บุคลิกภาพทางจิต Spiritual Personality
ตลอดทั้งวงจรละครโลกนี้ไม่มีใครอื่นมีบุคลิกภาพทางจิต เพราะเป็นบุคลิกภาพที่พ่อสูงสุด มาปั้นแต่งลูกทางจิตของท่าน
ให้มีความบริสุทธิ์สมบูรณ์( Complete Purity) แม้กระทั่งในความฝันและความคิด
ความผ่องแผ้วภายในจิตวิญญาณจะปรากฏบนใบหน้าและพฤติกรรมของผู้ที่เปี่ยมไปด้วยสมบัติที่มีค่า ของความสงบและความสุขที่ไม่สูญสลาย ซึ่งดูได้จากดวงตา ใบหน้า พฤติกรรม ความคิด และความสัมพันธ์ที่เกิดจากความสุขภายใน (ตรงข้ามกับความสัมพันธ์ภายนอกที่ผิวเผินซึ่งเต็มไปด้วยคำถาม) ผู้อื่นจะพอใจเพียงได้ พบเห็น โดยไม่จำเป็นต้องให้บทเรียนใดๆ
ผู้ที่พระเจ้าเลือกเป็นเครื่องมือสร้างโลกใหม่ จะพิสูจน์ตนเองได้ในงานรับใช้ช่วยเหลือด้านจิตวิญญาณบนพื้นฐานและประสบการณ์ ของการเปลี่ยนเป็นบราห์มิน เมื่อได้เห็นพ่อบราห์มา ได้รับพรในการทำงานรับใช้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องคิดคำนวณอะไรเลย ในที่สุดวิธีทำงานรับใช้ช่วยเหลืออย่างเร็ว คือ การทำให้ผู้พบเห็นดวงวิญญาณบราห์มินที่สูงส่ง ได้เห็นพ่อบราห์มา
“…เมื่อลูกเห็นท่าน ลูกก็อุทิศตนให้ท่าน ใบหน้าและคุณลักษณะของท่านดึงดูดทุกคน ดังนั้นจงทำตามพ่อ ทำให้ผู้อื่นเห็นบุคลิกภาพของลูกแล้วกลายเป็นของลูก”
| |
ความบริสุทธิ์และสัจจะ Purity and Truth
ความบริสุทธิ์กำหนดสถานภาพของมนุษย์ว่าต่ำสุด หรือสูงสุด ผู้ที่เคยบริสุทธิ์สมบูรณ์ คือบรรพบุรุษโลกที่กำหนดชะตากรรมของผู้อื่นด้วยประสบการณ์ของการใช้ 84 ชาติเกิดมามากที่สุด เริ่มตั้งแต่ยุคทอง-ยุคแห่งสัจจะ โลกมีความสุข มีพลานามัยดี มีความมั่งคั่งพรั่งพร้อม ด้วยพลังของความบริสุทธิ์ทั้งในดวงวิญญาณ ร่างกาย และวัตถุธาตุทั้งห้า
เมื่อเวลาผ่านไปครบวงจร 5,000 ปี พลังอำนาจได้จางหายเสื่อมสลายไป
ดังนั้นพ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุด ผู้คงความบริสุทธิ์เสมอ เพราะไม่เคยเกิดเป็นมนุษย์ ที่ต้องอยู่ภายใต้กฎแห่งการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติ ท่านมา...สอน 'ราชาโยคะ' ให้มนุษย์กลับมามีอำนาจในการปกครองตนเองเปลี่ยนแปลงจิตสำนึกที่หยาบร่างกาย ซึ่งเป็นเหตุของกิเลส และความทุกข์ทั้งหลาย
ยุคแห่งภูมิปัญญาในการเปลี่ยนแปลงนี้ เรียกว่า
ยุคเพชร เชื่อมต่อระหว่าง ยุคเหล็กและยุคทอง ที่มีสิริมงคลที่สุด จากการ ได้รับความรู้ที่แท้จริง พ่อที่แท้จริง คุณประโยชน์ที่แท้จริง การจดจำระลึกถึงที่แท้จริง คุณธรรมที่แท้จริงและพลังอำนาจที่แท้จริง
อำนาจสัจจะนี้จะดึงดูดทุกดวงวิญญาณในที่สุด ผู้มีพลังของสัจจะย่อมมีชัยชนะเหนืออธรรมได้ในที่สุดแม้ขณะที่อยู่ในดินแดนของความหลอกลวง คุณประโยชน์ที่รับจากสัจจะ คือความสุขและความไม่ขลาดกลัว การพูดสัจจะ ...จึงมีความอ่อนหวานและถ่อมตน ..อันเป็นผลจากการรู้จักพ่อ ผู้เป็นสัจจะ...และรู้จักทุกสิ่งทั้งที่เป็นความจริงและสิ่งหลองลวง
“ลูกต้องอยู่อย่างถ่อมตนมาก ความหยิ่งยโสแม้เพียงน้อยนิด จะสร้างศัตรูมากขึ้น” ผู้ที่มีศัตรูจะมีความกลัว มีการปิดบังซ่อนเร้น และปกป้องตนเองด้วยความหลงทะนงตน หรือการยอมจำนน บางคนใช้ความก้าวร้าวรุนแรงเป็นอาวุธข่มขู่ผู้ที่อ่อนแอกว่า
บางคนใช้การกดข่มความรู้สึกเพราะตกเป็นเบี้ยล่างซึ่งอาจแสดงความอ่อนแอยอมแพ้เพื่อหวังผลประโยชน์ ตรงกันข้ามกันผู้ที่อ่อนหวาน อ่อนโยน จากความอ่อนน้อมถ่อมตน เพราะเห็นคุณค่าของทุกสิ่ง-ทุกคนนั้นมีความรัก ความเคารพตนเองและผู้อื่นอย่างแท้จริง
|