ชีวิตขึ้นอยู่กับ 'การจดจำ' และ 'การหลงลืม' หากเราจดจำระลึกถึงคุณความดี ชีวิตก็มีความสุข แต่เมื่อหลงลืมความดี ชีวิตก็ไร้ค่า ไม่สามารถลืมอดีต เพื่อก้าวไปสู่อนาคต บนฐานของปัจจุบันที่มั่นคง มั่นใจ ในการเยียวยาหัวใจ และจิตวิญญาณอย่างกล้าหาญ

พี่หล้า กล่าวถึงวันแห่งการจดจำระลึกของโลก กำหนดโดยองค์การสหประชาชาติซึ่งตรงกับวันเกิด จึงขอบคุณโอกาสทองของทุกคนที่ได้รวมตัวกันเพื่อโลกด้วย การจดจำระลึกถึงสิ่งสูงสุด และความดีงามของผู้ที่ยังอยู่และผู้ที่จากไป พี่น้องทางจิตได้มาพบกันตั้งแต่อมฤตเวลา ตี 4 ถึง 4 ทุ่ม เพื่อเน้นความสำคัญของชีวิตทางจิตวิญญาณที่สามารถให้ทานชีวิตแก่ทุกคนที่พานพบ
การเกิด... คือเวลาเดียวในชีวิตเมื่อลูกร้องไห้และแม่ยิ้ม... จากความรู้สึกของผู้สร้างต่อสิ่งสร้าง ทารกอาจจะลาจากครรภ์มารดา ขณะที่มารดาตั้งตารอคอยที่จะอุ้มนางฟ้าน้อยๆ ไว้ในอ้อมแขน

กราบขอบพระคุณมารดาผู้ให้กำเนิดร่างนี้มาด้วยความภาคภูมิใจ แม้ท่านจะอยู่ในวัย 88 ปีแล้ว ก็ยังโทรศัพท์มาอวยพรทุกวันที่ 17 พฤศจิกายนตรงเวลาเกิด... 8 นาฬิกา ... “ลูกเกิดมาใช้เวลาเพียง 2 นาที ที่แม่ไม่รู้สึกเจ็บปวดเลย” เตือนใจให้ระลึกถึงหน้าที่ของการเป็นมนุษย์ที่ต้องไม่ให้และรับความทุกข์ ...

การตอบแทนผู้ให้กำเนิดคือการเกิดใหม่ทางจิต ด้วยการใช้ชีวิตด้านจิตวิญญาณอย่างมีค่าที่สุดสำหรับสิ่งสูงสุดและมวลมนุษย์ ขณะที่มีการเตรียมพร้อมที่จะจากร่างและโลกอย่างสงบสุข
... ทุกชีวิตมีบทบาทในละครโลกที่พิเศษสุด สามารถเลือกที่จะมีอิทธิพลต่อโลกนี้ด้วยความคิดและการกระทำของตน...แต่ละคน จึงสร้างเรื่องราวชีวิต ครอบครัว ชุมนุมและโลก ...ด้วยเป้าหมายของตน
... แต่ละครอบครัวมีการเดินทางไปสู่ความฝันที่ปรารถนา ด้วยความเพียรพยายามร่วมกันใน ความสัมพันธ์ที่เป็นสุขและการท้าทายหลายรูปแบบ เมื่อต้องหยุดลงกลางครันทันทีทันใด ความจริงนั้นเกินกว่าจะรับได้ขณะที่ยังมีสายใยเกี่ยวโยงกันอย่างดี จากการได้รับข่าวที่สมาชิกครอบครัวต้องจากไปในอุบัติเหตุบนท้องถนน ...ซึ่งมากขึ้นทุกวัน ทุกแห่งหนทั่วโลก

The sirens are ringing. “IT’S TIME FOR ACTION”
เสียงไซเรนดังก้อง
“ถึงเวลาแล้วที่ต้องทำอะไรบางสิ่ง”
สำหรับผู้รอดชีวิต ผู้ประสบภัย และครอบครัวของเขาทั้งหมดเพื่อได้รับคุณประโยชน์จากครอบครัวทางจิตของโลก

“Remember me” says God ... Let there be ‘TRAFFIC CONTROL’ of the mind
พระเจ้าพูด “จดจำพ่อ”... ขอให้มีการควบคุมการจราจรของจิตใจ โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ในใจตนและจดจำพ่อสูงสุด เพื่อเกิดพละกำลังทางจิต ที่สามารถแยกแยะได้ว่าอะไรคือความปลอดภัย-ไม่ปลอดภัย อะไรคือ ความเสี่ยง-ไม่เสี่ยง จงชัดเจนก่อนกระทำการใดๆ หากเราสามารถจดจ่อได้เสมอว่าอะไรถูกต้องในเวลาที่ถูกต้อง เราจะให้พรแก่ตนเองในทุกขณะ นี่คือการมีสำนึกรู้จากภายใน...

Spirituality teaches the process of cultivating right awareness
พลังของจิตวิญญาณสอน
กระบวนการปลูกฝังสำนึกที่ถูกต้อง
ที่นำไปสู่การคิดที่กระจ่าง ความรู้สึกที่ชัดเจนและการกระทำที่มั่นใจ นี่คือการศึกษาทางจิตที่เป็นรากฐานสำคัญในการสร้างสังคมที่มีการขับขี่พาหนะด้วยความรับผิดชอบ การใช้เส้นทางที่เคารพกฎหมาย มีนักวางแผนที่เห็นการณ์ไกล มีผู้รับเหมาก่อสร้างถนนและวิศวกรที่ซื่อสัตย์ มีการใช้สิทธิ์การจราจรที่ถูกต้อง ... และมีจิตใจที่สงบสำหรับถนนที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น

ขอบคุณสำหรับการเกิดทางร่างกายซึ่งส่งผลให้มีการเกิดทางจิตที่เต็มไปด้วยความหมายอันลึกล้ำของการตายขณะที่มีชีวิต... ตายจากสำนึกที่เป็นเพียงร่างกาย... ฉันคือดวงวิญญาณ... ชีวิตที่เป็นอมตะ

ดอกกุหลาบทางจิต
คือผู้ที่เฝ้าแต่กระจายกลิ่นหอมของความผ่องแผ้วภายในออกสู่บรรยากาศภายนอก ด้วยทัศนคติทางจิต
ความคิดและความรู้สึก คือพื้นฐานของการสื่อสารของมนุษย์ ดังนั้นกระแสจิตที่ละเอียดอ่อน และเต็มไปด้วยความปรารถนาดี มีเมตตา ย่อมทำให้ผู้อื่นสัมผัสได้และมีอิทธิพลต่อวัตถุธาตุอย่างสม่ำเสมอ แม้ว่าผู้ที่เรารักได้จากไปเล่นบทบาทใหม่บนเส้นทางชีวิตที่ต้องดำเนินต่อไป
ในสภาพที่สงบเยือกเย็นภายใน เราสามารถรู้สึกถึงชีวิตที่คงอยู่ตลอดไปของเขา และมอบของขวัญที่ดีที่สุดของกระแสจิตที่มีความสงบ ความรัก ความกล้าหาญ และความเป็นบวก ผู้ที่ประสบอุบัติเหตุและเผชิญกับปัญหาต่างๆ จำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือจากกระแสจิตแห่งความหวังและความกล้าหาญของเราร่วมกัน รวมทั้งผู้รอดชีวิต และญาติมิตรของเขาทั้งหมด ก็ควรจะได้รับคุณประโยชน์จากความปรารถนาดีของครอบครัวทางจิตทั่วโลก เพราะกระแสจิตนั้นส่งผลถึงกันทั่วทั้งจักรวาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราจดจำระลึกถึงสิ่งสูงสุด พ่อสูงสุด ผู้เป็นมหาสมุทรของความรู้ ของคุณธรรม และพลังอำนาจทางจิต
ดอกกุหลาบทางจิต จึงเตือนให้เห็นความสำคัญของคุณค่าความดีที่ส่งกลิ่นหอมหวลอยู่ในความคิด ความทรงจำ เปรียบเหมือนยารักษาทุกโรคภัยด้วยกระแสจิตที่ละเอียดอ่อน (Vibrational Medicine) ซึ่งเกิดจากทัศนคติของการเรียนรู้ ที่จะใช้ชีวิตอย่างมีค่าบนพื้นฐานของความรู้ทางจิต ซึ่งส่งผลต่อการพัฒนาคุณธรรม และ พลังภายในจิตวิญญาณ

ในนามของพี่น้องทางจิต เราต้องขอขอบคุณ คุณจีรนันท์ พิตรปรีชา ผู้ประพันธ์บทเพลง “ดอกไม้จะบาน” ด้วยอุดมการณ์ที่สูงค่าในการฟันฝ่าเอาชนะมายา ซึ่งเราได้นำมาดัดแปลงเนื้อร้องให้กลายเป็น บทเพลงอมตะ “ดอกกุหลาบทางจิต” สำหรับการเอาชนะทุกปัญหาชีวิต ด้วยคุณธรรมความดี
ทุกความคิดนั้นมีค่า หากเราได้รู้ซึ้งถึงความเป็นอมตะของชีวิต ทุกขณะจิต จึงขออุทิศให้แก่พลังความคิด พลังชีวิต ที่ไม่สูญสลาย

น้องนวล ได้สรุปสาระของการจัดรายการจากประสบการณ์ ส่วนตัวที่เน้นคติพจน์ “ทุกขณะคือเวลาสุดท้าย”

วันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน 2556 เป็นวันที่ลูก ๆ ของบาบา รวมตัวกันตลอดทั้งวัน สำหรับการสะสมพลังโยคะตลอด 8 ชั่วโมง เพื่ออุทิศให้กับผู้ประสบภัยบนท้องถนน โดยใช้พลังทั้งแปดมาเป็นโครงสร้างในการคิดและทำกิจกรรม ทำให้เราเข้าไปสู่ประเด็นที่ลึกล้ำของแต่ละพลัง และนำเสนอในหลากหลายรูปแบบอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่อมฤตเวลาจนถึงตอนเที่ยงวัน และในช่วงตอน 5 โมงครึ่ง คือรายการสำหรับผู้สนใจ

ฉันคือใคร?
เริ่มด้วย การฉายวีดีโอ ฉันคือใคร เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับดวงวิญญาณ ที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกาย เปรียบได้กับรถยนต์ไม่สามารถแล่นไปถึงจุดหมายปลายทางได้ถ้าไม่มีคนขับ เราดวงวิญญาณคือผู้ที่ขับร่างกายนี้ มีพลังของสติปัญญาที่มีพลังที่จะสามารถนำพาชีวิตบรรลุเป้าหมายได้ตามเวลาอย่างปลอดภัย ในช่วงต่อมาได้รับเกียรติจาก พันอากาศเอก นายแพทย์บุญเลิศ จุลเกียรติ อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลภูมิพล ซึ่งเคยเป็นหัวหน้าแผนกฉุกเฉินมาก่อน 12 ปี คุ้นเคยกับสภาพหลังอุบัติเหตุ สภาพความเป็นความตาย และได้ศึกษาค้นคว้าวิเคราะห์สาเหตุของการตาย บนพื้นฐานของหลักการจากศาสนาต่างๆ และเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ ท่านกลายเป็นวิทยากรรับเชิญที่มีชื่อเสียงในการแบ่งปันแง่คิดเกี่ยวกับการใช้ชีวิตที่มีคุณค่า วันนี้ท่านใช้คำพูดสั้น ๆ ว่า “อยู่ก็ได้ตายก็พร้อม” คุณหมอก็ได้พูดถึงความตาย ตามปกติเมื่อสิ้นอายุขัยแล้ว และความตายที่มาจากวิบากกรรมตัดรอน ซึ่งล้วนแต่มาจากการ ขาดวินัย ขาดสติ ส่วนการแก้ปัญหาก็เป็นเรื่องของความเชื่อของแต่ละคน แต่สิ่งที่คุณหมอเห็นก็คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่มีอะไรเที่ยงแท้แน่นอน แต่เราก็ต้องอยู่ให้ได้และต้องพร้อมที่จะตายด้วย ท่านเชื่อว่าชีวิตมีการเกิด ตาย และจะได้พบกับสุพีม(สิ่งสูงสุด) ดังนั้น การมีชีวิตอยู่เราจำเป็นต้องมีหลักการ 3 ประเด็น คือ ประเด็นแรก อยู่เพื่อรับใช้สุพีม เพื่อดำรงเผาพันธ์มนุษย์ให้ดีขึ้น ประเด็นที่สอง เป็นคนดีที่มีความสุข ประเด็นที่สาม ตายอย่างเป็นธรรมชาติ งดงาม และทัดเทียมกัน ซึ่งการจะมีชีวิตเช่นนั้นได้จะต้องมีอีก 3 หลักการ เพื่อเราจะทุกข์น้อยที่สุดเมื่อมีการตายจากกัน คือ เห็นอนิจัง ทุกข์ขัง อนัตตา เพื่อที่จะเพียรพยายามละชั่วและทำความดี สร้างสมบุญบารมี ประการที่สอง เมื่อรักใครอย่าทำให้เค้าเสียใจ ทำหน้าที่ให้ดีที่สุดขณะที่เค้ายังมีชีวิตอยู่ และประการที่สาม เบิกบานด้วยปัญญา ศรัทธาโดยไม่งมงาย... หลักการเหล่านี้นั้นสอดคล้องกับคำสอนของบราห์มา กุมารี ที่สิ่งสูงสุด พ่อสูงสุด ที่เราเรียกว่าบาบา สอนให้เราให้กลายเป็นผู้ให้คุณประโยชน์ต่อโลก เปลี่ยนแปลงโลกด้วยการเปลี่ยนแปลงตนเองเพื่อจะกลายเป็นเครื่องมือในงานรับใช้ของพระเจ้า เพื่อที่เราจะจบสิ้นบัญชีกรรมเก่าสร้างสมบัญชีบุญที่บริสุทธิ์ ซึ่งเราต้องเตือนตัวเองเสมอเพื่อมิให้ประมาทและใช้ทุกขณะในเวลาปัจจุบันอย่างมีคุณค่า ด้วยคติพจน์ของมาม่าที่ว่า “ทุกขณะคือเวลาสุดท้าย” ถ้าเรามีศรัทธาต่อชีวิตบนพื้นฐานของสัจจะเราก็จะเป็นคนดีและมีความสุขเสมอ จากมุมมองของปัญญาในการเปลี่ยนปัญหาให้กลายเป็นเกมที่สนุกสนาน และทำให้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นของขวัญที่เราจะเรียนรู้ ในการทำดีที่สุดในปัจจุบันและสร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่าเสมอ ส่วนจากมุมมองของคุณหมอที่ บีเคนวลได้เห็นและนำมาเชื่อมโยงกับคำสอนของบาบา นั่นคือการพิสูจน์หลักการสากล โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีหัวใจเปิดกว้างก็จะสามารถเข้าถึงและเข้าใจหลักการสากลนี้อย่างเป็นธรรมชาติ และก็เป็นเรื่องที่สืบเนื่องกันที่ บีเคนวล ได้มีเป้าหมายสูงสุดที่จะกลายเป็นเครื่องมือของพระเจ้าในเวลาของการทำลายล้าง ซึ่งต้องมีสภาพที่มั่นคงเต็มไปด้วยพลัง มีบาบาเพียงผู้เดียว ไม่ผูกพันยึดมั่นกับใคร จึงจะอยู่เหนือสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดได้ แต่แล้วเมื่อมีเหตุการณ์น้องชายคนเล็กประสบอุบัติเหตุรถยนต์ชนกับรถบรรทุกเสียชีวิตทันที ณ ที่เกิดเหตุ เมื่อสองปีที่ผ่านมา รู้ตัวว่ายังคงมีความผูกพันยึดมั่นที่ซ่อนอยู่ จนทำให้ไม่สามารถรักษาสภาพที่ทรงพลังไว้ได้ ต้องขอให้พี่น้องทางจิตช่วยส่งดวงวิญญาณน้องชาย จึงได้แง่คิดว่าเราไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเมื่อไร อย่างไร กับใคร เราต้องพร้อมเสมอ คิดว่าทุกขณะคือเวลาสุดท้าย เพื่อทำทุกสิ่งอย่างดีที่สุดในปัจจุบัน ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็พร้อมเสมอ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาที่ล้มลงไป แต่ได้แง่คิดมากมายที่เราจะตั้งหลักเพื่อสร้างชีวิตที่มีคุณค่าขึ้นมาอีกครั้ง จึงได้ถ่ายทอดเรื่องราวเป็นจดหมายถึงบาบา และบันทึกเสียงมาเปิดในรายการต่อจากช่วงของคุณหมอเพื่อให้เป็นกรณีศึกษาของผู้เข้าร่วมรายการ ต่อจากนั้นก็เป็นการคิดถึงความดีของผู้ที่เรารักและจากไปเพื่อให้กระแสความปรารถนาดีกับดวงวิญญาณที่จากไป และทำสัญญาที่จะรักษาวินัยจราจร จากนั้นก็เป็นช่วงเวลาของการจุดแสง และเข้าไปสู่การสร้างสภาพโยคะ อุทิศให้กับดวงวิญญาณ ให้กับโลก และจบลงด้วยการแจกพร และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และฉลองวันเกิดครบรอบ 62 ปี ของ พี่หล้าที่เกิดในวันนี้พอดี....โอมชานติ

คุณหมอบุญเลิศ ให้ข้อคิดโดยสรุป...
ถ้าไม่อยากเสียใจเมื่อสูญเสียคนรัก
  1. ทำหน้าที่ที่ดีที่สุดกับคนที่รัก
  2. สัมผัสคนรักด้วยการรู้เท่าทันว่าเขาคือความไม่เที่ยง แต่เมื่อเกิดอะไรเหลือบ่ากว่าแรง
    ให้อธิษฐานถึงสุฟรีม (สิ่งสูงสุด) แรงอธิษฐานจะสัมฤทธิ์ผลได้ก็ต่อเมื่อ
    • ศรัทธาในเบื้องบนอย่างมั่นคง
    • มีกุศลกรรมเป็นทุนสำรอง
    • วิบากกรรมที่ทำไว้ไม่รุนแรงเกินไป
  3. ร่วมกันสร้างสังคมที่เราอยู่ให้ดีขึ้น
โอกาสนี้เรามี พี่น้องทางจิตบางท่านมาแบ่งปันประสบการณ์ชีวิตที่เกี่ยวโยงกับการประสบเคราะห์กรรมในมุมต่างๆ คือ
ซิสเตอร์วานาจา แบ่งปันข้อคิดเกี่ยวกับพลังการเผชิญ(ช่วงเช้า) ก่อนชมภาพยนตร์ ‘วันที่ 13’
การกลัวตายไม่มีใครปฏิเสธได้ ซึ่งรุนแรงยิ่งกว่าสำหรับครอบครัวของผู้ประสบภัย ...ที่ต้องจากไปอย่างกะทันหัน ผู้ที่จากไปและผู้ที่รู้สึกสูญเสียจะไม่มีความสงบ แต่ความเข้าใจทางจิตจะทำให้ความรู้สึกกลัวบรรเทาเบาบางลงและพร้อมจะเผชิญด้วยความกล้าหาญ ซึ่งมีผลทำให้ผู้ที่จากไป มุ่งตรงไปสู่จุดหมายปลายทางต่อไปอย่างสงบสุข และครอบครัวของเขา ก็จะมีพลังในการยอมรับ เพื่อก้าวต่อไปในการเดินทางชีวิตอย่างสงบสุขเช่นกัน

วันที่ 13
สุดท้ายต้องขอยกย่องความประสงค์ดี ในระบบราชการท้องถิ่น ที่ช่วยประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนจาก 3 จอ monitor ใหญ่ บนถนนในจังหวัดนนทบุรี

ตามมาด้วยข่าวดีจากจังหวัดปัตตานี พ.ต.ต.สายูตี สติยมานะ สารวัตรจราจร สภ.เมืองปัตตานี ร่วมสนับสนุนโครงการ ความปลอดภัยบนท้องถนน และจะนำโครงการฯนี้เข้าที่ ประชุมหัวหน้าส่วนราชการฯ ด้านบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปัตตานีในวันที่ 15 พ.ย.2556 เวลา 10.00-12.00 น. ณ ห้องประชุม ศาลากลางจังหวัดปัตตานี เพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรมของ โครงการฯและร่วมสร้างความปลอดภัยบนท้องถนน



© 2024 Brahma Kumaris Thailand. All rights reserved.