ความสามารถในการให้อภัยผู้อื่นขึ้นอยู่กับความซื่อสัตย์ที่มีต่อตนเอง เมื่อเราเผชิญหน้ากับข้อบกพร่องของตนเอง ความโกรธและการต่อต้านผู้อื่นก็หายไป เราต่างก็ทำผิดกันมาในอดีต แต่เมื่อเราตระหนักรู้ว่าสิ่งใดถูกและทำการแก้ไข กระบวนการให้อภัยตนเองก็เริ่มขึ้น จนกระทั่งสามารถให้อภัยผู้อื่นได้ ไม่มีการกล่าวโทษผู้อื่นหรือมีข้อยกเว้นให้กับตนเองอีกต่อไป
การให้อภัยเกิดจากความเมตตาอาทรจึงแก้ปัญหาการพิสูจน์ตนเองว่าถูกต้องและขจัดความขุ่นเคือง ที่มีต่อความอยุติธรรมใดๆ
ถ้าเราไม่เรียนรู้ที่จะให้อภัย ความคับแค้นใจ จะกลายเป็นพิษต่อชีวิตที่ยึดติดอยู่ในบทบาทของผู้พิพากษาซึ่งทำให้เราต้องถูกพิพากษา โดยไม่มีทางเลือก
การให้อภัยหลอมละลายความหยาบกระด้างในหัวใจผู้อื่น พวกเขาจะชื่นชมและรู้ค่าการกระทำที่สูงสุดของความปรานี
ความตั้งใจที่จะให้อภัยก่อน คือสิ่งชี้บอกถึงความเที่ยงธรรม และเป็นการพิสูจน์ความรักที่แท้จริง


เปิดตัว ‘วัวเจ้าปัญญา’ เป็นทางการ
วันอาทิตย์ที่ 3 ก.ค. เวลา 10.00 น. ถึงเที่ยง ณ มูลนิธิ บราห์มา กุมารี ราชาโยคะ ถ.แจ้งวัฒนะ นนทบุรี

ต่อเนื่องจากรายการสำหรับประชาชนในวันพุธ 29 มิ.ย.59 ที่อาคาร Wisdom Plus ซึ่งมูลนิธิฯ ได้จัดกิจกรรมหลากหลายในสวนดอกไม้คุณธรรม พร้อมทั้งมีการลงทะเบียน ด้วย ‘วัวเจ้าปัญญา’ เชิญชวนสมาชิกมาทำกิจกรรมกลุ่ม ในโอกาสต่อไป ณ สถานที่ต่างๆ ตามตัวอักษรประจำตัวของวัว 26 ตัว ตั้งแต่ A ถึง Z เพื่อท้าทายการเปลี่ยนนิสัยจากลบเป็นบวก ด้วยหลักการง่ายๆ...การเห็นสิ่งต่างๆอย่างที่เป็นจริง คือการเป็นอิสระจากความเป็นลบ

ปกติแล้วเราจะเห็นทุกสิ่งในมุมมองของเรา มีการเติมสีสันลงไปตามประสบการณ์ในอดีตและทัศนคติหรือความเชื่อที่มีมา หากประสบการณ์ในอดีตของเราเป็นลบหรือไม่ดี เราก็จะมีมุมมองที่เป็นลบไปด้วย เหตุนี้เองเราจึงมีความทุกข์และรู้สึกไม่มีความสุขในบางสถานการณ์ ดังนั้นเราจึงต้องเปลี่ยนมุมมองใหม่ ด้วยการยอมรับว่าทุกสถานการณ์นั้นมีบางสิ่งที่สดใส สวยงามซ่อนอยู่ เมื่อเราพยายามจะเห็นความเป็นจริงอย่างที่เป็น เราย่อมเปลี่ยนมุมมองให้เป็นบวกได้ โดยการปล่อยวางความไม่ดีที่เป็นลบอันเนื่องมาจากประสบการณ์ในอดีต และเริ่มรู้ค่าสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

การที่เราแกล้งคิดในทางที่ดี หรือหลบซ่อน หลีกเลี่ยง โดยไม่มีการยอมรับความจริงนั้นไม่ใช่ความปรารถนาดีที่มีปัญญาในการแก้ปัญหาได้อย่างแท้จริง เมื่อเรามีเจตนาที่จะสร้างชีวิต และความสัมพันธ์ที่ถาวร โดยไม่มีเงื่อนไขของการให้-รับ ผลประโยชน์ส่วนตัวใดๆ เวลานั้นเองที่วิสัยทัศน์ของเราจะเป็นธรรม เที่ยงตรง และมีค่าควรแก่การบำรุงรักษาหัวใจไม่ให้ปวดร้าวกับการคาดหวัง-ผิดหวัง

โอกาสนี้เราได้เปิดตัว ‘วัวเจ้าปัญญา’ เป็นทางการ โดยเน้นการเสริมสร้างปัญญาจากทุกปัญหาชีวิตที่เกิดขึ้น ด้วยคำสอน (Teaching) และการเรียนรู้ (Learning) เพื่อสร้างประสบการณ์ของคุณธรรมในทางปฏิบัติจนกลายเป็นผู้รู้หนังสือด้านจิตวิญญาณ นั่นคือ ผลของการเปิดตาที่สามแห่งความรู้

Dr.Nirmala เยือนประเทศไทย
วันศุกร์ที่ 8 ก.ค. เช้า ณ บ้านพินทุ เรานัดพบกับ ดีดี้ เนอร์มาละ ในฐานะผู้ประสานงานประจำภูมิภาคเอเชีย ออสเตรเลีย ท่านทำหน้าที่ทุกปีในการประสานสัมพันธไมตรีของทุกศูนย์ในแต่ละประเทศ ด้วยความรับผิดชอบต่อการเจริญเติบโตของครอบครัวทางจิต ให้มีความเป็นหนึ่งเดียวกันบนฐานของสัจธรรม ดีดี้เนอร์มาละ ผู้ที่มีธรรมชาติที่เยือกเย็นในความกระจ่างชัดที่ถูกต้องแม่นยำและการละวางของเธอนั้นเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการบรรยายที่ลึกล้ำในหัวข้อ 'สมดุลภายใน' โอกาสนี้ดีดี้ได้ผ่านมา เพื่อเดินทางต่อไปพม่า จึงใช้เฉพาะเวลาเช้ากับพวกเรา แต่ความรู้สึกนั้นเป็นนิรันดร์ เพราะดีดี้มีความสำเร็จในการสร้างสภาพแวดล้อมที่จำเป็นอย่างยิ่งในการนำความเป็นหนึ่งเดียวกันมาสู่ครอบครัวในประเทศไทย ขณะที่ท่านเองอยู่ในความสมดุลในตนเองด้วยพลังในโยคะ ท่านพูดด้วยระดับเสียงที่อยู่เหนือคำพูดของท่านเอง


การทำบุญเริ่มที่บ้าน
วันเสาร์ที่ 9 ก.ค. ครบรอบวันเกิดของน้องฝน มีโอกาสสนับสนุนโครงการ 'เจ็ดพันล้านการทำดี' ด้วยการทำดีร่วมกับครอบครัวทั้งทางโลกและทางจิตที่บ้านอยุธยา

การ์ดวันเกิดน้องฝน

ครอบครัวทางจิตและครอบครัวทางร่างร่วมสนทนาภาษาไจ

คุณยาย(ผู้เลี้ยงน้องฝนมาแต่เด็ก) เดินทางมาจากประจวบฯ กับญาติอื่นๆ มีความสุขกับการพบปะ

เจ้าของวันเกิดเดือนกรกฎาคม
ร่วมตัดเค้กวันเกิด

พี่แหม่มต้อนรับเราด้วยการตกแต่งสถานที่และสร้างบรรยากาศ
ให้เราร่วมร้องเพลงกัน

พี่หล้าและคุณแม่น้องฝน

พี่แหม่ม พี่ศรี คุณพ่อน้องฝน และพี่หล้า

คุณพ่อน้องฝนและพี่แหม่ม
ถ่ายรูปร่วมกันก่อนกลับ
ประสบการณ์น้องฝน...(คลิกอ่าน)

บราเตอร์สุริยา นักวิทยาศาสตร์ด้านคอมพิวเตอร์เยือนประเทศไทย
ในระหว่างวันพฤหัสที่ 7 ถึงเสาร์ที่ 23 ก.ค. 59 บราเตอร์ สุริยา มีการบรรยายทั้งในครอบครัวบราห์มินและสำหรับประชาชน ด้วยการนำเอาการขยายรายละเอียดของข้อมูลข่าวสารที่โลกตื่นตัว มารวมเป็นแก่นสารสาระที่ทำให้พวกเรามีการหยั่งรู้อย่างลึกล้ำถึงความเร่งด่วนของเวลา และวิธีการที่เราสามารถจะก้าวหน้าและประสบความสำเร็จในการมีชีวิตบนหนทางของความรู้ที่สมบูรณ์ของสัจจะ โดยการเน้นความสำคัญในการจดจำ เพียงแต่ 3 จุด และ 5 รูปของการเริ่มตั้งแต่ตัวตน เป็นจุดแรก ซึ่งต้องเชื่อมโยงกับผู้เป็นจุดแห่งแสงสูงสุด ขณะที่ เวลา ถูกเร่งให้จบสิ้นฉากสุดท้ายของวงจรโลกและอย่างแน่นอนที่เราย่อมรู้สึกถึงความเร่งด่วนในเวลาวิกฤตจากเสียงเรียกของเวลานี้

วันอาทิตย์ที่ 10 ก.ค. ณ มูลนิธิฯ บรรยายหัวข้อ 'กุญแจสู่ความเป็นผู้นำที่ประสบความสำเร็จและมีความสุข มุมมองทางด้านประสาทวิทยา'
โดยมีผู้ใหญ่ในวงการแพทย์และผู้สนใจที่ ศ.พิเศษ ดร.อิทธิกร วัฒนะ ได้เชิญมาร่วมรายการ เช่น ศ.นพ.ณรงค์ นิ่มสกุล นายกสมาคมเลเซอร์ทางการแพทย์นานาชาติ

วันจันทร์ที่ 11 ก.ค. ที่อาคาร Wisdom Plus รัชดา บรรยายหัวข้อ 'พลังความคิด ทำให้ฝันเป็นจริง'


ความสุข...พลังจากภายใน
วันอังคารที่ 26 ก.ค. เวลา 17.00-20.00น. ณ ห้องบอลลูม โรงแรม แรมแบรนดท์ สุขุมวิท 18
ซิสเตอร์ แจนที ได้ให้ประสบการณ์ของความสุข ด้วยการบรรยายและการปรากฏตัว (คลิกดู video ที่นี่)

ภาพนี้ใช้โฆษณาเชิญชวนประชาชน แม้บางท่านไม่สามารถมาร่วมงาน เราก็ยังได้ยินเสียงอุทาน "ใบหน้าและรอยยิ้มฉายแสงแห่งความสุขจริงๆ"
B.K.สไบทิพย์ ศิริรัตนธำรงค์ ประธานมูลนิธิ บราห์มา กุมารี ราชาโยคะ ในฐานะผู้แทน บราห์มา กุมารีประเทศไทย ได้กล่าวต้อนรับซิสเตอร์ แจนที และยกย่องชีวิตของท่านที่เป็นเช่นมรดกทางจิตวิญญาณที่มีค่ายิ่งของโลก (A Rich Spiritual Heritage) จากการสั่งสมพลังทางจิตไว้เพื่อยกระดับชีวิต-จิตใจมนุษยชาติมาร่วม 40 กว่าปี ในฐานะผู้นำทางจิตวิญญาณที่สามารถบริหารงานจากศูนย์ประสานงานระหว่างชาติในกรุงลอนดอน และเดินทางไปทั่วโลกเพื่อคนทุกชนชั้น
เราได้แนะนำกิจกรรมสร้างสมคุณธรรมหลากหลาย ด้วยการแจกจ่ายบัตรที่จัดพิมพ์พิเศษเฉพาะอย่าง พร้อมการลงทะเบียนด้วยวัวเจ้าปัญญา 26 ตัว (จาก A-Z) เพื่อติดตามผู้สนใจทำกิจกรรมต่อเนื่อง


ตอนจบแขกประมาณ 500 คน รวมทั้งประธานบริษัท Indorama ของอินเดียที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีความตั้งใจมารับฟังและเข้าแถวมารับ Toli(ขนมหวาน) จากซิสเตอร์แจนที และพรจากซิสเตอร์หล้า (B.K.สไบทิพย์) พร้อมทั้งทักทายด้วยความศรัทธาขณะที่อยู่ในรถเข็น


สื่อสารผ่านภาษาตา ภาษาของจิตวิญญาณ (ดริชตี)
พฤหัสที่ 28 เวลา 19.00น. ณ มูลนิธิฯ เราต้อนรับซิสเตอร์แจนทีใน วันที่ระลึก ดีดี้มานโมฮินี ผู้ร่วมบริหารสถาบันกับดาดี้ ปรากาชมณี ซึ่งจากร่างไปในวันที่ 28 กรกฏาคม 1983 เพื่อใช้ร่างใหม่ในบทบาทใหม่ (กว่า 30 ปี) เพื่อเตรียมการสำหรับโลกใหม่ เนื่องจากท่านได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้มีดวงตาที่เต็มไปด้วยพลังโยคะ การสื่อสารที่มาจากสติปัญญาที่ลึกล้ำในศรัทธาต่อสิ่งสูงสุดนั้น จึงสามารถทำให้ผู้ที่ท่านมองด้วยสำนึกของการเป็นดวงวิญญาณ จุดแห่งแสง หลุดจากภาวะที่มีตัวตนของร่างกายที่มีขีดจำกัดนั้นได้อย่างเบาสบาย ท่านได้พิสูจน์ในทางปฏิบัติว่าพลังโยคะนั้นสามารถเอาชนะร่างกาย และประสาทสัมผัส... โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาสุดท้าย ที่พลังโยคะจะช่วยเหลือดวงวิญญาณทั้งหลายในโลกให้ออกจากร่างที่ทุกข์ทรมานได้โดยง่าย

"วันที่ 28 กรกฏาคม ...(คลิกอ่าน) ดาดี้แจงกีได้พูดถึงประสบการณ์ที่ใช้ชีวิตอยู่กับดีดี้มานโมฮินี และได้บันทึกเสียงไว้ในวันที่ 27 กรกฎาคม 2559ที่อัมดาบัด ขณะที่ดาดี้แจงกีกำลังจะเดินทางกลับไปลอนดอน... ในร่างที่ยืนยาวถึง 100 ปีด้วยพลังของความรักที่ละวาง


ดาดี้จีและดีดี้มานโมฮินี
ซิสเตอร์แจนทีได้ให้ความหมายของดริชตี "อะไรเกิดขึ้นเมื่อเราให้และรับดริชตี ในสำนึกรู้ของเรามีบาบา สิ่งที่ฉันทำในดริชตี คือ ให้เรามีการเชื่อมโยงกับบาบา ระหว่างท่านและฉัน คือบาบา ฉันรับดริชตีจากบาบา และบาบาก็ให้ดริชตีแก่ท่าน เป็นการเชื่อมโยงของฉันและบาบา บาบาเป็นผู้ที่ให้แสงและพลังอำนาจ ความสงบและคุณธรรมอื่นๆ ฉันไม่ใช่ผู้ที่ให้ดริชตี แต่เป็นบาบาที่อยู่ตรงกลาง เป็นบาบาที่ให้ดริชตี ดริชตีของเราจะเปลี่ยนไปเมื่อเราอยู่ในการจดจำระลึกถึงพระเจ้า เพราะก่อนนี้ ดริชตีของเรานั้นสะท้อนสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตของเรา มีคำพูดว่า ‘ดวงตาคือหน้าต่างของภายใน’ ดริชตีหรือดวงตาจะสะท้อนสิ่งที่เกิดขึ้นในจิตใจของฉัน เมื่อเราได้ชำระจิตใจให้บริสุทธิ์ ดริชตีของเราก็ได้รับการชำระให้บริสุทธิ์ด้วยเช่นกัน บาบาพูดถึงใบหน้าของดาดี้ปรากาชมณี (ดาดี้จี) เป็นใบหน้าของบราห์มา กุมารี เป็นไมโครโฟน (Mike) ส่วนดีดี้มานโมฮินี คือพลังอำนาจ เป็นประภาคารแห่งพลัง (Might)ดริชตีของดี้ดี้มีชื่อเสียงอย่างมาก เป็นดริชตีที่ให้ความสุขอันยิ่งใหญ่"


ซิสเตอร์แจนทีในวัยเยาว์กับดีดี้มานโมฮินี
วันที่ 28 กรกฎาคมนี้ เราได้เตรียมพรจาก 25 คุณสมบัติพิเศษของดีดี้มานโมฮินีให้ทุกคน ส่วนพรที่ซิสเตอร์แจนทีได้รับ คือ ‘การเป็นโก๊ปี้ที่แท้จริง ผู้เป็นคู่รักของพระเจ้า’ ซิสเตอร์จึงได้ให้ความหมายที่ลึกซึ้ง "ความรักของดีดี้ที่มีต่อบาบา ไม่มีใครนอกจากบาบา ถ้าเราเป็นเจ้าสาวของพระเจ้า เราจะต้องมีความสวามิภักดิ์ มีความซื่อสัตย์ต่อพระเจ้า ไม่คิดถึงผู้ใดอื่น มีเพียงความรักสำหรับพระเจ้าเท่านั้น" โก๊ปี้ คือผู้ที่แสวงหาและไม่มีใครอื่นในหัวใจนอกจากพระเจ้า แต่เมื่อเรามีบาบาอยู่ในหัวใจ เราจะมีสายตาของความรักที่เท่าเทียมกันสำหรับทุกคน เราเห็นทุกคนเป็นเช่นเดียวกัน นั่นคือพลังของความรักของพระเจ้า
พลังของดริชตีที่เราเห็นทุกคนด้วยสายตาเดียวกัน ที่มธุบัน เวลาที่เราได้รับดริชตีจากดี้ดี้ เราจะรู้สึกถึงพลังอันมากมาย การมีบาบาอยู่ในหัวใจหมายถึง การมีหัวใจที่เปี่ยมล้น ไปด้วยความรักของพระเจ้า ไม่ใช่มีการกีดกันใครออกไปแต่รวมทุกคนเข้าไว้ เป็นการยกระดับทุกคน พลังของความรักนั้นคือการยกระดับทุกคน ความรักของบาบาเท่านั้นที่สามารถทำเช่นนั้น ความรักของดีดี้ก็เป็นเช่นเดียวกัน ดีดี้เป็นแม่ก็จริงแต่มีบทบาทเหมือนเป็นกุมารี เธออุทิศทั้งชีวิตให้กับพระเจ้า ดีดี้ได้วางแบบอย่างให้เหล่ากุมารีทั้งหลาย ได้แก่ ซิสเตอร์โมฮินี นิวยอร์ค ดีดี้จักกระดารี รัสเซีย ดีดี้สุเดซ และ ฉัน ที่ทำให้เราได้อยู่ในเส้นทางเดียวกันที่ถูกต้อง"

ซิสเตอร์แจนที ให้ประสบการณ์การสื่อสารด้วยภาษาตา (คลิกดู video ที่นี่)

ซิสเตอร์แจนที ผู้มีคุณสมบัติของการเป็นทายาททางจิต จึงให้ประสบการณ์ของการสื่อสารด้วยภาษาตา ไม่ว่าใครจะอยู่ในร่างใด เพื่อเล่นบทบาทต่างไปย่อมมีประสบการณ์ของความเป็นพี่น้องที่สอดคล้องกันในคุณสมบัติภายในที่มีคุณค่า ความดี ... ท่านจันทร์ได้รับคำชมจากซิสเตอร์แจนทีว่า 'He is a very sweet soul' ท่านจันทร์จึงแบ่งปันประสบการณ์ในการพบปะกันครั้งนี้
"สื่อสารภาษา แววตามนุษย์ จากใจใสบริสุทธิ์มีแสงส่อง เป็นประกายสายตาที่น่ามอง มีเพื่อนพ้องผลพวงจากดวงตา "

เราพบซิสเตอร์แจนทีวันแรกกับประชาชนในการบรรยากาศของความสุข ท่านจึงร่ำลาประเทศไทยด้วยความสุข... วันสุดท้าย ก่อนเดินทางไปสนามบิน ท่านได้ให้บทเรียนเกี่ยวกับ การรับความทุกข์(taking sorrow) ที่เราขอแบ่งปันบรรยากาศในศูนย์ ด้วยเสียงภาษาอังกฤษของท่าน คู่ไปกับการแปลโดยพี่ภาของเรา(ผศ.ประภา วิทยารุ่งเรืองศรี)
ขอบคุณสำหรับการมาเยือนของซิสเตอร์แจนที ที่ได้ทิ้งอนุสรณ์ของเทพลีลา ซึ่งงดงามและทรงพลังในทุกอิริยาบท

งานเลี้ยงอำลา
ศุกร์ที่ 29 เวลา 17.00-20.00 น. ณ บ้านริมทะเลสาบ หมู่บ้าน Perfect Place ถ.รังสิต-ปทุมธานี ครอบครัวทางจิต จัดงานสังสรรค์
ร่ำลาซิสเตอร์แจนที ในสวนดอกไม้คุณธรรม พร้อมกิจกรรมในแต่ละมุม ที่ประดับประดาด้วย ผลไม้ และดอกไม้ นานาพรรณ
เราได้สัมผัสความงามของความบริสุทธิ์ ที่ให้ประสบการณ์ทั้งความสงบและความสุข ด้วยการหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณผ่านส่วนต่างๆของร่างกาย ...ที่เราทุกคนต้องใช้ความเพียรพยายามให้ความบริสุทธิ์สมบูรณ์ปรากฏอยู่ในชีวิตจริงในทั้ง 5 ด้านดังนี้
  1. วงแสงเต็มสมบูรณ์...รอบศีรษะ
  2. ตีลัคเปล่งแสงบนหน้าผาก
  3. ประกายความผ่องแผ้วภายในจากดวงตา
  4. รอยยิ้มจากริมฝีปากของผู้ที่ได้รับทุกสิ่งจากพระเจ้า พร้อมมีคำพูดที่อ่อนหวานด้วยพลังของสัจจะ
  5. สีแดงแห่งความสุขบนใบหน้า คือในการพบปะ แม่-พ่อ และครอบครัวสูงส่ง
กิจกรรมในห้องต่างๆ ให้ประสบการณ์ของความสงบนิ่งที่มีการสำรวจตน ขณะที่มีความสุขจากการสังสรรค์-สนุกสนานในครอบครัวทางจิต

โอมชานติ

© 2024 Brahma Kumaris Thailand. All rights reserved.