วันที่ 29 กันยายน 2555

การรวมตัวของครอบครัวดวงดาวครั้งนี้ ที่วินเซอร์ ทาวเวอร์ สุขุมวิท 20 เรามีพี่น้องบ้านพินทุ ซึ่งได้จัดกิจกรรมสร้างสรรค์งานศิลปะกันมาก่อน และพี่น้องบ้านสุขุมวิท มาช่วยกันสร้างบรรยากาศที่สนุกสนาน อบอุ่นด้วยสาระและเสียงเพลง จากลุ่มเด็กๆ วัยรุ่น วัยชรา ทั้งมือสมัครเล่นและมืออาชีพ หลังจากรับประทานอาหารว่าง ริมสระน้ำด้วยกันตั้งแต่ 5 โมง เริ่มอย่างสนุก จบอย่างสงบ เสียงเพลงทั้ง 3 ภาษา ไทย-อังกฤษ-อินเดียสะท้อนความเป็นครอบครัวชาวโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพลงเด่นที่เป็นหลักของโครงการ คือ Let there be peace on earth ซึ่งร้องด้วยภาษาใจ โดยคุณศุภพงศ์ กฤษณกาญจน์ (ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ระยองเพียวริไฟเออร์ จำกัด) และคุณบี๋ ภรรยาผู้สามารถประสานเสียงด้วยรักและศรัทธาในพระเจ้า ให้ทุกคนสัมผัสถึงความรักของพระเจ้าเดียวกัน! เพลงนี้เตือนให้นึกถึงสัญญาที่เราทำร่วมกันในโครงการอยู่เพื่อความสงบ...ขอให้โลกมีสันติและเริ่มต้นที่ตัวฉัน Let there be peace on earth and let it begin with me. เรามีตัวแทนครอบครัว 4 ท่าน มาแนะนำคุณลักษณะของดวงดาวของตน ก่อนเชิญ 21 คนร่วมกันจุดเทียนเพื่อนำสมาธิตอนช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้าย จบลงด้วยอาหารเย็นที่ทุกคนอิ่มใจ อิ่มกายเพื่อกลับมาพบกันใหม่ พี่น้องหลายคนส่งความรู้สึกดีๆ มาแบ่งปันด้วยค่ะ พี่อนิล - ดวงดาวแห่งความสงบเย็น (Star of Serenity) "เมื่อเราเห็นทิวทัศน์ของมหาสมุทรที่เยือกเย็น,ภูเขาสีน้ำเงิน จะรู้สึกถึงความสงบและความเยือกเย็นอย่างมากหรือเรียกอีกชื่อว่า 'ความสงบเย็น' เมื่อใครสามารถสัมผัสถึงการเปิดกว้าง,ความกว้างใหญ่,ความสงบเงียบและความสอดคล้องกลมกลืนในธรรมชาติ ผู้นั้นจะ รู้สึกได้ถึงความสงบเย็น ในทำนองเดียวกันเมื่อเราดวงวิญญาณสามารถทำให้พลังชีวิตนั่นคือความคิดที่มีสงบ,เป็นบวก, รวมเข้าด้วยกัน เพื่อให้คุณประโยชน์ เราย่อมอยู่อย่างสอดคล้องกลมกลืนกับตนเองและผู้อื่นโดยอัตโนมัติ และแล้วเราจะมีธรรมชาติ บุคลิกภาพที่ สงบเย็น ความตึงเครียดหรือความกระวนกระวายของผู้อื่นจะไม่มีผลกระทบต่อฉันเพราะชีวิตภายในของฉันคือความสงบ,ผ่อน คลายและอ่อนโยน ฉันจะสามารถอยู่อย่างสงบเย็นมากยิ่งในวันนี้ได้อย่างไร? เพื่อที่จะอยู่อย่างสงบเย็น ฉันคงการตระหนักรู้ถึงเอกลักษณ์ที่แท้จริงของฉันไว้เสมอ-ดวงวิญญาณ คือความนิ่งสงบ และความสงบเย็นจะปรากฏขึ้นมาโดยอัตโนมัติ ฉันได้เรียนรู้ด้วยเช่นกันที่จะเห็นและเชื่อมโยงกับผู้อื่นด้วยเอกลักษณ์ที่แท้จริงของพวกเขาผู้เป็นดวงวิญญาณที่สงบ ฉันคงเชื่อมโยงกับพ่อของฉัน ชีพบาบา มหาสมุทรแห่งความสงบและดึงคุณสมบัติของความเยือกเย็นและความสงบเย็นจากท่านและกลายเป็นผู้ที่เต็มเปี่ยมด้วยคุณสมบัติเหล่านั้น" พี่ภา - ดวงดาวแห่งการเอาใจใส่ดูแล (Star of Caring) "ธรรมชาติของฉันคือความเอาใจใส่ และได้ใช้ความเอาใจใส่นี้กับทุกคนที่อยู่รอบข้าง ตามหลักการทางจิตวิญญาณ ทำให้เป็นประโยชน์ที่แท้จริง ในการดูแลเอาใจใส่แบบองค์รวมทั้งในสภาพความเป็นอยู่ให้ร่างกายสะดวกสบายจากปัญหาสุขภาพ ปัจจัย หรือปัญหาความสัมพันธ์และอื่นๆ ที่สำคัญคือสุขภาวะด้านในที่เน้นแก่นสารสาระในการใช้ชีวิตกับทุกคนอย่างมีความสุข ด้วยพลังการปรับตัว เพื่อให้และรับคุณประโยชน์ และในวันนั้น เนื่องจากมีเด็กๆมาเข้าร่วมรายการประมาณ 10 คน ดิฉันจึงใช้เพลง Share ของ โปรแกรมกิจกรรมคุณค่าชีวิต สำหรับเด็กและเยาวชน ขณะที่ผู้ร่วมงานส่วนใหญ่เป็นผู้ใหญ่ เป็นความรู้สึกที่ดีงามที่จะแบ่งปัน แบ่งปัน แบ่งปัน ที่จะแสดงให้แก่ใครบางคนเห็นว่าเธอ เอาใจใส่ เอาใจใส่ เอาใจใส่ เธอสามารถผูกมิตรได้ทุกหนแห่ง เมื่อเธอเรียนรู้ที่จะแบ่งปัน การเอาใจใส่คือการแบ่งปัน บนพื้นฐานของความรักทางจิตวิญญาณที่ได้รับจากพ่อแม่ทางจิตวิญญาณ ที่ไม่มีขีดจำกัด ผู้เป็นเช่น หอคอยแห่งความสงบ แสงที่ไม่มีตัวตน ที่อยู่กับเราในเวลานี้ เมื่อเรา-ดวงวิญญาณได้รับจนเต็มเปี่ยม เราจึงสามารถแบ่งปันกับพี่น้องทางจิตวิญญาณ อย่างไม่มีขีดจำกัด ทุกความปรารถนาของทุกคนได้รับการเติมเต็ม... การจุดเทียน หมายถึงการจุดแสงแห่งสันติ ด้วยการตระหนักรู้ว่าฉันคือชีวิตที่เป็นแสง นั่นคือการรู้แจ้ง เป็นการแสดงความเอาใจใส่ที่แท้จริงเพราะดวงวิญญาณรู้จักตนเอง และรู้จักพ่อแม่ทางจิตวิญญาณ สามารถได้รับความรัก และทรัพย์ที่มีค่าทั้งหมดเป็นมรดก และแบ่งปันต่อผู้อื่นต่อๆไป การมาชุมนุมเพื่ออยู่ในความสงบจิตเพื่อโลก เป็นเหมือนการค้นพบแหล่งน้ำกลางทะเลทรายที่ดับกระหายท่ามกลางความไม่สงบของโลก แม้เพียงชั่วขณะแต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นส่งออกไปอย่างไม่มีขีดจำกัด เมื่อใดที่การดูแลเอาใจใส่กลายเป็นความไม่ระมัดระวัง? เมื่อเราไม่ได้พิจารณาความต้องการของผู้ที่เราให้การดูแลเอาใจใส่ ตัวอย่างเช่น เขาเพียงต้องการน้ำหนึ่งหยดเพื่อดับกระหาย แต่เรา กลับจัดหาอาหารให้ 36 อย่าง การทำเช่นนี้ทำให้เกิดการสูญเปล่าและไม่ได้ตอบสนองความจำเป็นของชีวิต เมื่อการดูแลเอาใจใส่ เพิ่มความอ่อนแอ จากการผูกพันยึดมั่น ทำให้เกิดการเรียกร้องการดูแลเอาใจใส่มากขึ้น โดยไม่ได้พยายามช่วยเหลือตนเองในการแก้ปัญหา ดังนั้น เราจึงควรจุดแสงแห่งปัญญาให้แก่ดวงวิญญาณทั้งหลาย เพื่อที่เขาจะออกจากความมืดของความไม่รู้ จากการเดินทางที่ผิดพลาด ไม่ระมัดระวัง เป็นการเข้ามาสู่หนทางที่ถูกต้องในเวลาที่ถูกต้อง" พี่ป้อม - ดวงดาวแห่งความรัก (Star of Love) ความรักต่างจากความผูกพันยึดมั่นอย่างไร? "บ่อยครั้งที่เราพูดถึงความรักควบคู่ไปกับความผูกพัน ความรักเป็นคุณค่าแห่งความเป็นมนุษย์และความผูกพันก็คือรูปหนึ่งของความรักที่แสนจะงดงาม ถ้าความผูกพันนั้นหมายถึงการผูกมัดตนเองกับความรับผิดชอบต่อความรัก แต่หากเราเติมคำว่า "ยึดมั่น" เข้าไปหลังคำว่า "ผูกพัน" และแล้วสิ่งนี้ก็มีความหมายที่แตกต่างออกไป ความผูกพันยึดมั่นเป็นกิเลส ขณะที่ความรักคือคุณธรรม ทั้งสองนั้นไม่อาจอยู่หรือไปด้วยกัน ความรักคือปีกแห่งอิสรภาพ ส่วนความผูกพันยึดมั่นคือโซ่ตรวนที่จองจำเราไว้ในความเห็นแก่ตัว ความผูกพันยึดมั่นพันธนาการเราไว้ในความรู้สึกของการครอบครองเป็นเจ้าของ ที่มักเกินเลยไปสู่การครอบงำ บงการ คาดหวังให้ต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ตามที่ตนเองพอใจ และแล้วก็มีความเป็นไปได้ที่ความน้อยใจ เสียใจ หรือความผิดหวังจะเป็นสิ่งที่ตามมา ดังนั้น หากว่าเรามีความรัก ก็ขอให้เป็นความรักที่ปราศจากความเห็นแก่ตัว ความรักที่เป็นไปเพื่อคนที่เรารักจะได้รับสิ่งที่ดีที่สุดเสมอ แม้ว่าสิ่งนั้นดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ แต่แล้วสิ่งนั้นก็เป็นไปได้ด้วยพลังแห่งความรัก" พี่แย้ม - ดวงดาวแห่งความสุขสันต์ (Star of Joy) อยากจะเป็นแบบไหนระหว่าง อัจฉริยะที่วิตกกังวลกับคนโง่ที่สนุกสนานร่าเริง? "อัจฉริยะที่แท้จริงไม่เคยวิตกกังวลกับเรื่องใด และเราก็ไม่เรียกผู้ที่คงความสุขสนุกสนาน และร่าเริงเบิกบาน อยู่เสมอว่าเป็นคนโง่หรอก แท้จริงแล้วบุคคลเช่นนั้นคือผู้มีปัญญา ผู้มีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้ด้วยความสนุกสนาน ร่าเริง ทั้งยังทำให้ผู้คนรอบตัวเขาเบิกบานยินดีไปกับตัวเขาได้ด้วย"