จดหมายข่าวฉบับที่ 40

วันที่ 22 มกราคม 2556

ถึงพี่น้อง ผู้รักสันติทุกท่าน
ในเดือนกันยายน เรามีโอกาสไปหมู่บ้านดรีมวัลเล่ย์ เขตตลิ่งชันเพื่อเชื่อมโยงสันติภาพและสุขภาพให้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่เห็นความสำคัญของการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือบุคลิกภาพที่เบี่ยงเบนจากธรรมชาติ จนทำให้เสียสุขภาพ ซึ่งเหตุและผลคือ การขาดสันติภาพภายใน ไม่มีความสงบของจิตใจ จึงจบลงที่การพึ่งพิงวัตถุและขาดสมดุลในการใช้ชีวิตเช่นที่ เด็กๆ ติดเกม ติดอุปกรณ์ของเล่น
อีเลคทรอนิคส์และเมื่อหันไปเห็นเด็กนั่งเล่นเกมใน iPad อยู่ข้างๆ จึงได้ทักอาการของโรคทางร่างกาย ซึ่งทุกคนต้องยอมรับจากพฤติกรรมจำเจ แม่ที่ซื้อของเล่นให้ต้องเสียอารมณ์เพราะห้ามยาก รวมถึง...การรับประทานอาหารของครอบครัวขณะที่ดูโทรทัศน์ที่ทำให้ระบบเคี้ยวอาหาร-ย่อยอาหารเสีย สมาธิเสีย มารยาทเสีย คุณภาพชีวิตเสีย... โดยสรุป การเสพติดทุกชนิดหรือการทำอะไรผิดเวลา นั้นให้โทษอย่างแน่นอน จึงต้องหันมาดูแลสภาพจิตให้สงบ พบกับความพอใจที่แท้จริง ไม่พึ่งพิงสิ่งใด จนสูญเสียทุกสิ่งในที่สุด ดังนั้นจึงต้องแก้ปัญหาได้ทันการ ก่อนที่จะต้องเสียเงินรักษาพยาบาลและใช้ยาที่ตามมาพร้อมผลข้างเคียงอีกมากมาย

น้องเก๋ผู้จัดรายการพิเศษครั้งนี้ให้ครอบครัวและญาติมิตรเล่าประสบการณ์ชีวิตที่กำลังปรับเปลี่ยน เพื่อตนเองและผู้อื่น


"ใครเป็นมนุษย์คนแรก? เกิดมาได้อย่างไร? เมื่อตายไปแล้ว จะเป็นอย่างไร? ไปอยู่ที่ไหน? สวรรค์หรือนรกเป็นอย่างไร? ทำความดี เมื่อตายไปจะได้ไปสู่นิพพาน นิพพานคือที่ไหน? ต้องทำความดีแบบไหน? สวดมนต์ทำสมาธิเพียงใดถึงจะได้ไปนิพพานและคนชาติอื่น ศาสนาอื่น เมื่อตายไปแล้วจะไปอยู่ที่เดียวกันหรือไม่? จนกระทั่งปี 2555 ได้รับความรู้หนึ่งผ่านพี่สาว ชื่อพี่ไก่ เธอได้ไปรับรู้และศึกษาเรื่องราวของสิ่งๆ หนึ่งมาดีมาก เป็นความรู้ที่ทำให้รู้ว่า เราเป็นใคร มาจากไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประโยคที่ว่า " เราคือดวงวิญญาณ เราคือจุดแห่งแสง เป็นอมตะ ไม่ตาย มีความบริสุทธิ์ ทรงอำนาจ และอยู่ตรงจุดกึ่งกลางระหว่างคิ้ว..." ทำให้รู้สึกเหมือนได้พบคำตอบที่ตนเองเคยสงสัยมาตั้งแต่ตอนเล็กๆ และยิ่งพิจารณาก็เห็นจริงเพราะไม่ว่าจะเป็นพิธีมงคล มักจะมีการเจิมหน้าผาก พระพุทธรูปจะมีเพชรพลอยหรือสีแต้มที่จุดกึ่งกลางหน้าผากระหว่างคิ้ว คนอินเดียก็แต้มสีที่บริเวณนี้เช่นกัน และก็อีกหลายประเด็นที่ทำให้สนใจและตัดสินใจเข้ามาศึกษาบทเรียนซึ่งเป็นความรู้ที่เป็นสัจจะ ทั้ง 7 บท ขอบคุณพี่สาวที่ได้แนะนำให้รู้จักบาบา พระเจ้า หรือGOD`


หลังจากรับบทเรียนและผ่านพิธีรับน้องเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2555 ในวันนั้นจำได้ว่าได้รับการ์ดจากพี่หล้าและในการ์ดนั้นบาบาต้องการบอกฉันว่า " จงเป็นของพ่อ พ่อได้จับตัวลูกไว้อีกครั้งหนึ่งในความรักที่ไม่มีวันสิ้นสุดของพ่อ" ฉันอ่านไปก็รู้สึกปลาบปลื้มอย่างบอกไม่ถูก อยู่ๆ น้ำตามันก็เอ่อคลอเบ้าและไหลรินอย่างซาบซึ้งใจ และในวันนั้นได้มีโอกาสฟังคำสอนของบาบาด้วยตัวฉันเอง จำได้ว่า ฉันพูดว่า "ฉันอยากเป็น LITTLE STAR ในสายตาของบาบา" นั่นก็คือ การได้อยู่และทำประโยชน์เพื่อพี่น้องของเรา มากกว่าจะมีชีวิตอยู่เพื่อร่างกายนี้ที่ไม่เป็นอมตะ ถึงเวลาก็เน่าเสียแล้วก็ล้มตายจากหายไป โดยไม่มีคุณประโยชน์อะไรใดๆ เลย แม้พืชก็ยังให้ออกซิเจนและเป็นอาหารให้แก่สิ่งมีชีวิต สรรพสัตว์ยังให้แรงงานให้ความสุข แล้วเราล่ะได้ให้สิ่งใดแก่ผู้อื่นบ้าง


หลังจากวันนั้น ฉันก็เริ่มจุดประกายความมุ่งมั่นกับตนเอง ว่า ฉันจะเป็นผู้หนึ่งที่ให้คุณประโยชน์แก่บุคคลอื่นซึ่งจุดเริ่มต้นของฉันก็ต้องพบอุปสรรคที่คนใกล้ตัวยังไม่รู้ ไม่เข้าใจจึงไม่สนับสนุน แต่ก็ไม่ได้ทำให้ท้อใจเพราะในใจคิดว่า เราอาจจะยังไม่สามารถปฏิบัติสิ่งเหล่านี้ได้ทันที แต่สิ่งสำคัญอยู่ที่จิตใจ...มุ่งมั่นที่จะกลับมาบริสุทธิ์และมีคุณธรรม จึงเริ่มต้นแบบค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะเรามีบาบาคอยบอกคอยช่วยเหลืออยู่ โดยใช้พี่สาวเป็นเครื่องมือ มีคอมพิวเตอร์ไว้คอยศึกษาข้อมูลของบาบา แต่สิ่งที่ทำได้เลยไม่ต้องรอเวลาหรือโอกาส คือการตระหนักรู้ว่าเราคือดวงวิญญาณ เราเป็นลูกใคร และพยายามกลับมาบริสุทธิ์และกระทำตนเพื่อเป็นคุณประโยชน์ต่อผู้อื่น แม้จะอยู่ในสถานะผู้ครองเรือน


ได้มีโอกาสทำงานรับใช้บาบาร่วมกับพี่ไก่ พี่หล้า พี่ศรี คุณน้ำฝน ป้าแมว และทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งล่าสุด เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2556 ณ ที่ทำงานโดยจัดประชุมลูกบ้านขึ้นให้ความรู้เรื่องการจัดตั้งสหกรณ์และนำกิจกรรมทำนายคุณธรรมและเกมบันไดงู มาส่งเสริมคุณธรรมให้กับสมาชิกในหมู่บ้าน สมาชิกส่วนใหญ่ก็แฮ็ปปี้ ตอบรับดี งานนี้ขอขอบคุณเครื่องมือบาบาทุกท่านคะ ที่ทำให้ได้พบความสุขอิ่มเอิบใจ ซึ่งเกิดจากการให้ในสิ่งที่ดี ไม่เจือปนด้วยกิเลสตัณหาหรือต้องการผลตอบแทน จึงเป็นความสุขที่ดีกว่าความสุขที่เกิดจากการเดินช็อบปิ้งซื้อของตามห้างต่างๆ เสียอีก กรุณาอย่าเชื่อจนกว่าคุณจะได้ลอง"(น้องเก๋...ผู้ดูแลโครงการบ้านดรีมวัลเลย์เขตตลิ่งชัน)


ชีวิตที่มุ่งมั่น เพื่อกลับคืนสู่ความบริสุทธิ์ และเป็นประโยชน์แก่มวลมนุษย์ ย่อมได้รับการช่วยเหลือจากบาบา ไม่ว่าในเรื่องส่วนตัว ครอบครัว อาชีพการงาน และการทำประโยชน์ต่อสังคม ในจังหวะเวลาที่เหมาะสม ครั้งนี้น้องเก๋อาจจะได้รับผลกรรมดีทันที เช่นสามารถขายบ้านในโครงการ ได้ด้วยเงินสดถึง 2 หลัง ฯลฯ แต่ผลกรรมระยะยาว ระยะสั้น นั้นก็รออยู่ ให้เรามุ่งมั่น ประกอบกรรมดีอย่างสม่ำเสมอ จนเป็นธรรมชาติที่ไม่ขึ้น-ลงกับการได้-การเสีย บาบามาสอนให้เข้าใจปรัชญาแห่งกรรมอันแสนจะลึกล้ำ เพื่อผลทันที ระยะสั้น ระยะยาว ด้วยเป้าหมายที่ทำให้ดวงวิญญาณอิ่มเต็มจากภายใน และกลายเป็นผู้ให้ที่เรียกว่า เทวาเทวี หรือเทพ ผู้ประทานทุกสิ่งให้ผู้อื่นสมปรารถนา เพราะได้ประกอบกรรมในนามของพระเจ้าผู้เป็นแหล่งความรู้ คุณธรรมและพลังทางจิต จึงมีคำกล่าวที่ว่า "ไม่มีอะไรขาดหายไปในคลังสมบัติของบราห์มิน" ผู้อยู่ในกระบวนการเปลี่ยนแปลงตนเองจากชนชั้น(ด้านจิตวิญญาณ) ต่ำสุดคือศูทรมาเป็นชนชั้นสูงสุดคือพราหมณ์หรือบราห์มิน(แปลว่า 'จุก'-Top Knot) เพื่อกลับกลายไปเป็นเทพ ในเวลาที่ทุกสิ่งเสื่อมถึงที่สุด พลังสูงสุดของพระเจ้า ผู้เป็นมหาสมุทรแห่งความรู้และความรักเท่านั้น ที่จะทำให้มนุษย์เล่นเกมตีลังกาจากจุดที่ต่ำสุดคือเท้าถึงจุดสูงสุดคือจุกบนศีรษะซึ่งหมายถึงความสามารถในการเอาชนะประสาทสัมผัส เอาชนะกิเลส เอาชนะวัตถุธาตุและเอาชนะโลก

พร้อมกันกับคุณแม่ น้องอาร์มี่ ลูกชายคนโตได้เขียนจดหมายมาเล่าประสบการณ์และแสดงความปรารถนาที่จะเป็นผู้นำที่ดีจึงขอให้พี่ฝนเล่าเหตุการณ์ที่กลับไปพบและสนทนากับน้องหลังจากได้ฉลองวันคริสต์มาสด้วยกันมา


"ผมชื่อ ด.ช.ภูวิศ วัฒนาทร เรียนอยู่ชั้น ป.5 โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี อายุ10 ขวบ เป็นลูกชายคนโตของแม่เก๋ และเป็นหลานของป้าไก่ ผมได้มีโอกาสเข้าร่วมทำกิจกรรมเกมบันไดงูกับน้องชายและเพื่อนๆ ผมชอบกิจกรรมเกมบันไดงูเพราะทำให้รู้จักความดีที่อยู่ในตัวเราหลายๆ อย่าง เช่น ความเป็นมิตร ความสดชื่นแจ่มใส ฯลฯ เมื่อไหร่ที่เกิดไปตกที่หัวงูก็ทำให้รู้ถึงนิสัยไม่ดีของตัวเอง และโตขึ้นผมอยากเป็นผู้นำที่ดี คือต้องมีความเสียสละ ต้องมีความอดทน ต้องมีความเมตตาและอยากให้เพื่อนมีโอกาสทำกิจกรรมกับผม เพื่อที่เพื่อนจะได้รู้จักกับบาบา ผมรู้สึกว่าบาบาเป็นเพื่อนของผม เพราะบาบาคอยช่วยเหลือผมอยู่เสมอเวลาผมเดือดร้อน การได้รับฟังเรื่องราวของบาบาจากป้าไก่ตลอด ทำให้ผมมีความรู้สึกรักบาบา" (น้องอาร์มี่)

"ฝนได้มีโอกาสพูดคุยกับน้องอาร์มี่เพิ่มเติมเพราะมีความรู้สึกประทับใจในจดหมายที่น้องอาร์มี่ได้เขียนถึงพ่อซานต้า ในงานคริสต์มาสที่จัดขึ้นที่มูลนิธิของเรา เมื่อปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา

น้องอาร์มี่ความต้องการจะเป็นผู้นำที่ดี เพียงอายุ 10 ขวบแต่สนใจในสิ่งที่ผู้ใหญ่ต้องการ เมื่อได้พูดคุยกันจึงรู้ว่า น้องอาร์มี่เป็นหัวหน้าห้อง และบอกเพิ่มว่าบางครั้งรู้สึกว่าตนเองไม่มั่นใจ รู้ว่าต้องมีความเป็นผู้นำมากขึ้น จึงต้องการให้บาบาสอน

คำตอบของน้องทำให้ฝนรู้สึกดีใจแทนคุณแม่เก๋และป้าไก่มากๆค่ะ เพราะเป็นการแสดงออกของความเป็นผู้นำที่แท้จริง...จะรู้สึกเสมอตนเองมีความรับผิดชอบในการดูแลผู้คนที่อยู่รอบข้าง

ความเป็นผู้นำทำให้ได้สำรวจตนเสมอและพยายามปิดช่องว่างของความบกพร่องภายใน เพราะจะคิดเสมอว่า ตนเองนั้นต้องการช่วยเหลือหรือส่งเสริมทุกคน

ฝนขอตอบน้องอาร์มี่จากบางคติพจน์ที่มาจากคำสอนโดยตรงของบาบา
  1. สิ่งใดที่ฉันทำ ผู้อื่นเห็นฉันจะทำตาม หมายความว่า ผู้นำที่ดีนั้นมีความรับผิดชอบต่อทุกสิ่ง ทุกคนที่อยู่รอบข้างตนเอง หากเหตุการณ์ใดที่ต้องการแก้ไขหรือมีผู้คนต้องการได้รับการช่วยเหลือ ผู้นำที่ดีจะเสนอตนเองที่จะช่วยเหลือโดยไม่รั้งรอให้ผู้อื่นทำก่อนหรือต้องมีการขอร้องให้ทำและจะไม่กล่าวโทษผู้ที่สร้างปัญหานั้น แต่กลับช่วยเหลือให้สถานการณ์ดีขึ้นหรือแก้ปัญหาให้ยุติได้ด้วยดี ในที่สุดเมื่อผู้อื่นเห็นเรา เขาจะได้รับแรงบันดาลใจที่จะทำตาม
  2. ให้โอกาสผู้อื่นก่อนเสมอ(You First) ผู้นำที่ดีมีความถ่อมตนและความเคารพ โดยให้ผู้อื่นได้แสดงความคิดเห็นหรือได้รับโอกาสก่อน เพราะการให้คือการได้รับ
  3. คงสมดุลระหว่างความเป็นเด็กและความเป็นนาย หมายถึง เป็นนายในการแสดงความคิดเห็นหรือแก้ไขปัญหาและเป็นเด็กในการรับฟังผู้คนที่ให้คำแนะนำอย่างเปิดกว้างและเคารพในการตัดสินของที่ประชุมหรือคนส่วนใหญ่ โดยไม่ยึดกับความคิดเห็นของตนเท่านั้น

    แค่ 3คติพจน์นี้ หากน้องอาร์มี่ได้นำไปปรับในการอยู่กับเพื่อนหรือคุณครูที่โรงเรียน ก็จะเป็นที่รัก ได้รับความสำเร็จในทุกงาน และได้รับความร่วมมือของจากทุกคนอย่างแน่นอน"(พี่ฝน)

    หวังว่าน้องจะมีโอกาสมาเรียนรู้อย่างเต็มรูปแบบ เช่นหลายๆ ครอบครัวได้พาลูกหลานไปเรียนที่ศูนย์ต่างๆภายในประเทศและได้ไปที่สำนักงานใหญ่ เพื่อร่วมรายการกับพี่น้องชาวต่างชาติทั่วโลกสำหรับการพัฒนา ความเป็นผู้นำด้านจิตวิญญาณ ตามข่าวและภาพที่ส่งมาของสมาชิกจากประเทศไทย
    ทิวทัศน์ Gyan Sarovar

    รีทรีทของเด็กนานาชาติ ครั้งที่ 15 International Children's Retreat
    ระหว่างวันที่ 26 ธ.ค. - 30 ธ.ค. 2555 ที่ Gyan Sarovar มีการจัดรีทรีท ในหัวข้อ Holy Swans หรือ หงส์ที่สูงส่งสำหรับเด็กอายุ 5-12 ปี จำนวน 26 คนจาก 13 ประเทศและมีอาสาสมัคร 9 คนจาก 5 ประเทศเป็นผู้นำเด็ก ๆ ทำกิจกรรม ซึ่งเริ่มในเวลา 6.30 น. ทุกเช้าด้วยการนั่งโยคะเป็นเวลา 15 นาที ออกกำลังกาย ฟังเมอร์ลีและไตร่ตรองประเด็นร่วมกัน กิจกรรมระหว่างวัน เปลี่ยนไปตามหัวข้อแตกต่างกันไป เช่น วันแห่งมิตรภาพ วันแห่งความสง่างาม วันแห่งความปรารถนาดี และวันแห่งความตื่นเต้น เด็ก ๆ ได้รับความรู้เกี่ยวกับคุณธรรมของหงส์และโดยมีบทเรียนจาก seniors


    ในวันสุดท้าย เด็ก ๆ ได้แบ่งปันประสบการณ์และประโยชน์ที่ได้รับในครั้งนี้ จบลงด้วยการแสดงทางวัฒนธรรม เป็นความสวยงามที่ได้เห็นเด็ก ๆ จากพื้นฐานของวัฒนธรรมต่างๆที่เข้ากันได้อย่างดีและสร้างมิตรภาพต่อกันอย่างง่ายดายเช่นเดียวกับลูกของบาบาวัยอื่น ๆ ที่จากหายไปนานและได้พบพานอีกครั้ง

    ประสบการณ์ ของ Sr.Sheetal(แม่ที่พาลูกทั้งสองไป)

    น้อง Veeral กับเพื่อน

    "การเดินทางไปมธุบานของฉันก็ดีมากเหมือนทุกครั้ง ฉันรักความใกล้ชิดกับบาบาที่รู้สึกได้ในมธุบาน ฉันมีโอกาสได้เข้าร่วม 'รีทรีทของพ่อแม่' (Parents' retreat) ที่ได้ช่วยฉันอย่างมากจากหนึ่งปีที่ผ่านมาที่ฉันรู้สึกว่าได้สูญเสียความสมดุลทุกอย่างในการใช้ชีวิต ตอนนี้ฉันรู้สึกกลับมาสดชื่นและได้รับการเติมเต็มพลังจากความรักและความช่วยเหลือของบาบา การที่ได้พาลูกทั้ง 2 คนไปในครั้งนี้ก็เป็นพรที่ทำให้ทุกวันนี้ทั้ง 2 คนเข้าใจบาบาและการใช้ชีวิตของ บราห์มินมากขึ้น"

    ประสบการณ์ของ น้อง Nameesha(11ขวบ)
    น้อง Nameeshaมีความสุขอยู่ท่ามกลางเพื่อนๆ

    "สิ่งที่ฉันชอบมากเกี่ยวกับมธุบานคือการที่ทุกคนใจดีและน่ารักมาก ฉันชอบรีทรีทของเด็กๆ (Children's retreat) และได้รับความสนุกสนานมาก ที่ชอบที่สุดคือกิจกรรมต่าง ๆ ที่เราได้ทำเพราะสนุกและได้ความรู้ 3 สิ่งที่ฉันชอบมากก็คือ
    1. เราได้เล่นเกมหาสมบัติที่เป็นพรของบาบานั่นเอง
    2. ฉันชอบการนั่งโยคะทุกวันในเวลา 1 ทุ่มถึง 1ทุ่มครึ่ง
    3. ฉันได้มีโอกาสแสดงกิจกรรมทางวัฒนธรรมและได้เป็นผู้ดำเนินเรื่องในการแสดงละครสั้น
    ฉันได้พบเพื่อนใหม่ อาหารที่นั่นและการอำนวยความสะดวกทุกอย่างเป็นไปอย่างดีมาก ฉันหวังว่าจะได้กลับไปที่มธุบานอีกครั้ง"

    รีทรีทของเยาวชนนานาชาติ ครั้งที่ 17(International Youth Retreat)
    ระหว่างวันที่ 26 ธ.ค. -30 ธ.ค. 2555 ที่ Gyan Sarovar มีเยาวชนอายุ 13-35 ปี 84 คนจากหลากหลายประเทศจากยุโรป อเมริกา เอเชียแปซิฟิก แอฟริกา ละตินอเมริกา เข้าร่วม Retreat หัวข้อ Wonder of me หรือ ความอัศจรรย์ในตนเอง ทุกวันเริ่มเวลาตี 4 มีการนั่งโยคะและอีกครั้งเวลา 6.30 นก่อนฟังเมอร์ลีในเวลา 7.00 น.จะมีการเดินในความสงบไปยังสถานที่ธรรมชาติ เช่น ภูเขา ลำธาร ที่อยู่รอบ ๆ Gyan Sarovar เป็นการออกกำลังกายและเริ่มต้นวันใหม่ด้วยความสงบ เวลา 10.00 น.เริ่มด้วยการไตร่ตรองประเด็นเมอร์ลี แต่ละวันเปลี่ยนกิจกรรมเพื่อให้เยาวชนได้เห็นความอัศจรรย์ของคุณธรรมภายในตนเอง ยกย่องและนำคุณธรรมนั้นมาใช้พร้อมศักยภาพที่มีสำหรับช่วยเหลือสังคมทางจิต กิจกรรมกลุ่มคือ การนำความรู้ที่ได้รับมาสรุปเป็นกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ เช่น แต่งเพลง แสดงละคร เขียนบทกลอน seniors มาบรรยายให้ความรู้และแบ่งปันประสบการณ์ในการนำราชาโยคะและศักยภาพของแต่ละคนมาใช้เพื่อให้ประโยชน์ เป็นโอกาสให้ทุกคนได้ถามคำถามเพื่อพัฒนาตนเอง

    มีการแสดงทางวัฒนธรรมพร้อมกับรับประทานอาหารเย็นนานาชาติร่วมกัน และวันสุดท้าย ทุกคนได้แบ่งปันประสบการณ์ที่มีค่าอย่างมาก ในครั้งนี้ตัวแทนเยาวชนจากบางประเทศได้แบ่งปันเกี่ยวกับกิจกรรมของเยาวชนที่ได้จัดไปแล้วและมีแผนการที่จะจัดขึ้นในอนาคต

    ประสบการณ์ของมีมี่
    ครั้งนี้เป็นประสบการณ์ที่พิเศษสำหรับฉัน เพราะเป็นการเข้า รีทรีท ครั้งแรกที่มธุบานและได้ร่วมกิจกรรมกับเยาวชนจากหลายประเทศเหมือนตอนศึกษาอยู่ในระดับมหาวิทยาลัย เมื่อฉันเปิดใจรับฟังประสบการณ์จากทุก ๆ คน

    เห็นคุณธรรมในผู้อื่นและตระหนักว่าแต่ละคนมีความพิเศษที่แตกต่างกันไปที่จะนำมาใช้ในการให้ประโยชน์ต่อโลก ฉันเชื่อว่าก่อนที่เราจะให้ประโยชน์กับผู้อื่นได้นั้น เราจะต้องมองเห็นคุณสมบัติภายในของตนเอง และใช้ความถนัดที่เรามี ให้ความร่วมมือในงานรับใช้ช่วยเหลือสังคมทางจิตให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี การที่เยาวชนจากต่างเชื้อชาติและวัฒนธรรมได้เข้ามาทำกิจกรรมและใช้ชิวิตอยู่ร่วมกัน เป็นการฝึกฝนให้เกิดความสอดคล้องกลมกลืน ฉันได้พบเพื่อนใหม่ ได้เรียนรู้และยกย่องความงดงามทางจิตวิญญาณของทุกคนทั้งที่อายุน้อยกว่า มากกว่าหรือเท่ากัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับพระเจ้าผ่านเมอร์ลีและตระหนักถึงบทบาทที่เราจะต้องเป็นเครื่องมือของท่านในการเปลี่ยนแปลงโลกไปในทางที่ดีขึ้น

    สายตาและทัศนคติที่มีต่อผู้อื่นจะสูงส่งเมื่อมองเห็นทุกคนเป็นพี่น้อง การอยู่ร่วมกันจึงเป็นไปธรรมชาติเหมือนเราได้ใช้เวลาอยู่กับครอบครัว กิจกรรมที่เยาวชนนำเสนอบ่งบอกถึงพลังของเยาวชนที่มีความสำคัญและสามารถสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ มากมายให้เกิดขึ้นได้ ฉันได้รับแรงบันดาลใจจากการเข้า รีทรีท ครั้งนี้อย่างมาก สิ่งที่สำคัญที่สุดคือฉันเรียนรู้ที่จะมีความเคารพตนเองและมองเห็นคุณสมบัติภายในที่สามารถนำมาใช้ในการจัดกิจกรรมเพื่อให้ประโยชน์กับเยาวชนในประเทศไทยได้ หากมีโอกาสฉันก็มีความตั้งใจที่จะเข้าร่วม รีทรีท ในครั้งต่อ ๆ ไป"

    เราเห็นน้องมีมี่โบกมือให้กล้องเพราะรู้ว่าพี่น้องที่ศูนย์เมืองไทยกำลังจับจ้องมองหาอยู่ในการถ่ายทอดสดทั่วโลกเพื่อสัมผัสกระแสของการชุมนุมที่ศักดิ์สิทธิ์เบื้องหน้าบาบา...ยิ่งกว่านั้นเราทุกคนรู้ว่า บาบากำลังมองดูอยู่ทุกขณะ เช่นที่กล่าวว่า "ไม่สามารถซ่อนเร้นสิ่งใดได้เบื้องหน้าผู้เป็นสัจจะ"



© 2024 Brahma Kumaris Thailand. All rights reserved.