สำรวจตรวจสอบตนเอง และอยู่ในการจดจำระลึกถึงบาบาเสมอ
ในขณะที่อยู่กับครอบครัว ทำงานอย่างเป็นคาร์มาโยคี มีความรัก ความเคารพ เอาใจใส่ดูแลทุกคน เพื่อที่จะสามารถช่วยทุกคนได้ สำนึกรู้ของเราควรเป็นไปเช่นผู้ประทาน ให้คุณประโยชน์ คงความปรารถนาดี กระจายกระแสของความสงบ ความรักออกไป และอยู่อย่างปราศจากความกลัว พร้อมเสมอ ด้วยสำนึกรู้ว่าทุกขณะนั้นเป็นเวลาสุดท้าย มีบาบาเป็นมิตรร่วมทางชีวิต อยู่ภายใต้ร่มฉัตรของการปกป้องของท่าน สติปัญญามีความรักในเวลาของการทำลายล้าง ด้วยความเข้าใจในทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้น มีศรัทธาอย่างมั่นคง ด้วยการข้องแวะอยู่แต่ในงานรับใช้ มายาจะไม่กล้ามา เราควรมีทั้งญาณ โยคะและงานรับใช้ ไม่ว่ากรรมใดที่เราทำผู้อื่นจะทำตาม ไม่ควรถูกดึงดูดด้วยใคร มีเพียงบาบาเท่านั้น
(ไก่)
|
รายการ International Brothers Retreat (5 - 7 มิถุนายน 2020)
การสร้างภาวะยืนหยัดอย่างยืดหยุ่นสำหรับวันนี้และวันหน้า ได้จัดขึ้นสำหรับพี่น้องชาย อย่างน่ามหัศจรรย์ในการปรับรายการตามเวลาท้องถิ่นพร้อมกันทั่วโลก
มีการแบ่งโซนต่างๆทั้งตะวันออกไกล (Far East, Australia, AEST)
ยุโรป(Europe, London ,BST) และอเมริกา (Americas, New York, EST)
แทบทุกประเทศร่วมรายการแบบออนไลน์จากบ้านของตนเอง โดยมีการแปลภาษาหลัก (สเปน,โปรตุเกสและฝรั่งเศสจากระบบกลาง)
มีการถามตอบ สัมนากลุ่มย่อยในห้องที่ทุกคนพบกันบนจอภาพ
ส่วนประเทศไทยเรามีพี่น้องชายที่ลงทะเบียนและร่วมประชุมผ่านศูนย์ประสานงานกลางประมาณ 13 ท่าน ที่มีการแปลภาษาไทย
รวมทั้งผู้ใช้ภาษาอังกฤษโดยตรงประมาณ 5-6 ท่าน บางท่านได้มาพักค้างในหมู่บ้านชัยพฤกษ์
ใกล้ที่ถ่ายทอดสดจาก สำนักงานชั่วคราวของศูนย์นนท์ฯ เพื่อความเข้มข้นของการใช้ตารางเวลาบราห์มินร่วมกัน ตั้งแต่เช้าถึงกลางคืน
พี่ชัย ควบคุมระบบออนไลน์จากศูนย์คอมพิวเตอร์ พี่ La ถ่ายทอดสดและแปลตลอด พี่แมรี่ก็มาช่วยแปลด้วย
รวมทั้งแม่ปุ๋ยช่วยแปลในรายการพิเศษอื่นๆสำหรับทุกคนต่างวันเวลา น่าสนุกสนานกับประสบการณ์ของความร่วมมือเต็มกำลังเพื่อส่งเสริมวิญญาณของการเรียนรู้
Resilience (ยืนหยัดอย่างยืดหยุ่น)คือหัวข้อหลักของ Retreat
พี่หล้าได้แบ่งปันประเด็นพิเศษจากคลาสของ Sr.Jayanti (20 พ.ค. 20) ไว้ให้เพื่อเตรียมพร้อมกับการเข้าสู่รายการ แบบออนไลน์
แทนรายการจริงตามแผนเดิมซึ่งจัดขึ้นที่ Peace Village, New York ก่อน Lock Down
จากมุมมองด้านอารมณ์และจิตวิญญาณ ถ้าเด็กได้รับการเลี้ยงดูโดยมีผู้เอาใจใส่ดูแลอยู่เสมอพร้อมทั้งรับฟังด้วยความรักและการยอมรับอย่างไม่มีเงื่อนไข
เด็กจะเติบโตมาพร้อมความสามารถภายใน (An In-built Capacity)
ซึ่งทำให้เขาเข้มแข็งและยืดหยุ่นที่จะจัดการกับการเรียกร้องของชีวิตสมัยใหม่
เมื่อฉันยืนหยัดอย่างยืดหยุ่นไม่เพียงที่ฉันจะกลับคืนสู่สภาพเดิม
แต่ฉันสามารถยืดหดตัวได้เหมือนหนังสติ๊ก ซึ่งแสดงให้เห็นว่าฉันมีใครบางคนค้ำจุนอยู่อย่างไม่มีเงื่อนไข ผู้เดียวนี้ยอมรับฉันอย่างสมบูรณ์ว่าฉันเป็นใคร ไม่มีขีดจำกัด ไม่มีเงื่อนไข
นั่นคือพระเจ้าผู้เดียวนี้เท่านั้นที่จะพูดได้ว่าลูกเป็นลูกของพ่อ (You are my child) ตราบนานเท่าที่ลูกมีสำนึกเป็นดวงวิญญาณ ลูกจะรู้สึกว่าความรักนั้นมาถึงลูก
สำนึกที่เป็นดวงวิญญาณหมายถึงการหันเข้าสู่ภายในที่เป็นเอกลักษณ์ที่คงอยู่ตลอดไปของฉัน ไม่เช่นนั้น
สำนึกที่เป็นร่างที่มาพร้อมกับเอกลักษณ์จอมปลอมจะเป็นสิ่งกีดขวางระหว่างตัวฉันเองและสิ่งสูงสุด
พระเจ้ารักฉันแต่ฉันไม่สามารถรู้สึกได้เพราะการกีดขวางของเอกลักษณ์ที่อยู่บนฐานของการมีตัวตน
(คลิกอ่านต่อ)
- 6 มิ.ย. เวลา 20.00-22.00 น. "สร้างสภาพยืนหยัด อย่างยืดหยุ่น" โดย Br.Ken
(คลิกฟังแปลไทย)
- 7 มิ.ย. เวลา 13.00-15.00 น. "กีตะ บทที่ 18 การทำลายล้าง(บทสุดท้าย)" โดย Br.Ken
(คลิกฟังแปลไทย)
ในชีวิตการเป็นบราห์มิน บราห์มา บาบา คือท่านแรกที่เข้าสู่สงครามต่อสู้ที่ศักดิ์สิทธิ์ เรียกว่าสงครามมหาภาระตะที่มีอรชุนเป็นผู้นำทัพที่กล้าหาญ
ฉลาดหลักแหลม การได้รับชัยชนะในสงครามนี้ ไม่ใช่การต่อสู้ด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์ แต่เป็นการต่อสู้เพื่อเอาชนะตนเอง
Gita คือ แม่ของทุกคัมภีร์ กลายเป็นมหากาพย์อันยิ่งใหญ่ ให้บทเรียนชีวิตของ ความเพียรพยายาม เพื่อการหลุดพ้นของมวลมนุษย์
|
- ภาพลวงตาของตนเอง ที่เรียกว่า กิเลส หรือมายา
- ภาพลวงตา จากผู้อื่นทั้งในทางตรง และทางอ้อม
- ภาพลวงตาโดยทั่วไป เช่น ความกลัว ความโกรธ ฯลฯ ทั้ง สถานการณ์ บรรยากาศ และอีโก้(ความหลงทะนงตนจากภายใน)
การเพียรพยายามที่จะสละละทิ้งภาพลวงตาที่หลอกลวงตัวเองอยู่.. การไม่ศรัทธาในชีวิตบราห์มิน ไม่ศรัทธาในบาบา ไม่ศรัทธาในละคร นั่นคือการถูกอีโก้ครอบครองตัวเอง ...
ด้วยการสร้างสำนึกเป็นดวงวิญญาณ ที่ไม่ใช่ร่างกาย ไม่มีสถานภาพหรือบทบาทใดๆ เป็นการสละละทิ้ง บ่วงกรรม บัญชีกรรม และอีโก้ที่เป็นภาระจากการสร้างกรรมโดยภาพลวงตา
นี่คือการทำลายล้าง ความหลอกลวงจากการตระหนักรู้ฉันเป็นใคร เป็นของใคร อยู่ที่นี่ทำไม ต้องต่อสู้กับอะไร เพื่ออะไร
การทำสมาธิคืออะไร ทำทำไม (แมรี่)
(คลิกอ่านต่อ)
- 7 มิ.ย. เวลา 15.30-17.30 น. "ให้แน่ใจว่าโยคะเราดีพอ" โดย Br. Charlie & Br.Neville
(คลิกฟังแปลไทย)
การมีโยคะที่ดีนั้นนำประโยชน์มาสู่ผู้ฝึกปฏิบัติมากมาย จิตใจมีความสงบเย็น มีความสดชื่นกระตือรือร้น มีการตัดสินใจแก้ไขปัญหาและสร้างสรรค์กรรมดี
นำการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่เป็นบวก การที่ให้แน่ใจว่าโยคะดีพอนั้น เราต้องเพียรพยายามทำตามศรีมัท(หนทางชีวิตที่สูงส่ง) ของบาบาด้วยความเคารพ ถ่อมตน ซึ่งต้องอาศัยความซื่อสัตย์ ความสะอาด
เมื่อมีการตระหนักรู้ว่าฉันคือ ดวงวิญญาณ ลูกของพระเจ้า พ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุด และเรามีการเชื่อมโยง (connection) ที่ดี และมิตรภาพ(relationship) ที่ดี
เราจะได้รับการดูแลเอาใจใส่และปกป้องคุ้มครองในทุกย่างก้าว ประเด็นพิเศษที่ได้รับ : การมีผู้หญิงเป็นผู้นำองค์กรคือหลักการที่ดี ในการลดความหยิ่งทะนง( Ego ) ของผู้ชาย
ซึ่งเป็นการช่วยเสริมให้มีโยคะได้ดีอีกประการหนึ่ง.
(สมหมาย)
- 7-8 มิ.ย. เวลา 20.00-22.00 น. "พิธีปิด" โดย Br.BrijMohan และ Sr.Mohini
ตอนแรกประทับใจที่ Brijmohan Bhai พูดว่า "เราคือลูกของพระเจ้าที่มีโชค ที่รู้จักละคร ผู้ที่กำลังจะไปสู่ยุคทอง" ทำให้มีความซาบซึ้ง มีความสุข ขณะที่ผู้อื่นกำลังตกอยู่ในความกลัว วิตกกังวล เกี่ยวกับการทำลายล้างและสถานการณ์ในปัจจุบัน
เราควรจบสิ้นคำว่าความเพียรพยายามและให้เรามีความสมบูรณ์พร้อมแล้ว ขณะทำงานรับใช้ให้มีสำนึกรู้เสมอว่าสิ่งที่เราทำนั้นบาบาเป็นผู้ดลใจให้เราทำ เอาคำว่า "ของฉัน" ออกไป และให้มีแต่คำว่า "ของท่าน" ยกมอบทุกสิ่งให้บาบา ไม่ปล่อยให้ความอ่อนแอเข้ามาในจิตใจ มีความรู้สึกที่ปรารถนาดีต่อทุกคน ทำกรรมที่สูงส่งด้วยหัวใจที่กว้างใหญ่ เช่นเดียวกับบาบา ไม่กล่าวโทษต่อทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ด้วยสำนึกรู้ว่าเป็นผลกรรมในอดีต รับการค้ำจุนและมีทุกความสัมพันธ์กับบาบาเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับทุกคน
ตอนสุดท้าย Sr.Mohini นำสาส์นโบ๊ก มาบอกว่าบาบาให้ดรีสตี (กระแสพลังผ่านดวงตา) ต่อพันดาบทุกคนที่เข้าร่วม Retreat นี้ ฟังแล้วมีความรู้สึกซาบซึ้ง เรารับรู้ได้ถึงความรักของบาบา เหมือนท่านมากล่าวทักทายลูกๆของท่าน และส่งความรักและการจดจำระลึกถึงแก่พันดาบ ผ่าน Sister ผู้นี้
(ต่าย)
- 8 มิ.ย. เวลา 09.00-11.00 น. "สภาพการเงินที่ดี " โดย Br.Marcelo & Br.Erik
เพราะบราเธอร์รู้ว่าสถานการณ์หรือเวลาละครเหลือเพียงไม่นาน จึงยกเลิกการสะสมเงินที่จะคอยรับตอนเกษียณ เปลี่ยนเป็นทำงานเป็นจ๊อบเล็กๆ แล้วได้เงินทันทีใช้ทันทีเพื่อความรู้ของบาบา
โดยเงินต้องหามาจากความเพียรพยายามและความซื่อสัตย์สุจริตเป็นฐาน บราเธอร์บอกว่าเมื่อมีบาบาแล้วจะใช้เงินก็จะนึกถึงบาบาก่อน จะใช้จ่ายของตัวเองก็เท่าที่จำเป็นจริงๆ เรื่องเงินเราต้องมีพลังของความพึงพอใจมาคอยกำกับ
ในขณะที่คนส่วนมากไม่เคยหยุดความทยานอยาก จะเอาแต่เงินจนเสียหาย การบริหารเรื่องเงินควรปรึกษาซีเนียร์ท่านจะช่วยเราได้มาก ซึ่งบีเคใหม่ๆ
มักมีความกังวลมากมายในการหาการเก็บและการใช้อย่างถูกต้องตามศรีมัท ดังนั้นความมั่นคงการเงินในเวลาที่เหลือไม่มากจึงต้องใช้อย่างล้ำค่าสูงสุดนั่นคือร่วมบุญกับบาบา
เมื่อให้บาบาแล้ว ต้องไม่มานึกว่านั่นเป็นเงินของฉัน ต้องไม่มีสิ่งนี้
ผู้สรุปเห็นด้วยคืออยู่อย่างเป็นทรัสตี (Trustee-ผู้ดูแลผลประโยชน์) และการหามาด้วยความเพียร ไม่เก็บสะสม รีบหารีบใช้
และไม่ควรนำเงินเข้าในระบบหนี้สินกู้ยืม และการใช้เงินให้เกิดบุญสูงสุดกับการร่วมสร้างโลกใหม่ของบาบา จึงจะเรียกว่าการเงินเราดีจากปัจจุบันตลอดจนอนาคต โอมชานติ(พี่อุดม)
|
รายการ 21 Masterclasses 7 มิ.ย. - 27 มิ.ย. 2020 เวลา 17.30-18.30 น.
จัดโดยศูนย์ประสานงานนานาชาติ ณ กรุงลอนดอน อังกฤษ
|
21 วันที่เราเชิญบุคคลพิเศษจากภาคส่วนต่างๆ ของสังคมโลก มาแบ่งปันประสบการณ์ เพื่อให้แรงบันดาลใจเพื่อให้ก้าวต่อไปอย่างมั่นใจ ในเวลาของการเปลี่ยนแปลง ด้วยการปรับคลื่นชีวิต
จากมุมมองทางจิตวิญญาณที่ชัดเจน แสดงถึงความซื่อสัตย์ในการนำทฤษฎีไปปฎิบัติ
- 7 มิ.ย. "การรักษาความสงบในช่วงวิกฤต" โดย Sr.Jayanti
- 8 มิ.ย. “ผู้เป็นแหล่งที่คงอยู่ตลอดไป” โดย Br.Charlie
- 9 มิ.ย. “วีธีการเข้าสู่กระบวนการและการจัดการกับอารมณ์” โดย Dr.Sarah Eagger
- 10 มิ.ย. "กรรมหรือชะตากรรม" โดย BK.Shivani
วิธีการคิดใหม่ ทำใหม่ในภาวะวิกฤต ที่เราต้องเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วมาก สร้างภาวะของการยืนหยัดอย่างยืดหยุ่น ในการที่จะอยู่อย่างท้าทายจากหลายปัจจัยที่เข้ามา ที่เป็นการขึ้น-ลงของชีวิต สิ่งที่ต้องพิจารณาและน่าสนใจที่สุดคือ "ปรัชญาแห่งกรรม" ที่จะทำให้เรามีอิสระในการทำกรรมอย่างเข้าใจ
กรรมเป็นอย่างไร... ชะตากรรมก็จะเป็นอย่างนั้น
- กรรม คือ พลังที่สร้างในความคิด ความรู้สึก คำพูด พฤติกรรม ในเจตนา ในร่องความจำ เป็นกระแสจิตที่สะสมไว้ และกระจายออกไป อาจไม่เห็นได้ด้วยตา เช่นเป็นความคิด ความรู้สึกและเจตนาของเรา
- ผลกรรม...ทุก "ความคิด" ที่เราสร้าง เราจะมีประสบการณ์ของ "ความรู้สึก" และกระจายไปทุกส่วนของร่างกาย คิดดีก็จะเยือกเย็น มีความสงบ เข้าไปสู่สิ่งแวดล้อม ธรรมขาติ ความสัมพันธ์กระทบกับโลกเราทั้งหมด ขึ้นอยู่กับวิธีคิด
- ถ้าฉันสร้างความสุข และสุขภาวะที่ดี สร้างความสอดคล้องกลมกลืน สร้างสวรรค์ในโลกได้ "ด้วยการคิดดี"
- หาก"คิดไม่ดี"..ฉันก็จะสร้างความสับสน เครียด กระวนกระวาย สร้างความกดดัน ความเศร้า ฉันสามารถสร้างโรคภัยเข้ามาในร่างกาย เพราะการคิดไม่ถูกต้อง เราก็สร้างความขัดแย้ง ความสับสนและความปั่นป่วนในโลก นี่ คือ "ชะตากรรม" ของฉัน
(คลิกอ่านต่อ)
- 11 มิ.ย. “พัฒนาสภาพที่ยืนหยัดอย่างยืดหยุ่นต่อข้อมูลที่มากเกินไป” โดย Br.Eric Le Reste
- 12 มิ.ย. “บนเส้นทางของความรักและการปล่อยวาง” โดย Br. Neville Hodgkinson
- 13 มิ.ย. “ใช้เวลาที่มีคุณภาพกับตัวเอง” โดย Sr.Moira Lowe
- 14 มิ.ย. “รักษาปัญญาที่แท้จริงจากหัวใจ” โดย Br.Ken O’Donnell
Q : ปัญญาเชื่อมโยงกับหัวใจอย่างไร? ปัญญาเป็นเรื่องของสติปัญญา การเรียนรู้ การเข้าใจ คนส่วนใหญ่คิดว่าเขามีปัญญาที่แบกสิ่งที่เขาเรียนรู้ไว้ แต่ปัญญาจริงๆเป็นวิธีการที่เราจะปฏิสัมพันธ์หรือตอบรับบางสิ่งจากการที่เรารู้ว่า“เราเป็นใคร” ปัญญาเป็นเรื่องของการใช้เหตุผล เราเรียนรู้ที่จะรัก ไม่ใช่แต่คนน่ารัก แต่เราต้องรักคนไม่น่ารัก คนที่ไม่สงบ คนที่ยาก หรือสถานการณ์ที่ยากได้ด้วย นี่คือปัญญาที่รู้ว่าจะต้องมีปฏิกิริยาตอบโต้อย่างไรทั้งข้างในและข้างนอกอย่างรอบด้าน
Q : คุณสมบัติอะไรที่เราใช้เพื่อมีปัญญาภายใน? ความเมตตา - เป็นการช่วยยกระดับให้เขาหายจากความทุกข์ ซึ่งตรงกันข้ามกับความหลงทะนง สิ่งสำคัญคือ ความเมตตาต่อตนเอง ที่ต้องอยู่เหนือการสังเวชตนเอง บางครั้งเราตำหนิตนเอง ไม่เคารพตนเอง ทำลายตนเอง เราต้องรู้ว่าคุณค่าของตนเองคืออะไร ฉันมีอะไรเบื้องหลังหน้ากากที่ฉันสวมใส่ บางครั้งเรามองโลกทุกวันนี้ เรากำลังกล่าวโทษใคร จริงๆ เราต้องโอบอุ้มจากหัวใจ นี่คือปัญญาสูงสุดที่ฉันต้องมี คือการพัฒนาความสัมพันธ์กับตนเองให้ได้ แล้วจะมีผลต่อทุกสิ่งที่ฉันเชื่อมโยง การเชื่อมโยงกับพระเจ้านั้นก็มีความสำคัญมากเช่นกัน ฉันควรเห็นคุณสมบัติที่ดี การตระหนักรู้ คือ การเข้าใจคุณสมบัติที่ดีนั้นและนำเอาสิ่งที่ดีนั้นของฉันขึ้นมาใช้ให้ได้
(คลิกอ่านต่อ)
- 15 มิ.ย. “ใช้ชีวิตและการคิดที่สร้างสรรค์” โดย Br.Harry, Sr.Ayako & Eugie
- 16 มิ.ย. “จิตใจของฉัน-มิตรหรือศัตรู” โดย Sr.Maureen Goodman
- 17 มิ.ย. "จากความกลัวสู่ความรัก" โดย Christine Mahoney
- 18 มิ.ย. "วิถีชีวิต กิจวัตรให้พลัง" โดย Carolin Fraude
- 19 มิ.ย. "บ้านที่สอดคล้องปรองดอง" Diane Tillman
- 20 มิ.ย. "ความสงบภายใน พลังภายใน" โดย Enrique Simo
- 21 มิ.ย. "เข้าหาสาระ" โดย Denise Lawrence
ซิสเตอร์ เดนนิส ได้ประมวลข่าวจากทั่วทั้งโลกในสถานการณ์ปัจจุบัน ด้วยความสามารถที่เคยมีบทบาทสำคัญในสำนักข่าวอังกฤษ (BBC) ดังนั้นพลังของความรู้ทางจิตวิญญาณจึงนำเข้าสู่สาระได้ง่ายดาย เมื่อได้เห็นผู้คนอุทานเป็นเสียงเดียวกันว่า Oh God อะไรเกิดขึ้นกันนี่ ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการล่มสลายภายนอกที่ดึงสถิติของการติดสุรายาเมาเพิ่มขึ้น ความรุนแรงในบ้าน การดูถูกดูหมิ่นกัน อันตรายจากโรงเรียนที่เคยเป็นที่หลบภัยหรือหนีปัญหาจากทางบ้าน ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม วิถีชีวิตที่ไม่ยั่งยืน เกิดช่องว่างระหว่างคนจนและคนรวยมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันบางสิ่งใหม่ที่ดีได้เกิดขึ้นเรียกว่า…..Wake-Up Call….. หรือเสียงปลุกให้ตื่น เป็นการกระตุ้นให้ดวงวิญญาณหันเข้าสู่โลกภายในแทนที่จะหลับใหลและปล่อยให้ตัวเองอ่อนแอโดยไม่มีการแก้ไขปัญหาใดๆ ผู้คนมีความปรารถนาที่จะมองหาพละกำลัง แล้วตั้งคำถามว่าฉันสามารถจะได้รับพละกำลังภายในได้อย่างไร? ฉันสามารถจะมีศรัทธาและกับสิ่งใดอย่างแท้จริงได้อย่างไร? ฉันสามารถจะผ่านพ้นเวลาที่ไม่มีอะไรแน่นอนไม่มั่นคงได้อย่างไร? เมื่อเราต้องการก้าวกระโดดไป เราจำเป็นต้องปล่อยวางสิ่งต่างๆ พร้อมปรับตัวและมองโลกในแง่ดีที่ว่าเป็นไปไม่ได้ที่ทุกสิ่งจะล่มสลายจนหมดสิ้น มันเป็นเพียงจุดเปลี่ยน จงไว้วางใจในกระบวนการที่จะนำไปสู่สิ่งที่ดีขึ้น ดังนั้นเมื่อมีคำถามว่าเป็นการลงโทษของพระเจ้าหรือ? เราจะเชื่อในพระเจ้าอย่างไร เมื่อความทุกข์ทรมานในโลกมีมากมาย? พวกเราทำอะไรผิดไปหรือจึงต้องมาพบปัญหาเหล่านี้? ซิสเตอร์เดนนิสได้เตือนให้คิดลึกมากยิ่งขึ้น พร้อมให้ระวังจะมีภาวะที่เปราะบางกำลังจะเกิดขึ้นอีกมากมายมหาศาลเกินกว่าที่เราจะคิดได้ อาทิเช่น ภัยพิบัติทางธรรมชาติ เมื่อภูมิอากาศแปรปรวน
(คลิกอ่านต่อ)
- 22 มิ.ย. "ตอบรับกับการผจญความตายและใกล้ตาย" โดย Thor Barddal
- 23 มิ.ย. "เสริมความแข็งแกร่งทางจิตวิญญาณ" โดย Yogesh Sharda
- 24 มิ.ย. "ตอบรับการเปลี่ยนแปลง" โดย Samantha Fraser
- 25 มิ.ย. "จากเสียงสู่ความสงบ ประสบการณ์การฝึกจิต" โดย Kim Cunio
- 26 มิ.ย. "สุขภาพ และสุขภาวะ" โดย Loes Bemmel
- 27 มิ.ย. "มุมมองทางจิต ในเวลาที่ไม่แน่นอน" โดย Gayatri Naraine
28 มิ.ย.2563 8 ท่วงท่าของหัวใจ (The 8 Postures of the Heart)
ตามคำประกาศขององค์การสหประชาชาติ ให้ทุกปี ในวันที่ 21 มิถุนายน เป็นวันโยคะสากล ที่ผู้คนส่วนใหญ่ในโลกให้ความสำคัญต่อสุขภาพพลานามัยหรือโยคะทางร่างกาย มีท่าทีอิริยาบทต่างๆ ซึ่งความหมายที่แท้จริงของโยคะทางจิตวิญญาณนั้นคือการเชื่อมโยงของสายใยแห่งรักที่ศักดิ์สิทธิ์ระหว่างดวงวิญญาณมนุษย์และดวงวิญญาณสูงสุดหรือพระเจ้า ที่ส่งผลต่อมวลมนุษย์และโลก
ขอเชิญพบกับ 8 ท่วงท่าของหัวใจจากเรื่องราวของความรักที่ยิ่งใหญ่ของโยคีทั้ง8 พร้อมศิลปินทั้ง 8 ที่ใช้ศิลปะแสดงออกอันพิเศษสุดต่างกันไป แต่ละท่านมีประสบการณ์ที่มหัศจรรย์เกินกว่าจะบรรยาย แต่สามารถสัมผัสได้เมื่อหัวใจได้รับการเติมเต็มด้วยความรักที่แท้จริงที่ทำให้การแสวงหาทั้งหมดจบสิ้นลง
โอมชานติ
|