การเยียวยาหัวใจมนุษย์เกิดขึ้นจากพลังของความสงบเงียบ และคุณภาพของความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยความเมตตา ความรักและสัจจะ เมื่อหัวใจของเราปวดร้าว และบอบช้ำ เราพร้อมที่จะให้และรับความทุกข์ และไม่สามารถทนต่อปฏิกิริยาตอบโต้ใดๆ หัวใจที่อ่อนแอจึงต้องการการโอบอุ้มด้วยความรักเท่านั้น

การเยียวยาผู้อื่นได้นั้น ขึ้นอยู่กับการเยียวยาบาดแผลตนเองก่อนด้วยความคิดของตนเอง

พลังความสงบเงียบเยียวยาได้อย่างไร? ความสงบเงียบ เปรียบเหมือนกระจกที่ใสกระจ่าง ไม่ตำหนิ หรือวิพากษ์วิจารณ์ผู้ใด แต่ช่วยให้ฉันเห็นสิ่งต่างๆอย่างที่เป็นอยู่ พร้อมกับการวินิจฉัยโรคของจิตใจที่มองเห็นโลกในแง่ร้าย

พลังความสงบเงียบจะปลดปล่อยฉันออกจากทุกรูปแบบของความคิดที่ผิดๆ และช่วยฟื้นฟูความสงบดั้งเดิมของฉันขึ้นมา ความสงบที่เป็นธรรมชาติที่แท้จริง สูงส่งของฉันจะไหลรินกลับคืนชีวิตอย่างกลมกลืน เพื่อเยียวยาภาวะที่ขาดสมดุล ความสงบเงียบนั้นอิ่มเต็มและเติมพลังภายในให้ตื่นตัวอย่างไม่ขาดตอน

ในการสร้างความสงบเงียบนั้น ฉันหันห่างจากทุกสิ่งภายนอก (Disconnect) แล้วก้าวเข้าสู่ภายใน เชื่อมโยงกับตัวตนที่คงอยู่ตลอดไป ดวงวิญญาณที่สงบ จุดแห่งแสง ชีวิตอมตะ อยู่ในห้วงแสงที่สงบสุขอย่างสมบูรณ์ เปรียบเหมือนอยู่ในครรภ์ที่เป็นนิรันดร์ เป็นการเริ่มขึ้นใหม่ และการเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ ด้วยการถักทอรูปแบบของพลังงานที่บริสุทธิ์

ในความสงบเงียบ เราตระหนักรู้ว่า สิ่งนั้นไม่เพียงแค่กลับคืนสู่ราก แต่เป็นการกลับคืนสู่เมล็ด สู่การเริ่มต้น เป็นการกลับคืนสู่ผู้เป็นแหล่ง สิ่งสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุด พ่อสูงสุด ผู้เป็นสัจจะ

...การกลับคืนสู่ตัวตนที่แท้จริง

...การกลับคืนสู่ความสัมพันธ์ที่ถูกต้อง

การเยียวยารักษาที่แท้จริงเริ่มต้นจากภายในด้วยความสงบ พลังแห่งความสงบคือธรรมชาติดั้งเดิม ให้กำเนิดความรักที่บริสุทธิ์ ไม่เห็นแก่ตัว สามารถเยียวยาแม้บาดแผลที่ร้ายแรงที่สุด

หากความรักที่มีต่อผู้อื่นนั้นไม่มีความเห็นแก่ตัว เราจะมีพลัง ซึ่งจำเป็นต้องรับจากแหล่งเบื้องบน เพื่อทำให้ความรัก ไหลรินออกไปทั่วทุกสารทิศ ดั่งนํ้าตกที่ไหลผ่านตัวเราออกไป เช่นนั้นแล้วหากเราสามารถทำให้ความรักส่งกระจายไปถึงผู้อื่นได้ เราจะเกิดประสบการณ์ที่สวยงาม

ความสงบเงียบทางจิต เป็นภาษาของพระเจ้า เมื่อดวงวิญญาณได้เรียนรู้ที่จะใช้ภาษาของความสงบเงียบ ย่อมข้ามพ้นสิ่งกีดขวางทั้งหลาย เป็นความสงบเงียบที่ตื่นตัว ในช่วงของความปั่นป่วน และปรวนแปร ความสงบเงียบก่อให้เกิดปัญญา เมื่อเชื่อมโยงกับพระเจ้า จะสร้างความกระจ่างในการกระทำที่เหมาะสม ความสงบหลั่งไหลออกจากตัวเรา เพื่อปกป้อง นำทาง ทำให้สถานการณ์และผู้คนที่ขัดแย้ง เกิดการประนีประนอมและให้ความเคารพต่อกัน


ความสงบเงียบทางจิตปกป้องเราได้อย่างไร?


กล่าวกันว่า ถ้าจิตสำนึกของเรา เชื่อมโยงกับพระเจ้าได้จริง เราจะไม่เกิดความกลัวหรือความสงสัย รัศมี (Aura) ที่ส่งพลังงานล้อมรอบตัว จะกลายเป็นโล่ห์ที่สกัดกั้นพลังลบ หากใครประสงค์ร้าย แม้จะไม่ได้สังเกตเห็น แต่จะไม่ส่งผลต่อผู้ที่อยู่นอกรัศมี(เรดาร์) ที่เป็นลบนั้น บ่อยครั้งเราเกิดความหวาดกลัว และวิตกจริต และไม่อาจส่งกระแสจิตที่เป็นบวกได้เพียงพอ เช่นนั้นแล้วเราจึงควรอยู่เหนือความกลัว ความโกรธ ความแค้น และฝึกฝนจิตสำนึกในการเชื่อมโยงกับสิ่งสูงสุด เพื่อสร้างความมหัศจรรย์ ให้ผ่านพ้นจากภยันตราย

เราควรรู้ค่าพลังส่วนตัวที่เกิดมาจากความสงบเงียบ เป็นการเข้าถึงศิลปะของสมาธิที่เพิ่มพลังความสงบและความรักทางจิต ในความสงบเงียบ เราใช้พลังงานของจิตใจเชื่อมกับพระเจ้าอย่างเต็มที่ กระทั่งกลายเป็นเครื่องมือหรือเป็นประภาคาร ของความสงบ-ความรัก และแสงของพระเจ้า การเพิ่มพลังแก่ตนเอง จะสำเร็จได้มิใช่ด้วยการคิดมาก แต่ด้วยสำนึกรู้ถึงตัวตนทางจิตดั้งเดิมเพื่อเชื่อมกับพระเจ้า ผู้เป็นแหล่งแห่งทุกสิ่ง

การมีความคิดเดียว การเชื่อมโยงในสำนึกรู้ คือการเพิ่มพลังแก่ตนเองโดยไม่ถูกดึงรั้งจากความหลงทะนง จนกระทั่งการครอบครองเป็นเจ้าของค่อยๆ จางไป แม้เราต้องเพียรพยายามที่จะทำให้เกิดขึ้นในแนวทางที่ถูกต้อง การเชื่อมโยงที่แท้จริงกับสิ่งสูงสุด ปรากฏขึ้นได้จากความสงบ ความเคารพในการกระทำ และความใจกว้างที่ไม่เห็นแก่ตัวต่อทุกสิ่ง

ความคิดที่สงบ
รักษาความซื่อตรงในการเชื่อมโยงทางจิต -ฉันเป็นเพียงผู้ดูแลผลประโยชน์ ตระหนักรู้ว่าไม่มีอะไรเป็นของฉัน ไม่มีการพูดมากเกินไปเกี่ยวกับสิ่งที่ได้มา ฉันเห็นได้จากสิ่งที่ฉันเป็น คือการแสดงออกของพลังความสงบเงียบอย่างแท้จริง


4 พ.ย. 2560
ฉลองเทศกาลดิวาลีกับครอบครัวสุขุมวิท ที่บ้านของ Br.Kailash และ Sr.Shanta ทุกคนสวมงมกุฏของความเป็นราชาแห่งแสง และทำกิจกรรม Rangoli ร่วมกัน โดยการตกแต่งประดับประดาดอกไม้ ข้าว และทรายที่มีสีสันต่างๆ เริ่มจากทางเข้าบ้านเพื่อให้โชคลาภเข้ามาสู่ชีวิต

16-20 พ.ย.2560 เชียงใหม่-เชียงราย
16 พ.ย. 2560
บินจากกรุงเทพฯ ถึงเชียงใหม่ แวะรับประทานอาหารเย็นพร้อมกันที่บ้านแม่เจ้า เลยไปชมสวนดอกไม้ที่กาแล

17 พ.ย.2560
กองวิเทศสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เวลา 9.00 น. ได้ต้อนรับคุณสไบทิพย์ ศิริรัตน์ธำรงศ์ ประธานกรรมการมูลนิธิบราห์มา กุมารี ราชาโยคะ ณ ห้องรับรองสำนักงานมหาวิทยาลัย เพื่อเข้าพบ รศ.โรม จิรานุกรม รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และหัวหน้ากองวิเทศน์สัมพันธ์ เพื่อหารือเกี่ยวกับการจัดโครงการด้านสิ่งแวดล้อมร่วมกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ท่านยินดีให้การสนับสนุนโครงการดังกล่าว และได้ส่งต่อให้คุยรายละเอียดกับอาจารย์คณะมนุษยศาสตร์ จบการสนทนาพี่หล้าผูกรักกี้ และมอบพร โทลี พร้อมทั้งเอกสารจากทางมูลนิธิฯ

11.00 น. พี่หล้า(คุณสไบทิพย์) ได้รับเค็กวันเกิด จากพี่แดงและพี่ธรที่ฝึกทำขนมเค้กเป็นครั้งแรก จึงนำไปตัดและแต่งหน้าเค้กเป็นรูปตัว S และให้น้องๆบอกความหมายทางจิตของตัว S จากหัวใจ...Shiva, Soul, Supreme Soul, Sabaithip ฯ ร่วมกับแม่เจ้า ผู้เป็นมารดาที่ให้กำเนิดทางร่างมาร่วม 65 ปี

12.30 น. ประชุมกับคุณพัชรินทร์ อาริพันธ์ และ คุณนฤประชา ผู้บริหารสมาคม YMCA เชียงใหม่ เพื่อนำเสนอหลักการของโครงการสิ่งแวดล้อมและรูปแบบที่เราสามารถจัดทำได้ร่วมกันในเดือนธ.ค. ก่อนกลับพี่หล้าผูกรักกี้ให้กับทั้งสองท่าน และพบกับคุณราชันย์ เลขานุการ YMCA เชียงใหม่

13.00 น. เดินทางกลับมามหาวิทยาลัยเชียงใหม่เพื่อพบกลุ่มอาจารย์ภาควิชาปรัชญา คณะมนุษยศาสตร์ ประกอบด้วย ผศ.รศ.สยาม ราชวัตร, รศ.ดร.บุณย์ นิลเกษ และ ผศ.ดร.สมหวัง แก้วสุฟอง ซึ่งมีการสรุปผลไว้ในจดหมายถึงท่านรองอธิการบดี ถึงรูปแบบการจัดรายการระบบองค์กรในอนาคต เมื่อได้รับอนุมัติจากผู้บริหารระดับสูง อาทิเช่น วันปฐมนิเทศ ส่วนการจัดชั่วโมงบรรยายพิเศษในคาบเรียนนั้นขึ้นอยู่กับทางคณะฯ สุดท้ายพี่หล้าผูกรักกี้ให้กับอาจารย์ทั้งสามท่าน

17.00 น. พี่หล้าได้พา ‘แม่เจ้า’ ออกมาเปลี่ยนบรรยากาศที่อุทยานหลวงราชพฤกษ์ เป็นโอกาสระลึกถึงพระคุณของ ‘มารดา’ ผู้หล่อเลี้ยงครอบครัวมาท่ามกลางสวนดอกไม้ในบ้านที่สดใสสวยงามในวัยเด็ก เราได้เห็นความสดชื่นกระปรี้กระเปร่าของมารดาวัย 90 ส่วน ‘แม่ปุ๋ย’ ผู้มีโอกาสเดินทางมาชมดอกไม้นานาชนิดสีสันสวยงามของเมืองหนาวเป็นครั้งแรก รู้สึกว่า "บาบาพาชมสวนดอกไม้หลายที่ ทำให้มีจินตนาการถึงสวนดอกไม้ในยุคทอง"

18 พ.ย. 2560
ทีมงานทั้งสี่ออกเดินทางจากเชียงใหม่ไปเชียงรายแต่เช้า พี่ชัยบินมาสมทบ เพื่อเข้าพักที่บ้านพี่แก้ว จ.พะเยา เตรียมงานสำหรับรายการในวันรุ่งขึ้น แต่เย็นนั้นเราไปนั่งทานอาหารบริเวณกว๊านพะเยา ซึ่งเป็นทะเลสาบธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดของเมืองไทย ได้เดินออกกำลังกายกันเล็กน้อยก่อนกลับที่พัก

19 พ.ย.2560
9.00-16.00 น. จัดรายการ Healing Heart & Soul ที่กรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่กรมฯเข้าร่วมรายการประมาณ 15 คน เริ่มด้วยกิจกรรมทำนายคุณธรรมก่อนบรรยาย และแนะนำให้รู้จักดวงวิญญาณและดวงวิญญาณสูงสุด ศัลยแพทย์ทางจิต พร้อมทั้งเชิญชวนเข้าสู่การล้างพิษในจิตใจ-สติปัญญา-หัวใจ เพื่อนำสัญลักษณ์ที่สวยงามในหัวใจมาสร้างยุคทองร่วมกัน เจ้าหน้าที่กรมฯ ได้แบ่งปันประสบการณ์ที่มีค่าครั้งนี้
การล้างพิษ คือเวลาของการทำความสะอาด นุ่มนวลขึ้น และยืดขยายกำลัง (Detox…time to cleanse, soften and stretch)
สะท้อนความคิด: พลังความเงียบสงบเปรียบเหมือนไฟ ที่เผาไหม้ขยะสิ่งปฏิกูลทั้งหมด
Reflection: Silence power is like a fire; it burns all the rubbish.
ขณะนี้เรารู้ว่าความเงียบสงบสามารถช่วยเราต่อกรในสนามของรูปแบบที่ซ้ำรอยของความคิดที่เสียหาย ความเป็นลบทำให้สูญเสียพลังงาน แต่ความเงียบสงบนั้นสามารถทำให้เกิดความสมดุลภายใน และช่วยเราให้มีความสอดคล้องกลมกลืนกับผู้อื่น ขอเพียงให้หัวใจปล่อยวางจากความรู้สึกที่เลวร้ายเหล่านั้น เวลานี้เรามาดูวิธีการบรรลุผลผ่านการล้างจิต ที่เรียกว่า “การถืออด” และฝึกฝนในการให้กำลังใจ ให้อภัย และมีทัศนคติของการมีความเคารพมากขึ้น
สิ่งใดที่บ่งบอกอาการที่หัวใจจำเป็นต้องล้างพิษ? โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีสิ่งมากระตุ้นบาดแผลในอดีต สิ่งเร้าที่เป็นความรู้สึกขมขื่นที่ปะทุขึ้นมาโดยไม่มีการเตือน ทำให้หายใจติดขัด หรือตึงเครียด หัวใจด้านชา ไม่ใช่เป็นเหตุจากร่างกาย แต่เป็นความกลัว ความผิดหวัง หรือความกดดันในการที่เราเกี่ยวข้องกับสังคม นี่เป็นการขาดความมั่นใจในตนเอง หรือมีประสบการณ์ที่เป็นลบในอดีต ถ้าได้ตระหนักถึงบางอย่างของอาการเหล่านี้ เราควรทำให้ดีขึ้นโดยการเริ่มต้นถืออดของการทำความสะอาดหัวใจโดยตรง (คลิกอ่านต่อ)

17.00 น. ชมสถานปฏิบัติธรรมชื่อดังของ จ.เชียงราย คือ ไร่เชิญตะวัน ของท่าน ว.วชิรเมธี มีการตกแต่งสถานธรรมสไตล์เซน หรือวัดญี่ปุ่น ซึ่งเรียบง่าย สะอาดสะอ้าน พร้อมการแสดงศิลปกรรมสมัยใหม่ที่สะท้อนสาระธรรมของพระรุ่นใหม่ นักพัฒนา เรามีโอกาสได้พูดคุยกับท่านเลขาฯ และเรียนเชิญท่านเข้าร่วมโครงการสิ่งแวดล้อม ท่านจึงชี้ให้เราดูแนวคิดของโครงการในวัด เกี่ยวกับ “ร้าน 0 บาท” ที่ให้ประชาชนนำขยะมาแลกเป็นสินค้ากลับไปใช้ได้

19 และ 23 พ.ย. 2560
Brother Kantilal & Sr. Bharti จาก Houston, Texas USA ได้เดินทางมาเยี่ยมเยียนศูนย์และพบปะครอบครัวทางจิต แบ่งปันการใช้ชีวิตที่บริสุทธิ์เช่นดอกบัวตามวิถีของราชาโยคะ ทั้งสองประทับใจและมีความรักต่อประเทศไทยมาก จึงขอร่วมใส่ชุดไทยถ่ายรูปกับชุมนุมทางจิตในวันร่ำลา

20 -27 พ.ย. 2560
รายการ "ประสบการณ์การฝึกจิต เพื่อความสงบของจิตใจ" ครั้งที่ 21 ที่มธุบัน (Peace of Mind Meditation Experience 2017) ในช่วงวันที่ 20 -27 พฤศจิกายน 2560 นี้ พี่ภาและพี่ดาได้นำแขก 6 ท่านจากประเทศไทย ไปรวมกับแขก 226 คน จาก 44 ประเทศ "พี่ภารู้สึกซาบซึ้งอย่างมากที่สุดที่ได้ทำงานรับใช้ที่เป็นสิริมงคลยิ่ง เพราะได้มีโอกาสไปรู้เห็นเป็นพยานว่า งานรับใช้ของบาบาที่ให้ประโยชน์แก่ผู้คนทั่วโลกเป็นอย่างไร จึงทำให้บาบาได้รับชื่อว่าผู้ให้คุณประโยชน์โลก"

ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

ดาดี้ แจงกี ผู้นำวัย 102 ปี
พบปะแขกในหอประชุม

แขก 6 คนจากประเทศไทย
รับพรจากดาดี้ แจงกี

พบ ดิดี้ ดร.เนอร์มาละ

คุณตุ่นและคุณนก
รู้สึกถึงการมาถึงบ้าน

ในห้อง Baba

พบกันที่โต๊ะอาหาร

เดินสมาธิเช้า

อนุสรณ์ของดาดี้ ปรากาชมานี
(อดีตผู้นำ)

อนุสรณ์ของ
บราห์มา บาบา (ผู้ก่อตั้ง)
ที่ Tower of Peace

บน Baba’s Rock
ตอนพระอาทิตย์ตก

ที่ห้องครัว ชานติวัน

ประสบการณ์ของ
อาณาเขตที่ละเอียดอ่อน
(subtle region)
ที่บ้านดาดี้ กูลซ่าร ที่ Manesa

หน้าโดมห้องบาบา ที่ ORC ใกล้เดลลี

เนื้อหาของรายการ มีเป้าหมายที่จะ โอบรับผู้เรียนรู้ที่มาจากทุกพื้นภูมิให้เข้ามามีประสบการณ์เดียวกัน คือความสงบของจิตใจ ภายใน 7 วัน นับเป็นสิ่งที่ท้าทายมาก (คลิกอ่านต่อ)

ดาดี้ แจงกี ให้บทเรียนแก่แขก รายการ Peace of mind ทั้งหมด
ดาดี้มักทักทายทุกคนด้วย โอม ชานติ 3 ครั้ง เพราะว่าฉันเป็นดวงวิญญาณ ลูกของดวงวิญญาณสูงสุด และสิ่งที่ฉันจะทำคือความเข้าใจในสิ่งที่ได้รับมา ฉันแน่ใจว่าแขกรายการ Peace of mind ได้รับความเข้าใจอย่างมากเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ ฉันอยู่ข้างล่างภูเขาและได้ยินว่ากำลังมีรายการ Peace of Mind เกิดขึ้น ฉันรู้สึกถึงแรงดึงว่าฉันต้องการขึ้นมา พวกท่านคงได้ยินมามากแล้วในเรื่องที่ฉันกำลังจะพูดถึง ความสงบ ความบริสุทธิ์ ความรัก ความสุข พลังมาจากไหน สิ่งใดได้รับพลัง จิตใจเคยถูกดึงรั้ง ดึงดูด ด้วยทุกประเภทของสถานที่ เวลานี้จิตใจกลับมาสงบ และสติปัญญามั่นคงไม่ไหวหวั่นสั่นคลอน ไม่ร้ายกาจซุกซนไม่ถูกดึงดูดไปที่ใด ภายนอก บางครั้งสถานการณ์มาและสติปัญญาขึ้นขึ้นลงลง บางครั้งฉากต่างๆเข้ามาและดึงดูดจิตใจและมีความอยากความปรารถนาบางอย่าง เมื่อใดสติปัญญามั่นคง และแล้วสันสการ์ หวังว่าพวกท่านคงได้ยินคำนี้แล้ว หรือบุคลิกภาพได้รับการทำให้สะอาดด้วยประสบการณ์ของความบริสุทธิ์และความสงบ ... ฉันมาเป็นเวลาสั้นๆมาพบพวกท่านแล้วต้องกลับไป ที่เชิงเขาเย็นนี้ อีกที จิตใจที่เคยอ่อนแอและก็เป็นจิตใจที่น่าสงสาร เวลานี้จิตใจกลับมาแข็งแรง ก่อนหน้านี้จิตใจเคยถูกดึงรั้งไปที่นี่ที่นั่นเวลานี้จิตใจไม่ถูกดึงรั้ง ...ผู้ที่รู้สึกว่าจิตใจของพวกเขามีความสงบและสติปัญญานิ่งและมั่นคงให้ยกมือขึ้น (คลิกอ่านต่อ)

25 พ.ย. 2560
กิจกรรมครอบครัว 7 กลุ่ม เน้นความสงบภายในที่แท้จริง เริ่มต้นในเดือนกันยายน 4 กลุ่มแรก และจบลงในเดือนพฤศจิกายนอีก 3 กลุ่ม ซึ่งเป็นรากฐานในการรณรงค์โครงการสิ่งแวดล้อมทั้งหมดในหัวข้อ 'เยียวยาโลกด้วยความเงียบสงบ'

เดือนกันยายน
กลุ่ม 1 ความสงบภายใน คือ เป้าหมายที่แท้จริง
กลุ่ม 2 ความสงบภายใน คือ การสร้างสรรค์อย่างมีสติ
กลุ่ม 3 ความสงบภายใน คือ สมาธิที่ยั่งยืน
กลุ่ม 4 ความสงบภายใน คือ การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ

เดือนพฤศจิกายน
กลุ่ม 5 ความสงบภายใน คือ การตัดสินที่ถูกต้อง
กลุ่ม 6 ความสงบภายใน คือ พลังส่วนตัว
กลุ่ม 7 ความสงบภายใน คือ ความเยือกเย็นที่ไม่สั่นคลอน

กลุ่มที่ 5 ความสงบภายใน คือ การตัดสินที่ถูกต้อง (Accurate Decisions)

เมื่อสิ่งมีชีวิตคือดวงวิญญาณ ประกอบด้วยจิตใจ สติปัญญา และรอยกรรมที่ประทับทุกการกระทำไว้ ในทุกเหตุการณ์ ของวงจรเวลา จนกระทั่งส่งผลกระทบต่อโลกร่วมกันทุกวันนี้ จึงมีเสียงเรียกของเวลา ให้เรามุ่งหน้าไปสู่การใช้สติปัญญาที่บริสุทธิ์-สูงส่ง เพื่อทำหน้าที่แยกแยะ ตัดสินอย่างถูกต้อง และแก้ปัญหาได้ถูกจุด ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินการณ์ ในกระบวนการเปลี่ยนแปลงตนเองเพื่อโลก ตามจังหวะเวลาที่ผู้มีปัญญาสูงสุด (The Wise One) ได้นำความรู้ของสัจจะที่สมบูรณ์มามอบเป็นของขวัญให้แก่ผู้ที่เคยเป็นเครื่องมือในการกู้โลก ด้วยภูมิปัญญาอันลึกล้ำ และมีความกล้าหาญที่จะรับผิดชอบต่อการเปลี่ยนแปลง อันยิ่งใหญ่จากภายใน

การตัดสินใจรวมถึงการไม่มีความกลัวที่จะรับผิดชอบต่อสิ่งที่ได้ตัดสินใจไป จึงกล่าวได้ว่า ‘ผู้ที่ลังเลจะสูญเสีย’ เมื่อเรามีความสงสัย เราขาดความกล้าหาญที่จะตัดสินใจและกระทำ นั่นบ่งชี้ถึงการขาดการหยั่งรู้ พลังใจ และโอกาสที่จะพบความสำเร็จ การต่อต้านที่แฝงอยู่ในการเปลี่ยนแปลง ทำให้เรามีแนวโน้มที่จะพร่ำบ่นมากกว่าที่จะพัฒนาตนเอง การเพิกเฉยต่อการเปลี่ยนแปลง สามารถบ่งชี้ได้ด้วยว่าเป็นการขาดความเคารพตนเอง

ความเคารพตนเอง คือ หนึ่งในสิ่งดลใจที่ลึกล้ำที่สุด สำหรับการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพ

การตัดสินใจจะมีผลต่อชีวิตเราเอง หรือมีผลต่อชีวิตผู้อื่นที่เกี่ยวข้อง ผู้ตัดสินใจจึงต้องมีความระมัดระวัง รับผิดชอบและชาญฉลาด โดยคำนึงถึงความต้องการ เป้าหมาย แรงบันดาลใจและบุคลิกภาพของผู้อื่น การตัดสินใจนั้นมีผลต่อบุคคลอื่น งานที่ต้องทำร่วมกัน หรือความสัมพันธ์ที่ต้องมีข้อตกลงร่วมกัน การตัดสินใจแบบเผด็จการแสดงถึงการขาดการแยกแยะและความเคารพ เมื่อเวลาล่วงเลยไปการตัดสินเช่นนั้นจะนำไปสู่วิกฤติ ที่มีผลต่อสภาพแวดล้อมเศรษฐกิจและสังคม ผู้อื่นที่เข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการตัดสินใจ รู้สึกได้ถึงความเห็นแก่ตัว ผลลัพธ์ที่ตามมาคือ ไม่มีความรักในงานหรือในความสัมพันธ์ แม้ว่าจะมีการคล้อยตาม แต่ลึกๆ แล้วมีการปฏิเสธที่จะร่วมมือเพราะความไม่จริงใจ

การทำงานโดยปราศจากความร่วมมือจากหัวใจ (ในผลของงานหรือความสัมพันธ์) จะไม่ได้รับแรงขับเคลื่อนให้เกิดความสำเร็จ

น้องเหมียวได้สรุปเนื้อหาที่กลุ่มนำเสนอ...
การปรับคลื่นของความนิ่งสงบในแต่ละวันต้องอาศัยการแยกแยะไม่ใช่การตัดสิน เพราะการตัดสินอาจเกิดจากการหลงตัวเองและถูกครอบงำโดยอัตโนมัติ การแยกแยะต้องอยู่บนฐานของประสบการณ์ที่ผ่านมาในชีวิต ได้เรียนรู้แล้วว่าสิ่งไหนให้คุณประโยชน์หรือให้โทษ ให้ความสุขหรือความทุกข์ ฉะนั้นจำเป็นต้องมีความรู้ที่ถูกต้องเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับตนเองและผู้อื่น ด้วยความปราณี ความปรารถนาดีและมีความรู้สึกที่บริสุทธิ์.

เราได้ใช้ภาพยนตร์การ์ตูนเป็นสื่อเรื่อง Lost and Found (ได้พบสิ่งที่สูญหายไป) คือเรื่องราวที่เราค้นพบตนเองอีกครั้ง เมื่อเหตุการณ์ได้ผ่านพ้นไปทำให้ชีวิตได้พิจารณาถึงบทเรียนที่ผ่านมา “ฉันเป็นใคร เป็นของใคร เคยอยู่ ณ ที่ใด และเล่นบทบาทอะไรบนเวทีโลกใบนี้” แต่ละฉากตอนของละครชีวิตที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา จนฉากสุดท้ายที่ทุกคนต้องพบชะตากรรมเดียวกันอันเกิดจากความแตกแยกและความล่มสลายของอารยธรรมจากความไม่รู้ เราจึงจำเป็นต้องมีความรู้ที่เป็นสัจจะอย่างสมบูรณ์ในการสร้างความเป็นหนึ่งเดียวกันของมนุษยชาติจากการหันเข้ามาอยู่ในทิศทางเดียวกันอีกครั้ง.

หยุดสักครู่ ในความนิ่งเงียบ ลองถามตนเองว่าในโลกใบนี้เราอาจจะรู้อะไรมามากมายแต่กลับไม่สามารถนำไปสู่การรู้จักตัวเองที่แท้จริงได้ ส่วนสิ่งที่เราได้รู้มานั้นสามารถทำให้ตนเองมีความสุข มีความสงบ รู้จักการให้อภัย แม้กระทั่งควบคุมความโกรธได้หรือไม่? ไม่เช่นนั้นเราต้องตอบตนเองว่า แล้วฉันรู้อะไรมาหรือ? ความรู้ที่แท้จริง ต้องสามารถทำให้เรากลับมามีความสุข โดยเราต้องรู้จักตนเองแล้วเข้าใจผู้อื่น เมื่อเรามีจิตใจที่เงียบสงบ และใช้ปัญญา บนฐานของความรู้ที่เป็นสัจจะ ย่อมสามารถที่จะตื่นรู้ และนำไปสู่การแก้ปัญหาได้อย่างถูกต้องแม่นยำ และนำมาซึ่งคุณประโยชน์อันยิ่งใหญ่ต่อมวลมนุษย์.


* สร้างความสัมพันธ์กับบาบา ในฐานะผู้ทรงปัญญา (The Wise One)



กลุ่มที่ 6 ความสงบภายในคือพลังส่วนตัว (Personal Power)

แม่ปุ้มได้สรุปเนื้อหาที่กลุ่มนำเสนอ...
ทุกวันนี้มนุษย์เราล้วนต้องการความสงบกันทั้งนั้น แต่เราไม่สามารถหลีกหนีคลื่นลมที่พัดผ่านเข้ามาในชีวิต ที่ทำให้เรานั้นต้องสูญเสียพลัง.. ..แล้วเราเลือกเติมพลังให้กับตนเองอย่างไรกันบ้าง? บางครั้งเลือกเติมพลังด้วยความสงบ ความรักและความสุข ให้แต่ละท่านคิดถึงประสบการณ์เหล่านั้น ว่าทำให้เรารู้สึกอย่างไร....
คำตอบ..คือ เรารู้สึกเบาสบาย อิ่มเต็มอยู่ภายใน และสัมผัสถึงรอยยิ้มที่ปรากฎผ่านเข้ามาในหัวใจของเราอีกครั้ง...
แท้จริงแล้วคุณสมบัติเหล่านี้ เป็นธรรมชาติดั้งเดิมที่มนุษย์นั้นโหยหา ในการที่จะเพิ่มศักยภาพให้กับตนเองที่จะทำให้เรานั้นสามารถอยู่อย่างมั่นคงได้ ในทุกสภาพการณ์ วันนี้เราเป็นนักเดินทางเพื่อค้นหาขุมทรัพย์ที่เป็นแหล่งแห่งพลังที่เป็นเหมือนประภาคารของความสงบความรัก และแสงสว่างที่ดึงเราให้เข้าหาฝั่งได้อย่างปลอดภัย แม้ขณะที่อยู่ท่ามกลางพายุเรามาเริ่มต้นสำรวจเส้นทางและวางแผนการเดินทาง...

การใช้พลังส่วนตัวได้..เราจำเป็นต้องเชื่อมตัวตนทางจิตวิญญาณกับแหล่งดั้งเดิมกับพระเจ้าผู้เป็นแหล่งแห่งทุกสิ่ง ท่านนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังและคุณสมบัติที่สมบูรณ์พร้อมของความบริสุทธิ์ ความสงบ ความรัก ความสุข และความรู้ที่เป็นสัจจะ ที่ทำให้เรานั้นมีพละกำลังขึ้นมา...เมื่อเราตระหนักรู้ว่า เราเป็นแสง เป็นพลังชีวิตที่บริสุทธิ์ เป็นลูกของมหาสมุทรแห่งความสงบ ผู้มีชีวิตที่เป็นสัจจะ เป็นสภาวะของความบริสุทธิ์เสมอ..เมื่อเราอยู่ในความเงียบสงบเท่านั้น ที่เราสามารถสื่อสารและรู้จักท่าน เพียงแค่รับฟังและดูดซับ เราจะได้รับประสบการณ์ของสัจจะในทันที ที่ทำให้เรานั้นอิ่มเต็มอยู่ภายใน กลายเป็น "พลังส่วนตัว" - ในเวลาของความปั่นป่วน ความสงบจะไหลรินออกจากตัวเรา เพื่อปกป้อง ชี้นำทางทำให้สถานการณ์และผู้คนนั้นเยือกเย็นลง ทำให้เกิดการประนีประนอมและเกิดความเคารพ รัศมีของพลังที่ล้อมรอบตัวเรา เป็นเหมือนเกราะป้องกัน ที่ละลายกระแสความเป็นลบ ทำให้เราสามารถเอาชนะความกลัวและความโกรธ ด้วยสำนึกที่เป็นไปในทางบวก

แสงของความเงียบสงบนั้น ทำให้เรามีประสบการณ์ของพลัง ที่ทำให้สามารถสร้างชีวิตขึ้นมาใหม่ บนพื้นฐานของสัจจะ


* สร้างความสัมพันธ์กับบาบา ในฐานะสัจจะที่มีชีวิต (Living Truth)



กลุ่มที่ 7 ความสงบภายใน คือความเยือกเย็นที่ไม่สั่นคลอน (Unshakeable Calm)

พี่เปี๊ยกได้สรุปเนื้อหาที่กลุ่มนำเสนอ...
ความเยือกเย็นนั้น เป็นคุณธรรมหนึ่งของการอยู่อย่างมั่นคง ท่ามกลางความสับสน และมั่นใจแม้ในเวลาที่ยากลำบาก ในสถานการณ์วิกฤติ หากเรานิ่งอยู่ในพลังของความสงบ เราจะไม่ถูกดึงดูดเข้าไปในสถานการณ์ใดๆ ฉะนั้นเราจะต้องเรียนรู้ที่จะเชื่อมโยงกับพลังของความสงบ ซึ่งเป็นพลังธรรมชาติที่แท้จริงของตัวเรา โดยเริ่มต้นด้วยการเตือนตนเองว่า “ฉันคือจิตวิญญาณที่สงบ” และฝึกฝนที่จะคงอยู่ในความสงบ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นรอบข้างตัวเราก็ตาม
เราจึงได้พิจารณาสถานการณ์ก่อน หลัง และระหว่างพายุ พร้อมทั้งเลือกใช้ทางที่สงบ
  • ความสงบเย็นก่อนพายุ พูดถึง การสั่นสะเทือน หรือความหวาดกลัวในน้ำเสียง ขณะที่รอคอยฟ้าผ่า น้ำหลาก และสายลมที่แรงพอจะดึงหลังคาบ้าน หรืออาจจะเป็นการรอคอย ความโกรธ การดูหมิ่น น้ำตา
  • ความสงบเย็นหลังพายุ ยืนนิ่งด้วยความตกใจกลัว ขณะที่มองดูความเงียบที่ไม่สงบ บ้านไม่มีหลังคา ต้นไม้ล้ม หรืออาจเป็นการข่มขู่ ความเจ็บปวด การปฏิเสธ
  • ความสงบเย็นระหว่างพายุคือพลัง ไม่ว่าพายุประเภทใดที่อยู่เบื้องหน้า ทางเลือกเป็นของขวัญ ที่มีนัยสำคัญ เป็นพลังที่เราสามารถใช้เปลี่ยนผลลัพธ์ที่ตามมามากมาย

(คลิกอ่านต่อ)

พี่เปี๊ยกย่อนกลับไปหาเหตุการณ์ในอดีต (คลิกอ่านต่อ)

* สร้างความสัมพันธ์กับบาบา ในฐานะเจ้าแห่งสายฝน ( The Lord of Rain)


ช่วงเย็นวันเสาร์นั้น หลังคลาส พี่หล้ามีโอกาสผูกรักกี้ให้กับเพื่อนโรงเรียนมัธยม คุณหน่อย ประภัสสรา พิมพ์พันธุ์ และสามีคุณยงยุทธ ไผ่แก้ว ผู้ที่ได้แสดงความตั้งใจในการศึกษาความรู้ทางจิต

26 พ.ย. 2560
พี่กฤษณะแบ่งปันประสบการณ์การไปใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวบราห์มา กุมารี ที่ออสเตรเลีย พร้อมกับนำบายศรีคู่ มาoffer บาบา สำหรับการเปิดตัวงานรับใช้ทางจิตในภาคอีสานและประเทศลาวเป็นทางการ พร้อมกับคุณทิพย์ นักเรียนประจำท้องถิ่นคนแรก

ครอบครัวทางจิตถือโอกาสรับขวัญด้วยการฟ้อนเอิ้นขวัญ และจินตลีลา Endless love ให้พี่หล้า ด้วยความสุขและความรัก ท้ายสุดร่วมฉลองวันเกิดสำหรับผู้ที่เกิดทั้งทางโลกและทางจิต ในเดือนพฤศจิกายน คือ พี่หล้า พี่กฤษณะ พี่มีมี่ และน้องฝน

30 พ.ย. 2560
น้องฝนแบ่งปันประสบการณ์ที่ได้รับการรักษาด้วยความสงบเงียบ จาก Dr.Azeem
แรกเริ่มขอขอบคุณ พี่หล้าและอ.อิทธิกรที่ให้โอกาสได้พบกับ Dr.Azeem และมีประสบการณ์ได้ใช้ความเงียบสงบในการเยียวยาในทางปฏิบัติ โดย Dr.Azeem ได้ให้บทแนะความคิดเพื่อพาเราดิ่งเข้าสู่ประสบการณ์ของ Delta Healing เป็นสภาวะที่ทำให้เราผ่อนคลาย อยู่ในสภาวะเหมือนการหลับลึกจนเราสามารถเข้าไปเห็นจิตใต้สำนึกของเราที่เคยฝังเรื่องราวต่างๆในอดีตไว้ โดยสิ่งนั้นได้มีผลต่อสุขภาพทางร่างกายในแต่ละส่วนของเรา การเยียวยาด้วยความสงบนี้ ทำให้เราได้เข้าไปปรับเปลี่ยนทัศนคติของเราอีกครั้ง เหมือนเราได้ย้อนไปมองดูตนเองในอดีต เราได้เข้าไปสร้างกระบวนความคิดใหม่ด้วยตนเอง เพื่อหาทางที่จะสร้างจิตใต้สำนึกให้มีความคิดใหม่ ซึ่งกระบวนการนี้จะทำให้เราสามารถวิเคราะห์โรคภัยความเจ็บป่วยทางร่างกายของเราได้ด้วยตนเองเพื่อเรียนรู้เข้าใจ ให้อภัยและเมตตาต่อตนเองได้ หาวิธีการแก้ไขด้วยตนเองในความเงียบสงบ เพราะสาเหตุความเจ็บป่วยทางร่างกายส่วนใหญ่มาจาก กระบวนการคิดของเราเองที่เราต่างไม่ได้ให้ความสนใจมาในอดีตจึงมีผลกระทบจากจิตไปสู่ร่าง คลิกอ่านต่อ...

แม่ปุ้ม ถอดเสียงบันทึกการบรรยายสั้นๆ ของ Dr.Azeem เรื่องการเยียวยาโลกแปลไทย โดย ดร.อิทธิกร
  • เราจะเยียวยาโลกได้อย่างไร ที่จะทำให้บุคคลภายนอกมีประสบการณ์ของความเงียบสงบ โดยDr.Azeem ท่านทำงานอยู่ที่รพ.โรคหัวใจ ที่เป็นส่วนหนึ่งของ Global Hospital ของ บราห์มา กุมารี โดยใช้วิธี Counselling ก่อนตรวจและ ให้คำปรึกษาก่อน โดยใช้ศาสตร์ของการฝึกจิตแบบราชาโยคะ - ได้ทำวิจัยตั้งแต่ปี 2511 เรื่องโรคหัวใจที่ดีที่สุดในโลก เป็นที่ยอมรับ / ผู้อำนวยการของรพ.โรคหัวใจของบราห์มากุมารี ดร.สาธิต กุปต้า เป็นผู้ทำวิจัยมา 19 ปี มีผู้เข้ารับการรักษาด้วยวิธีนี้ถึง 8,000 คน เป็นศาสตร์ของการป้องกันและการรักษา เพราะด้วยวิธีผ่าตัดธรรมดาโรคจะกลับมาอีก
คลิกอ่านต่อ...
โอมชานติ

© 2024 Brahma Kumaris Thailand. All rights reserved.