เราจะเต็มเปี่ยมไปด้วยเพชรพลอยของคุณธรรมและพลัง สามารถเดินทางถึงชายฝั่งของโลกแห่งความสุขได้อย่างง่ายดาย ท่านจันทร์ จากมูลนิธิ 'เพื่อนช่วยเพื่อน' ส่งบทกลอนมาสนับสนุนโครงการ ‘7 พันล้านการทำดี’ พร้อมประชาสัมพันธ์ชวนเชิญสมาชิกผ่านรายการวิทยุ มาร่วมงานจุดแสงปัญญาให้นาวาชีวิต’ ในวันเสาร์ที่ 27 พฤศจิกายน 2558 คลิกที่นี่ เพื่ออ่านบทกลอนจากท่านจันทร์
เริ่มกิจกรรมด้วยความบริสุทธิ์ เพราะความบริสุทธิ์ในจิตใจ คำพูด และการกระทำ คือความมหัศจรรย์ของสัจจะ จาก การพูดด้วยสัจจะ และอดกลั้น ทำให้มีการสื่อสารที่ดี ไม่มีการทำกรรมที่ผิดๆ แม้แต่จะคิดหรือพูดว่า เราไม่สามารถ ทำอะไรบางสิ่งได้ เนื่องจาก ความถ่อมตน จะทำให้ เราเป็นผู้ประทานความสุขและทำลายความทุกข์ ในทุกแง่มุมของชีวิต จงละวาง ทุกคนมีบทบาทในละคร เราได้ตระหนักรู้จักผู้เป็นสัจจะสูงสุด และการเดินทางของชีวิตในโลกที่หลอกลวง เราเพียงต้องใช้ความพยายามในการข้ามฟากไปสู่โลกแห่งสัจจะ มีผู้ร่วมรายการ จากช่วง 9 โมงเช้าถึงหนึ่งทุ่ม ได้ผ่านช่วงจังหวะที่หวานชื่นในการพบปะกันเพื่อสัมผัสผลการศึกษาจิตวิญญาณที่แท้จริง โดยผ่านการเรียนรู้จากผู้อื่น การเติบโตพร้อมผู้อื่น การประสานสัมพันธ์กับผู้อื่น การแบ่งปันประสบการณ์ที่มีค่ากับผู้อื่น ในครอบครัวชาวโลกของพระเจ้า –ผู้ทรงอำนาจ ท่านมาให้สิทธิ์ของพลังอำนาจเป็นมรดกแก่ลูกๆ เท่าเทียมกัน ทำให้เราพอใจในการใช้ชีวิตร่วมกันด้วยเกียรติและศักดิ์ศรีของความเป็นพี่น้อง โดยไม่มีความสัมพันธ์อื่นเป็นส่วนตัว ที่ต้องพึ่งพิง แต่ให้ความร่วมมือในความก้าวหน้าไปด้วยกัน กลุ่มความบริสุทธิ์ สมาชิกมีคุณธรรมต่างกันไป ท่านจันทร์(มีระเบียบ)และพี่หล้า(กล้าหาญ)ให้นิยามจากคุณธรรมประจำตัว ตามมาด้วยสมาชิกกลุ่ม คือ พี่ชัย (ถูกต้องแม่นยำ) น้องปอง (บริสุทธิ์) และพี่ไก่ (เบาสบาย) เมื่อทุกสิ่งขึ้นอยู่กับความบริสุทธิ์จึงต้องเชื่อมโยงกับผู้ที่บริสุทธิ์เสมอ ท่านคือ พระเจ้า ผู้เป็นพ่อสูงสุด เพื่อจะได้กลับมาบริสุทธิ์สมบูรณ์อีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในการเดินทางไปสู่อาณาจักรสวรรค์แห่งความสุข ที่เรียกว่า อาณาจักรของราม (Ram) ที่เต็มไปด้วยศีลธรรมจรรยา ดินแดนที่เหล่าเทพอาศัยอยู่ด้วยกันเหมือนน้ำนมและน้ำตาล แต่เวลานี้คือ อาณาจักรของราวัน หรือนรกที่เต็มไปด้วยกิเลส ความไม่บริสุทธิ์ของทุกคนพร้อมจะให้และรับความทุกข์ต่อกัน
กลุ่มสัจจะ ‘ความสูงส่ง’ คือคุณธรรมที่ซิสเตอร์วานาจาแบ่งปันซึ่งปรากฏชัดในการใช้ชีวิตครอบครัวด้วยความบริสุทธิ์เช่นดอกบัว จึงเป็นตัวอย่างของผู้ปฏิบัติธรรมที่แท้จริง เช่นที่มีการกล่าวถึง ชีวิตราชาโยคี คือชีวิตที่อยู่ในหนทางครอบครัวที่บริสุทธิ์…ซึ่งเป็นกำเนิดของการบูชาดอกบัวที่มีราชาโยคีนั่ง ยืน และเคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติที่บริสุทธิ์ขณะที่เล่นบทบาทรอบตัวรอบด้านและสะสมรายได้มหาศาลตามความหมายของดอกบัวที่ใช้คำว่า ‘ปทุม’ (Padam)แปลว่า ผู้มั่งคั่งหรือหลายล้านเท่า
การเดินทางเริ่มต้นขึ้นในการสำรวจตรวจสอบตนเองขณะอยู่กับครอบครัวที่สูงส่ง แต่การเดินทางเข้าสู่ภายในที่แท้จริง คือการสำรวจตนที่มีผลต่อการอยู่เหนืออิทธิพลใดๆ เป็นการเดินทางไปสู่สภาวะที่ไม่อาจร่วมทางไปกับใคร นอกเหนือจากการอยู่กับพระเจ้าผู้เดียวเท่านั้น ผู้เป็นสัจจะ เพราะหนทางไปสู่การหลุดพ้นนั้นแคบลงทุกที มีสองเท่านั้นที่จะไปด้วยกันได้ คือ ‘ฉัน’ และ ‘สัจจะ’
เราขอให้ทุกคนอยู่ในความสงบ สำรวจตนหลังจากพิจารณาตารางเปรียบเทียบ ผู้มีสำนึกที่เป็นดวงวิญญาณและสำนึกที่เป็นร่างกาย สุดท้ายได้รับ บัตรความหมายของความสงบเงียบ (Silence) ประจำตัว เป็นบัตรผ่านเข้าสู่ประตูวัง…6 กลุ่มๆละ 18คน ร่วมกันทำกิจกรรม เริงร่าในสาระธรรม และสร้างสมคุณธรรมที่สูงส่ง กลุ่มถ่อมตน คุณธรรมในกลุ่ม ช่วยเสริมกิจกรรม
กลุ่มอ่อนหวาน เน้นคุณธรรม ‘ละวาง’ จากสาระของการแสดงละคร ‘ราชาจานาก’ เพื่อให้ท่านจันทร์(นักบวช) และพี่หล้า (โยคี) ให้นิยาม ‘การสละละทิ้ง’ ตามบทบาท และวิถีชีวิต ทั้งในหนทางของการแสดงความภักดีต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในรูปของการทำพิธีกรรมทั้งหลาย หรือหนทางของการสละละทิ้งของซานยาสซี ที่ปลีกตัวไป อยู่ในป่า ทิ้งครอบครัว สังคมและสุดท้ายคือหนทางของความรู้ที่เกิดปัญญาในการกลับคืนสู่สาระหรือสภาวะดั้งเดิมที่สูงส่ง สวยงาม และศักดิ์สิทธิ์ ในความเป็นนิรันดร์ของชีวิตและสรรพสิ่ง
‘น้อง Boat’ ได้ร่วมแสดงละครและตั้งคำถามเพื่อได้คำตอบ ในการใช้ชีวิตของเด็กหนุ่มที่ต้องใช้ทุกสิ่งในชีวิตอย่างมีค่า ไม่ว่าจะเป็นความรู้ ความสามารถและทรัพย์สมบัติ (เพิ่งจบบทเรียนของ ‘ราชาโยคะ’ ใหม่ๆ หลังรับปริญญาโทจากอังกฤษ) บทละครตอนเริ่มเรื่อง ‘ราชาจานาก’ ...รายละเอียดคลิกที่นี่ แสดงบนเรือเพื่อสะท้อนคุณธรรม ‘การละวาง’ ...รายละเอียดคลิกที่นี่ กลุ่มความเป็นผู้ใหญ่ คือ กลุ่มสุดท้ายหลังจากการเพียรพยายาม ในการพัฒนา คุณธรรม ให้ครบครัน 36ประการในวันนั้น ในการฝึกจิตแบบราชาโยคะ คำพูดที่ว่า มองแต่ไม่เห็น ฟังแต่ไม่ได้ยิน ซึ่งหมายถึง การคงสภาวะที่มีสำนึกรู้ในความจริงแท้ทั้งหมด รวมทั้งความเป็นลบ แต่ไม่จับจ้องมองแต่จุดนั้น ส่วนใหญ่เรามักติดกับในความเป็นลบเพราะเรามีปฏิกิริยาและการตอบโต้ที่แสดงออกมาในรูปของการตัดสิน กล่าวโทษ วิพากษ์วิจารณ์ หรือ ติดป้ายไว้ เราทำทุกสิ่งเหล่านี้เมื่อเรารู้สึกถูกขู่ขวัญจากสิ่งที่ไม่คุ้นเคย หรือ เมื่อเราต้องหันห่างจากบริเวณที่เคยชินสะดวกสบาย (comfort zones) ดังนั้นจิตใจและทัศนคติที่ชอบความสะดวกสบาย มักจะมีอันตรายใหญ่หลวง คอยตัดสินและวิพากษ์วิจารณ์ ไม่มีการป้อนข้อมูลในทางดีให้ตนเอง ที่คอยกระตุ้นหรือให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางบวกได้เลย ผลดีไม่สามารถเกิดจากข้อมูลที่ไม่ดี การเพ่งรวมของเราเป็นลบ แต่เราก็หวังว่าเขาจะเปลี่ยนไปให้ดีขึ้น เมื่อสำนึกรู้ของเรายิ่งละวาง แทนที่จะจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ผิด จงเสนอวิธีการแก้ไขและไม่ติดกับการพร่ำบ่นเพราะยึดความถูกต้องของตนเองเป็นหลัก ความเป็นผู้ใหญ่หมายถึงการรู้ตัวอย่างสมบูรณ์ ... นิ่งเงียบ ปล่อยให้เวลาช่วยให้สำเร็จเสร็จสิ้นด้วยตนเอง ให้ข้อมูล ที่มาจากแรงจูงใจที่กรุณาปราณี และซื่อสัตย์ในสายสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอ วันนี้ ท่านทำกรรมดีหรือยัง โดยไม่เพิกเฉยต่อการใช้ประสาทสัมผัส อย่างถูกต้อง โดยเข้าร่วมกิจกรรม 7 พันล้านการทำดี ช่วงเราจัดเตรียมกิจกรรม ท่านจันทร์ประทับใจกับการมี Sunset Meditation เปิดตาสมาธิเพื่อร่ำลาตะวัน และต้อนรับความมืดด้วยแสงภายใน เราจึงให้ทุกคนจุดแสงและระวังไม่ให้ดับเป็นนัยสำคัญของการจบรายการที่มีพลัง เราออกไปยืนกันที่หัวเรือ ขณะที่ท่านจันทร์ใช้โอกาสนี้ถ่ายทำรายการของท่าน การจุดแสงปัญญาคือการเห็นคุณค่าของเวลาซึ่งเน้นความสำคัญของการทำสมาธิตอนย่ำรุ่ง ตี 4ที่เป็นรากฐานของทั้งวันและเวลาของการเปลี่ยนกลางวันเป็นกลางคืน ย้ำเตือนการเปลี่ยนแปลงภายในด้วยสำนึกที่สูงสุด ในการช่วยเหลือมวลมนุษย์ซึ่งกลายเป็นอนุสรณ์ในรูปเทวดานางฟ้า ผู้มีร่างแสง มีปีกโบยบิน จากการเชื่อมโยงกับแสงสูงสุดพลังที่บริสุทธิ์ที่สุด โยคะทางจิตนี้จึงเป็นกระแสพลังที่ส่งผลไปทั่วทั้งจักรวาล ในเวลาที่พระอาทิตย์กำลังจะตกดิน… หัวหน้า กลุ่มทั้ง 6 ได้ถือธงแห่งชัยชนะ ที่หัวเรือ เป็นสัญลักษณ์ว่า เรือของสัจจะนั้นอาจโคลงแต่ไม่มีวันล่ม เพื่อนำทางเราไปสู่จุดหมายปลายทางเดียวกันของการหลุดพ้นในชีวิตใหม่ที่ปราศจากกิเลส
| ||||||||||||||||||||||||||