ทุกวันนี้เราพูดกันมากเกี่ยวกับความเป็นบวกหรือความเป็นลบในความคิดและพฤติกรรม ซึ่งเราไม่สามารถเห็นความแตกต่างได้ชัดเจนเสมอไป ส่วนมากเมื่อใครขอให้ฉันเป็นบวกก็เพราะเพียงแต่ต้องการให้ฉันสนับสนุนแผนการหรือความคิดเห็นของเขาเท่านั้น ทั้งที่ฉันอาจจะไม่เห็นอะไรเป็นบวกเลยในสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ เกณฑ์วัดที่เป็นประโยชน์สำหรับความเป็นบวกที่แท้จริง คือ ความคิด คำพูด และการกระทำนั้น นำฉันไปสู่สัจจะของสภาวะดั้งเดิมที่เป็นดวงวิญญาณ และเพียงด้วยการฝึกฝนจิตใจเท่านั้น ฉันจึงจะสามารถกลับคืนสู่การตระหนักรู้ในสัจจะนี้ได้ ว่าทุกดวงวิญญาณ คือ สภาวะของความสงบ ความรัก ความบริสุทธิ์ ความสุขสันต์ และปัญญาที่เป็นไปโดยธรรมชาติ ดังนั้นฉันจึงใช้เกณฑ์นี้ตรวจสอบตนเองว่า ฉันทำให้ผู้อื่นและตัวเองเข้าไปใกล้กับคุณสมบัติดั้งเดิมเหล่านี้หรือไม่ ในด้านจิตวิญญาณ หากฉันช่วยใครเช่นนี้ ก็เท่ากับฉันช่วยตนเอง และถ้าหากฉันทำความเสียหายให้แก่ใคร ฉันก็สร้างความเสียหายให้แก่ตนเองด้วยเช่นกัน การอยู่ภายในสำนึกรู้ดั้งเดิมนี้ จึงไม่อาจมีคำว่า “บาป” ได้อีกต่อไป เพราะสำนึกรู้นี้สะอาดและกระจ่างชัดกับสิ่งใดก็ตามที่ถูกต้อง และดังนั้นสิ่งที่ตามมา ไม่สามารถมีอะไรที่ผิดผ่านเข้ามาสู่คำพูดและการกระทำของเราได้ อีกประการหนึ่ง คือ เมื่อสำนึกของฉันยอมรับหรือรับรู้ได้ว่าสิ่งไหนคือสัจจะ แต่ฉันไม่มีพละกำลังที่จะนำไปปฏิบัติได้จริง ความรู้สึกจะดึงฉันออกไปทางอื่น แม้สำนึกจะบอกฉันอีกอย่างหนึ่งก็ตาม และเมื่อความรู้สึกของฉันเหนือกว่า แรงกว่า ฉันก็ทำอะไรที่ฉันไม่ควรจะทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในที่สุดสำนึกของฉันก็อ่อนกำลังลงจนกระทั่งเสียงของสำนึกหรือเสียงมโนธรรมนั้นเงียบสนิท ฉันไม่สามารถแยกแยะได้อีกต่อไประหว่างสัจจะและความหลอกลวง ฉันจะรู้สึกว่าไม่มีสิ่งไหนถูกหรือผิด นั่นหมายถึงแต่ละคนมีมาตรฐานของตนเอง จากประสบการณ์ของคุณสมบัติดั้งเดิมในการฝึกฝนจิตใจและความเข้าใจแบบราชาโยคะ คุณสมบัติของทุกดวงวิญญาณ แสดงให้ฉันเห็นถึงมาตรฐานของความถูก-ผิด ความเป็นบวก-ลบอย่างชัดเจน ความเป็นบวก เกิดขึ้นในทุกแง่ทุกมุมที่จะทำให้ฉันสัมผัสกับคุณสมบัติดั้งเดิม ที่เสริมสร้างขึ้นมาจากประสบการณ์ของฉันเองต่อสิ่งเหล่านั้น และจากการแสดงออก ในการเชื่อมโยงกับผู้อื่น ส่วนความเป็นลบจะเป็นไปในทางตรงกันข้าม นั่นคือฉันซ่อนสัจจะของฉันไว้ ด้วยการทำให้ตนเองและผู้อื่นเจ็บปวด โดยไม่รู้สาเหตุ เวลานี้เราทั้งหมดถูกกระทบจากการขึ้นลงของความเป็นบวกและความเป็นลบ อันส่งผลต่อความคิด ความรู้สึก และอารมณ์ แต่ที่ส่งผลมากที่สุด คือ เราเผลอนำเอาอุปนิสัยลบๆที่เก็บไว้ในสันสการ์หรือร่องความจำของเราออกมาใช้ ดังนั้น การฝึกฝนจิตใจจึงมีเป้าหมาย เพื่อจัดรูปแบบของอุปนิสัยใจคอให้ตนเองใหม่ โดยเพิ่มพละกำลังที่เป็นบวก และ ทำลายแนวโน้มของความเป็นลบออกไป การเปลี่ยนแปลงที่มีคุณภาพ (Quality change) คือ ความสามารถที่จะเปลี่ยนความเป็นลบจากสถานการณ์ใดก็ตาม ที่ก่อให้เกิดความเสียหาย สร้างปัญหา หรือความทุกข์ ให้กลายเป็นคุณประโยชน์สำหรับตนเองและผู้อื่นได้ ดังนั้นผู้เปลี่ยนที่มีคุณภาพ ‘Quality transformers’ จึงต้องเป็นผู้ที่สามารถทำให้กำแพงของการต่อต้านกลายเป็นสะพานของการเข้าใจ และเฝ้าแต่ข้ามพ้นสิ่งนั้นไป จนเรียกได้ว่าเขาเปลี่ยนอุปสรรคเป็นเส้นทางเดินให้ก้าวไปสู่ความสำเร็จ และเปลี่ยนสิ่งที่จุกจิกหยุมหยิม เช่น ความสงสัยทั้งหลายให้กลายเป็นความมั่นใจ เพื่อแก้ไขสิ่งต่างๆ ที่เป็นไปไม่ได้ของความคิดในจิตใจ พวกเขาทำงานกับคลื่นใต้น้ำของชีวิต ที่กำหนดความจริงแท้ภายนอก ในการปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ หรือที่เรียกว่าทัศนคติ ความคิด และความรู้สึก ถ้าสิ่งเหล่านี้ซึมแทรกไปทุกหนแห่งด้วยความไม่พอใจ ความโกรธ และความเห็นแก่ตัว แทนที่จะเป็นการแสดงให้เห็นถึงความสุภาพหรือความร่วมมือ ความสัมพันธ์ก็จะเสียหายและถูกทำลายในที่สุด และถ้าหากคลื่นใต้น้ำนี้คือความไว้วางใจและความจริงใจ คุณภาพของชีวิตก็จะมีการพัฒนาขึ้น ดังนั้นรากฐานของคุณภาพจึงควรมีคลื่นใต้น้ำที่เป็นบวก (Positive undercurrent) ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องของคำพูดการกระทำ หรือบทบาท แต่เป็นมาจากรากฐานที่แสดงให้เห็นในความคิดและกิจกรรมของจิตใจ การฝึกจิตนั้นสามารถทำให้จิตใจปรับเข้าสู่คลื่นใต้น้ำของความคิด ความรู้สึก และทัศนคติ ที่สร้างออกมาจากความจริงแท้ที่มองไม่เห็นในมนุษย์ ซึ่งเป็นพลังที่หล่อเลี้ยงของความเงียบสงบ ดังนั้นการฝึกฝนจิตใจและความรู้ทางจิตสามารถทำให้เราบรรลุผลโดยสร้างการเปลี่ยนแปลงที่มีคุณภาพ ซึ่งเสริมสร้างความมั่นใจให้เรามากยิ่งขึ้น พร้อมกับมีความสามารถที่สร้างสรรค์และเกี่ยวโยงกับชีวิตอย่างเป็นบวกอีกด้วย กล่าวได้ว่า Silence หรือ ความเงียบสงบ ให้พลังงานที่จำเป็นแก่เราเพื่อการเปลี่ยนแปลงอย่างมีประสิทธิภาพ และ ความรู้เกี่ยวกับตนเองจะให้ความเข้าใจและดุลพินิจในการตระหนักถึงโอกาสสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่ทุกคนและทุกสถานการณ์นั้นมอบให้ เราจะวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงด้วยตนเองได้อย่างไร? เป็นสิ่งที่เราตั้งใจวางแผนไว้ว่าจะทำ? หรือเป็นเพียงแต่สิ่งที่เกิดขึ้นเอง? หรือเป็นสภาพของสำนึกรู้ที่ตระหนักได้โดยธรรมชาติถึงโอกาสสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่มีคุณภาพนั้น? (คลิกอ่านต่อ) จากลบกลายเป็นบวกได้อย่างไร? ขึ้นอยู่กับทัศนคติ และสายตา เวลานี้ มนุษยชาติอยู่ในอำนาจมืดของความเป็นลบที่เร็วและแรงมากขึ้นในการฉุดรั้งกันและกันให้เกิดความตกต่ำ ความสัมพันธ์ได้กลายเป็นพิษ ชีวิตของเราจึงต้องเชื่อมโยง กับแหล่งพลังงานที่มีความเป็นบวกและความเป็นกลาง การฝึกจิตแบบราชาโยคะจึงเป็นไปเพื่อทำให้เราได้สัมผัสกับแก่นแท้ของชีวิตจากการค้นพบและยึดอยู่ในเอกลักษณ์แท้จริงภายใน การตระหนักรู้ในจิตสำนึกของตัวฉัน (I am) ให้การเติมเต็มและให้ทิศทางที่ชัดเจนจนมีสมาธิจดจ่ออยู่กับปัจจุบันว่า ณ เวลานี้ฉันเป็นอะไร แทนที่จะอยู่กับอดีตที่ฉันเคยเป็น หรือฉันจะเป็นในอนาคต การเตือนตัวเองถึงสภาพเช่นนี้ เราใช้คำว่า ‘โอม’ ซึ่งหมายถึง ฉันคือดวงวิญญาณ เอกลักษณ์ทางจิต ที่ทำหน้าที่เหมือนกุญแจไขไปสู่จิตสำนึกของมนุษย์ เราค้นพบและตระหนักได้ถึงตัวตนที่แท้จริง และตัวตนที่จอมปลอมที่บุกรุกเข้ามาในชีวิตเราอย่างลึกล้ำ ทั้งวิธีการคิด การเป็น เมื่อเราเข้าใจตัวตนที่จอมปลอมหลอกลวงนี้ เราย่อมสามารถเริ่มกระบวนการละลายผลกระทบที่เป็นลบต่อตนเองลงได้ ตัวตนที่จอมปลอม สร้างขึ้นมาจากความอยากปรารถนาที่แม้กระทั่งได้รับการตอบสนอง แต่ก็ไม่สามารถเพิ่มคุณค่าของตนเองได้อย่างแท้จริง จึงเกิดผลตรงกันข้ามขึ้น ขอให้เราได้มีโอกาสตรวจสอบความหลอกลวง ที่ทำให้เรามีความรู้สึกถึงคุณค่าในทางที่ผิด
ถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่เราจะเปลี่ยนความเป็นลบทั้งหลายให้กลายเป็นบวก เพื่อการอยู่รอดและปลอดภัยของผู้ที่เรารัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวเราเองที่อยู่อย่างเคยชินกับความหลอกลวง ในสภาพที่ไม่มีความพอใจ กับความว่างเปล่าภายในตนเอง ราชาโยคะ หมายถึง การฝึกฝนจิตใจบนพื้นฐานของความรู้ทางจิต จะทำให้เราได้กลายเป็นราชาปกครองตนเอง ด้วยการเรียกร้องจากภายใน เราสามารถตระหนักได้และใช้แหล่งผลิตทรัพยากรหรือยารักษาที่เป็นอมตะ บ่อยครั้งที่เราไม่สามารถปลดล็อคหรือตระหนักได้ว่าเรามียารักษาอยู่ภายในแล้ว รวมทั้งไม่เห็นความจำเป็นในการเชื่อมโยงกับแหล่งสูงสุดของพลังงาน การฝึกจิตเพื่อเชื่อมโยงกับสิ่งสูงสุดนั้นจะทำให้เราสามารถนำเอาพลังงานที่เป็นบวกในตนเองออกมาใช้ได้ 1-15 ต.ค. 61 ณ บราห์มา กุมารี สำนักงานใหญ่ ประเทศอินเดีย แขกที่เข้าร่วมรายการ Peace of Mind ในปีนี้ ได้ร่วมเดินทางไปกับนักเรียนประจำ เนื่องจากจังหวะเวลาที่ต้องเดินทางกลับมาร่วมรายการพิเศษในประเทศไทย ![]()
เคยไปมธุบันครั้งแรกในฐานะแขกVIP แต่ครั้งนี้ไป ทั้งในฐานะผู้ดูแลแขก Peace of mind และในฐานะนักเรียน, เป็นเจ้าสาว ได้รับแหวนจากบาบาด้วย ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ มากมาย ทุกอย่างคือใหม่ทั้งหมด ไม่ว่าจะได้รับมอบหมายให้ทำอะไร จากอาจารย์ภา ก็รับผิดชอบให้ดีที่สุด ดูแลแขกไปเราเองก็ได้เรียนรู้ไป สนุกและมีความสุขมากๆ เป็นคนชอบเรียนและเปิดรับสิ่งใหม่ๆอยู่แล้ว มีความสุขมากๆ ได้เพื่อนต่างชาติมากขึ้น ได้แลกเปลียนเรียนรู้ และเห็นความยิ่งใหญ่ของการขยายความรู้ของบาบา (คลิกอ่านต่อ) คลิกอ่านประสบการณ์แขก คุณสุด , ดร.ชุติกาญจน์ , คุณปริม
การไปพบบาบาในปีนี้ เป็นการพบปะในรูปที่ละเอียดอ่อน วันที่ 12 ตุลาคม 2018 จึงเป็นเครื่องหมาย ในเส้นของเวลาแห่งยุคแห่งการบรรจบพบกันว่าเป็น เฟสที่ 3 ของการหล่อเลี้ยงของบัพดาดาในยุคแห่งการบรรจบพบกัน ซึ่งบัพดาดาได้ให้สัญญาณไว้แล้วตั้งแต่ตุลาคม 2017ที่บัพดาดามาในร่างของดาดี้กุลซ่าร์เป็นเวลาสั้นๆ และให้ดริสตีเป็นเวลาที่ยาวนาน ราวกับบาบาจะบอกว่าไม่มีอะไรต้องพูดอีกต่อไป การเปิดวิดิโอทบทวนได้ให้พลังอย่างมากเพราะได้ย้อนเอาคำสอนที่สำคัญมาเป็นแนวทางที่ยังทันสมัยและให้ผลในทางปฎิบัติจริง (คลิกอ่านต่อ)
ไปมธุบันครั้งนี้ได้ประสบการณ์ที่ดีมาก เกิดแรงบันดาลใจให้เพียรพยายามอย่างเต็มที่ในการทำตามหนทางชีวิตที่สูงส่ง ด้วยความจริงจังกระตือรือร้น เรียนรู้สิ่งต่างๆ อย่างเป็นอิสระและเป็นไปโดยธรรมชาติ รู้สึกว่าชีวิตนี้ได้รับการเรียนรู้ มีการเติบโตพัฒนาความรักและศรัทธาที่สูงส่งมากขึ้นต่อครอบครัวทางจิต และการศึกษาทางจิต ที่พิเศษสุดคือการได้เข้าชั้นเรียนโยคะภูเขาไฟที่ทำให้รู้ว่าในเวลาสุดท้ายที่เราต้องเพียรพยายามที่จะรักษาสภาพที่เราสามารถจัดการกับชีวิตเพื่อประโยชน์ต่อทุกคน เป็นขบวนการภายในที่เราต้องพัฒนา เป็นความสงบและความรักที่ลึกล้ำต่อบาบาเพียงผู้เดียว
6 ต.ค. 61 ณ กรมไปรษณีย์กลาง บางรัก ส่วนหนึ่งในการเตรียมสร้างโลกที่สวยงามของเราคือ การรวบรวมข้อคิดของชีวิตที่ประสบความสำเร็จจากมุมต่างๆ ในสังคม เพื่อจัดทำ VDO clip การสัมภาษณ์ประชาชนจากทุกพื้นภูมิและทุกภาคส่วนของสังคม ที่ได้แสดงความคิดเห็นต่อภาพของโลกที่สวยงาม เป็นแรงบันดาลใจให้เห็นว่าความดีนั้นยิ่งใหญ่เท่าความสำเร็จใดๆ (Goodness is Greatness)
เวลา 13 นาฬิกา หลังงานเสวนาฉลอง 135 ปี ของกรมไปรษณีย์ คุณสไบทิพย์ ศิริรัตนธำรงค์ ได้พบคุณกฤชทิพย์ ศิริรัตนธำรงค์ สถาปนิกผู้มีชื่อเสียงในการฟื้นฟูศิลปะวัฒนธรรม ท่านใช้งานอดิเรกของการสะสมแสตมป์ เปิดประตูไปสู่อารยธรรมโบราณของล้านนา ตามที่ให้สัมภาษณ์ไว้ในนิตยสาร Hello ท่านย้ำความสำคัญของจิตวิญญาณในการสร้างโลกที่สวยงามจากภายใน
17 ต.ค. 61 ณ บริษัท Aditya Birla Chemicals(Thailand)
Sr.La เริ่มด้วยการแนะนำ บราห์มา กุมารี (คลิกอ่านต่อ) และจบลงด้วยการแนะนำโครงการเยียวยาหัวใจด้วยความเงียบสงบ เพื่อเน้นความสำคัญของความคิด (Your thought count!) ก่อนร่ำลาจากกัน ได้บันทึกข้อคิดเกี่ยวกับ Vision a better world ของ บุญชู นากเจริญ รอง ผ.จ.ฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคลและธุรการบริษัท Birla (คลิกฟังเสียง) Br.Kailash ได้แบ่งปันประสบการณ์ครั้งแรกที่จัดรายการเช่นนี้... ไม่ใช่เป็นเพียงการบรรยายแต่ เป็นการผสมผสานระหว่าง การนำเสนอ แบบฝึกหัด และการฝึกจิต ซึ่งทำให้รายการนี้น่าสนใจอย่างมาก Sr.Judy อธิบายอย่างสวยงามถึงสาเหตุที่โลกปัจจุบันนั้นสับสนวุ่นวาย และซับซ้อน “การทำอะไรด้วยหัวใจและจิตใจ” จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้นำ ที่มีการพัฒนาเชาว์ปัญญา ด้านสติปัญญา(IQ) และ ด้านอารมณ์(EQ) เป็นหลัก ซึ่งจำเป็นต้องขยายออกไปสู่การพัฒนาด้านจิตวิญญาณ (SQ) เพื่อค้นพบแก่นแท้หลัก และเพิ่มประสิทธิผลในบุคลากร ทุกคนมีส่วนร่วมในแบบฝึกหัดของการเล่าเรื่องด้วยหัวใจและขบวนการสะท้อนความคิด และความเข้าใจสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการเป็นผู้นำ รายการสิ้นสุดลงด้วยสมาธิสร้างสรรค์ ทุกคนประทับใจในบัตรพรที่พวกเขาได้รับด้วยกระแสพลังจาก Sr.La โดยภาพรวมแล้ว นี้เป็นรายการที่ดีเยี่ยม เป็นที่รู้ค่าโดยทีมและ CEO
18 ต.ค. 61 ณ มูลนิธิฯ นนทบุรี แม่ปุ้มได้แบ่งปันประสบการณ์ ทำเวิร์คช็อป โดย Sr.Judy
![]() 19 ต.ค. 61 ณ มูลนิธิฯ นนทบุรี ช่วงเวลา 10.00-12.00น. ผู้ร่วมรายการได้รับความเข้าใจว่า... เป็นเวลาของการยืนหยัดอย่างยืดหยุ่น (Resilience, the need of these times) พี่ภา ฉันไม่เคยคิดเลยว่าจะมีฉากนี้อยู่ในละครของฉัน ซิสเตอร์เธอมีความโดดเด่นอะไร ที่ Sr.La ให้ความสำคัญกับการมาของเธอที่ทำให้เราปรับเวลาการไปมธุบันของเราเพื่อมาเตรียมจัดรายการของเธอ เธอไม่ใช่ ดาดี้ ดิดี้ ที่มาให้พลังแก่ฉัน การมาของเธอถูกต้องแม่นยำตามเวลาอย่างยิ่ง ที่เธอมาเพื่อฝึกฝนพวกเราให้ยืนอยู่ได้ด้วยตนเองในช่วงเวลาสุดท้ายของยุคบรรจบพบกัน ตั้งแต่วันแรกที่ศูนย์นนท์ การไตร่ตรองประเด็นมูร์ลี ประเด็นของการสังเวยสุดท้าย “สวาหะ” การตัดความผูกพันยึดมั่นทั้งหมด แล้วสังเวยสุดท้ายเมื่อเวลาสิ้นสุด เธอให้หลักการการอยู่อย่างยืนหยัดอย่างยืดหยุ่น ศิลปะการอยู่อย่างเป็นสุขและพอใจ ศิลปะการเปลี่ยนแปลง และการอยู่อย่างสอดคล้องกลมกลืน การอบรมเป็น Facilitators ที่เน้นหัวข้อความรักต่อการเรียนรู้ ที่มีสองภาคคือ การออกแบบและการช่วยให้เกิดการเรียนรู้ ทั้งหมดล้วนแล้วแต่ให้วิถีปฏิบัติแก่ฉันที่โต้กับคลื่นของละครด้วยตนเองและไปพร้อมๆกันกับบราห์มินทุกคน ด้วยการเข้าถึงทั้งสี่วิชา ความรู้ โยคะ ดาร์น่า และ งานรับใช้ เป็นความง่ายดายและสนุกสนานด้วยกัน....
20-21 ต.ค. 61 ณ บ้านสินธุ บางนา สมุทรปราการ เป็นเวลาของครอบครัวทางจิตที่จะเรียนรู้ศิลปะในการใช้ชีวิต (Living as Art) พร้อม Workshop ของ Sr.Judy เรามี Sr.Neelu สรุปคุณประโยชน์ที่ได้รับ ตามเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของบราห์มินในยุคแห่งการบรรจบพบกัน เริ่มต้นด้วย การอ้างอิงถึงดวงจันทร์อย่างสวยงาม เมื่อเต็มดวง 16 องศาจะมีรัศมีสีทองที่เต็มสมบูรณ์ และ 1 วันก่อนเป็น 14 องศาจะมีรัศมีสีเงิน นี้เป็นยุคทอง(สัตยุค) และยุคเงิน (เตตรายุค) สำหรับบราห์มินผู้ที่จะเป็นเทพโดยการศึกษาด้านจิตวิญญาณ คือความเพียรพยายามที่เต็มไปด้วยศิลปะของการมีชีวิต 16 ประการ เช่นเทพ มีการแบ่งกลุ่มละ 3-4 คน สะท้อนความคิดเกี่ยวกับศิลปะ หนึ่งใน 16 ประการ โดยมีคำถามนำว่า 1. อะไรคือความหมายของ “ศิลปะ” นั้น 2. ทำไม "ศิลปะ" นั้นจึงมีความสำคัญ 3. พยายามให้คำจำกัดความมากที่สุด 21 คำ 4. แสดงท่าทางเพื่อให้กลุ่มอื่นเดาถึงศิลปะนั้น คำจำกัดความและ การแสดงท่าทางของแต่ละกลุ่ม ทำให้เกิดการหยั่งรู้
เราได้เรียนรู้ลำดับขั้นตอนในขบวนการของการเปลี่ยนแปลงดังนี้
ด้วยเครื่องมือที่มีพลังนี้เราทำงานการไตร่ตรอง กับ กิเลสที่ละเอียดอ่อน 1 ประการและคิดหาวิธีที่จะเปลี่ยนแปลงให้เป็นบวก แล้วเสนอเป็น 3 snap shots ของกระบวนการก่อนและหลัง นี่เป็นเช่น Art Gallery โดยมีหลักการที่ว่า รูปภาพช่วยให้เราจดจำได้ดียิ่งขึ้น สุดท้าย Sr.Judy ได้ใช้เวลาทำกิจกรรมพิเศษสำหรับ... ศิลปะของความสอดคล้องกลมกลืน (คลิกอ่านต่อ) workshop ทางจิต เป็นเหมือนกระจกสำหรับตนเองให้เข้ามาในความสอดคล้องกลมกลืนกับผู้อื่น "ไม่มีใครอื่นรับผิดชอบต่อความรู้สึกของเราว่าเป็นอย่างไร -ฉันเป็นผู้สร้างของทุกสิ่งที่ฉันรู้สึก" (คลิกอ่านต่อ) จากกิจกรรมนี้เราต้องเกิดการหยั่งรู้บทเรียนของเราเอง – กระแสของดวงวิญญาณเป็นเช่นโน๊ตเพลงและสำนึกเป็นดวงวิญญาณ เป็นเช่นการยึดอยู่กับโน้ตของเรา มีคำพูดที่ว่า “ความพ่ายแพ้ของความหยิ่งทะนงคือการสร้างความสอดคล้องกลมกลืน” เราเรียนรู้จากสิ่งนี้ว่า “คุณค่าของความพิเศษสุดที่ไม่เหมือนใครของเรานั้นจะปรากฏให้เห็นชัดในการอยู่ด้วยกัน ไม่ว่าเราจะมีความพิเศษสุดที่ไม่เหมือนใครมากเพียงใด เมื่อเราอยู่ด้วยกันที่สิ่งนี้ปรากฏให้เห็นชัดเจน...” เราจบกิจกรรมด้วยรูปทั้ง 5 (Five forms) ของแต่ละดวงวิญญาณ เช่นที่บาบาได้อธิบายไว้ในมูร์ลี ให้แก่เราเพื่อฝึกฝนด้วยกันอย่างสวยงาม ทั้งหมดนี้เป็น workshop ที่ให้พลัง ที่มีการสื่อสารด้วยคำพูดและเสียงที่ดีและชัดเจน การนำกิจกรรมอย่างมีวิธีการและ workshop ที่สมดุลของเวลาในความเงียบสงบ การเคลื่อนไหวของร่างกาย การแสดงละคร การไตร่ตรอง การทำงานเป็นทีม การสำรวจตนส่วนบุคคล พร้อมกับบราห์มา โบเจ้นที่บริหารจัดการได้ดี การจัดภาพและเสียง และที่สำคัญที่สุดแต่ละดวงวิญญาณนำเอาการหยั่งรู้กลับไป สำหรับความก้าวหน้าของพวกเขาเองและสำหรับการประกันในการทำงานร่วมกับผู้อื่นอย่างสอดคล้องกลมกลืน ขอบคุณ บาบา ซิสเตอร์ หล้า และ ซิสเตอร์ดา และครอบครัวนนทบุรีทั้งหมดสำหรับเวลาที่ให้พลังแก่ครอบครัวร่วมกัน และ Sister Judy สำหรับการให้เวลาในการนำกิจกรรมที่มีการพูดและน้ำเสียงที่ชัดเจนและง่ายดาย เราตั้งตารอคอยสำหรับครั้งต่อๆไป
ประทับใจวิธีการเปรียบเทียบให้เห็นชัดเจนในแต่ละหัวข้อ กับ workshop เมื่อได้ลงมือ "คิด" และพยายามอธิบายให้คนอื่นเข้าใจตัวเราเองก็เข้าใจไปด้วย ทำให้ได้ประสบการณ์ในแต่ละหัวข้อที่แม้เราฟังจากมูร์ลีมาแทบทุกวัน แต่ถ้าเราไม่นำความรู้ไปใช้ให้เกิดประสบการณ์ ก็จะไม่ฝังในสันสการ์ หยิบเอามาใช้ไม่ได้เมื่อต้องการ ขอบคุณบาบาที่ให้มีโอกาสได้เข้าร่วม พี่อุดม Sr.Judy มีสายตาดูสงบน้ำเสียงมีพลัง กายเคลื่อนไหวให้คุณประโยชน์อยู่เสมอ และการสื่อสารดูธรรมชาติมาก วิญญาณครูในการให้ความรู้ของสัจจะ มีพร้อมเสมอ ในทุกเวลาอย่างสร้างสรรค์ เหตุอะไรที่ทำให้เราจดจำสิ่งที่จูดี้สื่อ ย้อนเวลาในมธุบันไป 2 ปีตอนรายการ Peace of Mind จูดี้มาทักมาชมตอนที่กำลังลองชุดบราห์มินอยู่ ทำให้จดจำภาพและเสียงนั้น Oh! very nice... ฉันจดจำได้ถึงวันนี้..สายตาน้ำเสียงที่ดูธรรมชาติและทรงพลังแสดงออกที่สร้างสรรค์ ยังมาปรากฏ เกมส์ กิจกรรมในบ้านสินธุ สร้างประสบการณ์มากมาย สนุกสนานสานสัมพันธ์พร้อมไปกับเรียนรู้ในหมู่พี่น้องเป็นอย่างมาก บุคลิกที่ดูธรรมชาติ รักธรรมชาติและมีมิตรภาพ ก่อเกิดการเรียนรู้ และสร้างความทรงจำที่ดีอย่างง่ายดายมาก..ฉันจดจำคำว่า ฝึก 5 รูป 3 ครั้ง (Three Times Five Forms) ในคลาสมาใช้ฝึกฝนอยู่ทุกวันนี้ ... Sr.Prajwa... (คลิกอ่านต่อ) 21-22 ต.ค. 61 ณ พัทยา ขอใช้ภาพเป็นข่าวในการแบ่งปัน บรรยากาศริมทะเลพร้อมครอบครัวเล็กๆ
โอมชานติ |