วันที่ 14 มกราคม 2556

"7-8-9 ธันวา 2555 40 BK จากศูนย์พินทุและศูนย์นนทบุรี มาอยู่ร่วมกันในบรรยากาศของความรัก ความร่วมมือ และการดูแลเอาใจใส่ ในพื้นที่ฟาร์มเห็ดของ B.K.Kata ท่ามกลางธรรมชาติที่งดงามของขุนเขา เรานอนเต้นท์ กินอาหารที่ทำง่ายๆ สนุกสนานไปกับเกมในตอนกลางวัน สุขสันต์หรรษาไปกับโชว์ตระการตาในตอนกลางคืน รวมถึงกิจกรรมที่ทำให้เรารู้จักกัน รู้ค่าของกันและกันมากขึ้น" (น้องสา) ระหว่างวันที่ 6 ถึง 8 ธันวาคม พี่หล้า พี่ศรี พี่ธร น้องฝนไปร่วมรายการที่บ้านพินทุจัดที่วังน้ำเขียว ได้รวมญาติ ได้ไตร่ตรองประเด็นเมอร์ลี มีการชมภาพยนต์ที่ตัดต่อมาเพื่อเตรียมพร้อม เวลา วิกฤต พี่หล้าจึงอำลาน้องๆ ด้วยการอ่านบันทึกเกี่ยวกับสภาพสุดท้าย(Final Stage) ที่ Baba ทำให้เห็นภาพของลูก ที่เพียรพยายามอย่างดี มีความพร้อม ซึ่งพี่หล้าได้รับเป็นของขวัญในรายการ Silent Retreat ร่วมกับกลุ่มผู้แทนประเทศและดาดี้แจงกี ในปี 2010 ที่ ORC เดลลี โดยสรุปคือ... The Ultimate stage สภาวะสูงสุด The stage of perfection and consummation สภาพของความสมบูรณ์พร้อมและความสำเร็จบริบูรณ์ The Stage of absolute power สภาพของการมีพลังอำนาจถึงที่สุด ลูกจะมีประสบการณ์ว่าตนเองคือผู้ทรงอำนาจ(The Master Almighty) ผู้เป็นเจ้าสมุทรแห่งความรู้ เต็มเปี่ยมไปด้วยทุกคุณธรรม ลูกจะรู้สึกว่าตนเองเป็นผู้สังเกตการณ์อย่างสม่ำเสมอ ในทุกความคิด ทุกลมหายใจ และทุกวินาที ลูกจะพบว่าตนเองเป็นมิตรร่วมทางชีวิตของพระเจ้าที่จะมีประสบการณ์ของความร่วมมือจากดวงวิญญาณที่สูงส่ง ลูกจะสามารถติดต่อกับดวงวิญญาณที่อยู่ไกลห่าง เขาจะปรากฏอยู่เบื้องหน้าลูกโดยไม่ต้องพยายาม ด้วยความรู้สึกว่าเป็นดวงวิญญาณไม่ใช่ร่างกาย ลูกจะมีเพียงตนเองและพระเจ้า ในความทรงจำอย่างเป็นธรรมชาติ ดวงตาของลูก คือ สื่อแสดงออกซึ่งตัวตนที่แท้จริงแทนที่จะเป็นเสียง...นี่คือสิ่งที่เรียกว่าสติปัญญาที่กระจ่างชัด ลูกจะมีประสบการณ์ของความสำเร็จบ่อยครั้ง ในการทำสิ่งต่างๆ ด้วยความคิด ทำให้มีความสำเร็จอย่างสมบูรณ์ในการจัดการบริหารผู้คน ลูกจะเปลี่ยนสันสการ์ดวงวิญญาณที่ใกล้ตัวใกล้ใจและทำให้งานเสร็จสิ้น.ซึ่งก่อนนั้นไม่มีความสำเร็จ ลูกจะเป็นเครื่องมือให้ทานประสบการณ์แก่ดวงวิญญาณที่อ่อนแอในเวลาสุดท้าย ในฐานะนักบุญ ลูกจะถูกดึงดูดเข้าไปสู่สภาพที่อยู่เหนือเสียงได้อย่างง่ายดาย เมื่อมีการฝึกฝนที่จะลดการเข้ามาสู่เสียง ลูกจะทำให้ดวงวิญญาณสมปรารถนาด้วยความคิดที่มีพลัง เส้นทางก่อนถึงจุดหมาย เราได้แวะสวัสดีปีใหม่พี่ชู(คุณชูศักดิ์ จามรมาน) ผู้เป็นหนึ่งในสถาปนิกออกแบบสนามกอล์ฟ 'Toscana' ที่ร่ำลือว่าสามารถเสพความงามและโอโซนเยี่ยมยอดในประเทศไทย เราได้รับเกร็ดความรู้ด้านสถาปัตยกรรมที่ให้ความสงบว่า เส้นสายของสิ่งสร้างในแนวนอนนั้นให้ความรู้สึกสงบเป็นธรรมชาติมากกว่าแนวดิ่งหรือการมีมุมตัดเอียง จึงมีโอกาส......ถามถึงอิทธิพลของการสร้างห้องสมาธิรูปแบบต่างๆ และประสบการณ์ของความสงบที่พี่ชูได้รับในห้องสมาธิรูประฆังคว่ำหรือรูปโดมที่ Gyan Sarovar บนภูเขาอาบูที่คนส่วนใหญ่ได้รับพลังเป็นพิเศษ พี่ชูได้รับมอบดวงดาวแห่ง 'การรู้คุณ' (Star of Gratitude) และพูดถึงคุณสมบัตินี้ในมุมที่สามารถมองทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตอย่างเป็นธรรม ด้วยธรรมชาติของความเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่ทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่พร้อมที่จะยอมรับและให้อภัย จึงมีคำตอบสำหรับคำถาม... ท่านรู้คุณในสิ่งใดมากที่สุด? พลังสมาธิใน...บ้านที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถให้ความสงบสุขและความรัก ทิวทัศน์ของสนามกอล์ฟ อากาศบริสุทธิ์จากโอโซนและบรรยากาศที่ธรรมชาติของ วัตถุธาตุมีส่วนเสริม ทำให้นึกถึงประสบการณ์ของตนเองในอดีตที่ใช้เวลาอยู่ในสนามกอล์ฟอย่างมาก กอล์ฟเป็นกีฬาที่แข่งกับตนเองได้ดีที่สุด มีความสงบภายในที่ธรรมชาติรอบข้างเป็นใจโดยไม่ต้องสนทนาพาทีกับใคร โดยทั่วไปผู้เล่นใช้สติควบคุมอารมณ์ให้เกิดสมาธิ และความสามารถในการวางแผนที่จะหลีกเลี่ยงอุปสรรคไม่มีความเร็ว ความแรงหรือการใช้กำลังและการหลอกล่อใคร ท่ามกลางขุนเขาและความเขียวชอุ่มในที่โล่งกว้างสุดสายตาหรือบริเวณริมทะเล แม้กระทั่งในทะเลทรายที่ได้เนรมิตสนามกอล์ฟกันขึ้นมา เวลานี้มีโอกาสกลับเข้าหาโลกภายใน ใช้ธรรมชาติของจิตใจ สร้างความคิด กำหนดทิศทางชีวิตจึงสัมผัสอิสรภาพที่แท้จริงโดยไม่ต้องอาศัยสถานที่ บุคคล หรืออุปกรณ์ใดๆภายนอกเพราะโลกภายในจิตใจเกิดจากความคิดและจินตนาการ(ไม่ใช่การเพ้อฝัน)ที่มาจากฐานของสัจธรรมและธรรมชาติที่งดงามของทุกชีวิต จึงเรียกว่าบ้านอันศักดิ์สิทธิ์หรือวิหารแห่งพลังชีวิตที่สามารถอยู่เหนือมลพิษของความคิดที่ไร้ประโยชน์ใดๆ การมีสมาธิกับเป้าหมาย(ธงประจำหลุม)ในแต่ละครั้งที่ตีลูกกอล์ฟไปใกล้-ไกล ตามระยะทางของแต่ละหลุมด้วยศิลปะและทักษะในการใช้ไม้กอล์ฟ บวกกับการออกแบบสนามกอล์ฟให้มีการผจญภัย ต้องข้ามพ้นอุปสรรคต่างๆ เช่นหลุมทราย บ่อน้ำ เนิน ความเอียงลาดรวมทั้งความงามของสิ่งแวดล้อมที่จัดสรร เชิญชวนให้ชื่นชมกับทิวทัศน์ข้างทาง ขณะที่ผู้เล่นต้องทำแต้มจนถึงหลุมสุดท้าย ยิ่งมีการพนันขันต่อ กีฬานี้ไม่สามารถจรรโลงจิตใจให้เป็นอิสระ อาจมีความสนุกสนานกับเพื่อนในกลุ่ม มีความหวังกับผลรางวัลก้อนใหญ่ใน Tournament…และที่สำคัญที่สุด คือ มีความกลัว เสียหน้า กลัวแพ้ นั่นคือ การแพ้ตนเอง ดังนั้น ในชีวิตจริงที่ต้องเผชิญกับปัญหาและสภาวะต่างๆภายนอก แต่จิตใจจดจ่ออยู่กับเป้าหมายในการมีชัยชนะเหนือตนเอง นั่นคือการท้าทายอย่างแท้จริงในการทำให้ชีวิตมีสมดุลของความจริงจังและความสนุกสนานโดยไม่ตกภายใต้อิทธิพลใดๆ จึงมีคำถามว่า เราจะอยู่อย่างไรในโลกโดยไม่กวัดแกว่ง ตกใจ หรือถูกชกจนหงายท้อง? เราจะสามารถอยู่ในโลกได้อย่างไรและให้แก่โลกได้อย่างใจกว้าง (Generosity) และรู้ค่ารู้คุณ(Gratitude) โดยไม่เคืองขุ่น เมื่อไม่ได้รับการตอบแทนอย่างสมค่า? เราจะสามารถเดินอย่างสง่าผ่าเผยได้อย่างไร ในแต่ละย่างก้าวของชีวิต และเป็นอิสระจากความไม่พอใจหรือความเป็นศัตรูต่อผู้ใด ต่อสิ่งใดที่พานพบ? ดูเหมือนจะมีคำตอบที่ง่าย สำหรับคำถามเหล่านั้น เนื่องจากเราได้รับบทเรียนมาแล้วในความผิดเดียวกัน นั่นคือการสร้างทัศนคติของการเรียนรู้(Attitude of Learning) อย่างไม่มีที่สิ้นสุด จนกระทั่ง เราสามารถกลายเป็นนายเหนือตนเองได้ ทัศนคติ(Attitude)คืออะไร? ...เราหล่อเลี้ยงทุกวินาที ทุกการเคลื่อนไหว ทุกลมหายใจของชีวิต ด้วยทัศนคติที่จับต้องไม่ได้ ไม่มีขอบเขตใดๆ กระจายออกไปจากเราแต่ละคน ทุกขณะกลายเป็นลายเซ็นที่มองไม่เห็น...จารึกไว้ในใจ ในความทรงจำในบรรยากาศที่เรารับรู้...ไม่ว่าเราจะเป็นใคร อยู่ ณ ที่ใด... ...เราเป็นเช่นที่เราคิด เราอยู่ในบรรยากาศที่เราสร้าง...ด้วยทัศนคติของเราเอง ...เรากำลังรับและส่ง 'ทัศนคติ' จากผู้ที่อยู่รอบข้างอย่างสม่ำเสมอ พลังงานที่มองไม่เห็นนี้ รู้สึกได้ไกล และกว้างกลายเป็นกระแสจิตที่มีผลต่อบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมที่อยู่ล้อมรอบตนเอง...ทั้งที่ดีมีความเป็นบวก มีพลังการสร้างสรรค์หรือที่ร้ายมีความเป็นลบ มีพลังการทำลาย จากความขัดแย้งภายในกับธรรมชาติที่ดีงามดั้งเดิมของตน แม้ว่าเราอาจจะไม่ได้สังเกต...ทัศนคตินั้นเองคือหัวใจของทุกสิ่งที่เราพูด เราทำ ผู้คนส่วนใหญ่จึงตกภายใต้อิทธิพลของสิ่งภายนอกได้ง่ายเพราะไม่สามารถควบคุม ความคิด ความรู้สึก และทัศนคติที่มาจากจิตสำนึกที่ลึกล้ำของตนได้ ดังนั้นเราจึงต้องเข้าสู่กระบวนการเรียนรู้ให้เกิดความเข้าใจว่าตัวตนที่แท้จริงคือใคร เพื่ออยู่เหนืออิทธิพลของความทรงจำ ประสบการณ์ และความเชื่อในอดีต เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตขึ้นมาด้วยการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับทุกคน ตามสมการที่ว่า ทัศนคติ(attitude) + วิญญาณในการเรียนรู้(aptitude) = ความรู้สึกขอบคุณ(gratitude) --> การยกระดับจิตวิญญาณ(altitude) ทัศนคติของความปราณี เกิดจาก การให้ความรักที่บริสุทธิ์แก่ทุกคนด้วยแรงจูงใจที่ไม่เห็นแก่ตัว ทัศนคติของความเมตตา เกิดจาก การมอบความปรารถนาดีและความรู้สึกที่บริสุทธิ์แก่ผู้ที่มีความทุกข์ยาก ทัศนคติของความกรุณา เกิดจาก การเห็นคุณธรรม และมองข้ามความอ่อนแอ ทัศนคติของการให้อภัย เกิดจาก การให้พรและยกระดับผู้ที่ประณาม ทัศนคติของความถ่อมตน และความเคารพตนเอง           เกิดจาก ความร่วมมือและความอดทนต่อสถานการณ์ที่แม้ว่าผู้อื่นจะไม่รู้ค่า ด้วยความรู้ทางจิตที่สร้างสำนึกเป็นดวงวิญญาณ ไม่ใช่ร่างกายที่สูญสลาย บราห์มา กุมารีได้ปลูกฝังทัศนคติของการเป็นพี่น้อง(Attitude of brotherhood) และทัศนคติที่ให้คุณประโยชน์(Attitude of benevolence) นี่คือกระบวนการพัฒนาศักยภาพภายใน(Inner Potential) ด้วยความเข้าใจอย่างลึกล้ำว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตนั้น เป็นสิ่งที่ให้คุณประโยชน์(Everything is beneficial) ในยุคของการบรรจบกันที่ให้คุณประโยชน์(Beneficial Confluence Age) บทเรียนต่างๆในชีวิตได้สอนให้เราเติบโตเข้มแข็งโดยไม่มีการแข่งขันรบรากับใคร มีประสบการณ์ ของความอิ่มเต็มภายในจึงเกิดการละวาง ด้วยทัศนคติของการวางเฉยอย่างไม่มีขีดจำกัด(Attitude of Unlimited Disinterest )และทัศนคติของการรู้ค่ารู้คุณ(Attitude of Gratitude) ต่อทุกสิ่ง และทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิต อันส่งผลต่อการเจริญเติบโตทางจิตวิญญาณ...มีชีวิตที่คงอยู่ตลอดกาล เป็นอิสระจากภายใน ไม่ว่าจะอยู่กับใคร ที่ไหน ทำอะไร...จงเป็นศูนย์กลางของการกระจายกระแสจิตที่ยกระดับจิตวิญญาณผู้อื่น