จดหมายข่าวฉบับที่ 23
วันที่ 5 กันยายน 2555
ถึงพี่น้อง ผู้รักสันติทุกท่าน
วันนี้เรามีรายการสัมภาษณ์ทางโทรทัศน์เกี่ยวกับโครงการ 'อยู่เพื่อความสงบ' (ภาคภาษาอังกฤษ) และ 2 ภาพ สำหรับ 'สันติภาพ' ที่ทีมงานถ่ายทำได้เลือกใช้ประกอบรายการ จึงขอเสริมคุณค่าของเหตุการณ์ในอดีต ที่ส่งผลต่อปัจจุบันและอนาคต จากภาพ
ดาดี้แจงกี ผู้นำบราห์มา กุมารี (ผู้ถือโลกไว้ในมือ กำลังส่งกระแสที่บริสุทธิ์ของความสงบ ความรัก ความสุข) พบกับกษัตริย์อับดุลลาห์ ในประเทศจอร์แดน
ด้วยการตัดต่อข่าว (ยูพีไอ) UPI จากปี ค.ศ.2004 ที่กระจายไปทั่วโลก
|
การสัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ กับคุณ Jaye Walton ในรายการ Thai - OZ Talk ได้ออกอากาศ 2 ครั้ง วันศุกร์ที่ 31 สิงหาคม 2555 เวลา 8.30 น. ทางช่อง NBT (ช่อง 11) และ วันเสาร์ที่ 1 กันยายน 2555 เวลา 13.25 น. ทางช่อง TGN (Thai Global Network - 177 ประเทศ)
|
ผู้นำทางจิตวิญญาณชาวอินเดียเยือนจอร์แดน
, อัมมาน,จอร์แดน, 1 มิ.ย. (ยูพีไอ) - ผู้นำทางจิตวิญญาณชาวอินเดีย ดาดี้แจงกี วัย 88 ปี ไม่ใช่บุคคลธรรมดา
และผู้คนมากมายในจอร์แดนตระหนักว่าการมาเยือนประเทศนี้เป็นครั้งแรกของดาดี้เหมาะกับเหตุการณ์และทำให้มั่นใจในช่วงเวลาของความปั่นป่วนอย่างที่สุดในตะวันออกกลาง...
ท่านได้เพาะหว่านความหวังต่อสันติภาพ ด้วยการแบ่งปันปัญญา ความรู้และความรักที่พิเศษเหนือธรรมดากับผู้นำชุมชนในอาณาจักรซึ่งมีผลต่อ ผู้คนมากมายที่ได้ยินคำพูดของท่าน... ในฐานะที่เป็นหนึ่งในสิบ 'ของผู้มีปัญญารู้แจ้ง' จากกลุ่มที่โดดเด่นของผู้นำ ทางจิตวิญญาณระดับโลกที่ให้คำปรึกษาแก่ผู้นำทางการเมืองในการประชุมสุดยอดของโลกในบราซิลเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อม ในปี ค.ศ.1992
กษัตริย์อับดุลลาห์ผู้ที่พยายามทำให้ประเทศของเขายืนอยู่ได้ด้วยตัวเอง และ รอดพ้นจากความปั่นป่วนในประเทศอาณานิคมปาเลสไตน์ทางตะวันตกและสงครามในอิรักในฝังตะวันออก... พระองค์ได้พบ ดาดี้ในพระราชวังและมอบเหรียญเกียรติยศสูงสุดของจอร์แดนเป็นเหรียญแห่งอิสรภาพขั้นที่ 1 สำหรับ "ความเพียรพยายามที่จะส่งเสริมความเข้าใจและการเจรจากันระหว่างวัฒนธรรมและศาสนา พร้อมกับการพัฒนาสังคมและการดูแลสุขภาพ"
|
ดาดี้แจงกีเน้นว่า 'สันติภาพเริ่มต้นจากภายใน' เมื่อเพิ่ม 'ความสงบภายใน' ย่อมสามารถทำให้แต่ละบุคคลใช้ชีวิตอย่างมี 'คุณค่า' และมี 'คุณธรรม' โดยการ
- ขจัดความทุกข์ระทมออกไปจากความคิด
- ส่งความคิดในเซิงบวกเกี่ยวกับสันติภาพออกไป โดยไม่คำนึงถึงความเป็นลบ เพราะความคิดของความทุกข์ระทมนั้นเพียงแต่ กระจายกระแสของความทุกข์ระทมซึ่งทำให้เกิดความทุกข์มากขึ้น
- สร้างพลังภายใน ไม่ให้อำนาจทางลบที่ดำมืดแทรกแซงเข้าไปได้
|
'เราทั้งหมดคือลูกของพระเจ้า' ขอให้อยู่ในความเงียบสงบ รับฟังและอุทิศตนต่อสิ่งสูงสุด เพราะคำว่าอิสลาม (Islam) หมายถึง 'การอุทิศตน' ต่อพระเจ้า นั่นคือ 'ความศรัทธาในพระเจ้า' ด้วยเช่นกันสำหรับผู้ที่เติบโตในฐานะที่เป็นทั้งชาวมุสลิมและชาวคริสเตียน
ท่านกระตุ้นเตือนพวกเขา 'ทำบางสิ่งกับสถานการณ์' แทนการพร่ำบ่นกับการตายและการทำลายล้างที่เกิดขึ้นประจำวัน แต่พูดถึงหนทางที่ทำให้สิ่งนั้นสำเร็จโดยการที่แต่ละคน 'ทำความสะอาด' ตัวตนภายในและกลับคืนสู่ธรรมชาติที่แท้จริงของความสงบและความบริสุทธิ์ของตน
สตรีผู้หนึ่งที่เข้าฟังทุกการบรรยายของท่านในอัมมาน บอกกับ United Press Internationnal ว่า... "หนทางและความหวังเดียวเท่านั้นสำหรับการจัดการกับความบ้าคลั่งและความไม่ยุติธรรมทั้งหมดรอบตัวเรา คือการกลับเข้าสู่ภายในอย่างแท้จริงและหันไปหาพระเจ้า และสิ่งต่างๆ บนโลกจะเริ่มเปลี่ยนแปลงได้"
ความรับผิดชอบ Responsibility
เมื่อผู้สัมภาษณ์ถามถึงความรู้สึกที่ต้องรับผิดชอบต่องานอันใหญ่หลวง ได้ตอบไปว่า "ทุกสิ่งขึ้นอยู่กับสภาพจิตของเรา..."
งานจะใหญ่หรือเล็ก อยู่ที่เราคิด เมื่อชีวิตมีโอกาส รับผิดชอบต่อการพัฒนาจิตวิญญาณ นั่นคือ ความ รับผิดชอบต่อสภาพจิตใจของตนเองให้มีความมั่นคงอยู่ในสมดุลของความรู้(ญาณ) และ ความสัมพันธ์(โยคะ) เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเอง (Self-progress)และการพัฒนางานรับใช้โลก (World Service) ด้วยจิตสำนึกของการเป็นเครื่องมือของสิ่งสูงสุดที่ส่งผลทำให้เกิดความถ่อมตนและรู้ค่าของทุกคน
ความรับผิดชอบที่แท้จริงจึงหมายถึงกระบวนการนำความรู้มาทำงานรับใช้และมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นด้วยคุณธรรมและนำพลังโยคะ หรือ
ไฟของโยคะ(ที่เกิดจากความรัก-ศรัทธาต่อสิ่งสูงสุด) มาขจัดกิเลส ความอ่อนแอในรูปของบาป-บ่วงทั้งหมดในชีวิต
บทเรียนในชีวิตเป็นไปเพื่อการรู้แจ้ง จึงต้องถามตนเองเสมอว่า เราตื่นแล้วหรือยัง? ตื่นจากความหลอกลวง ความหลงทะนง ความเชื่อที่ผิดๆ ซึ่งสะสมมาจากการเดินทางในวงจรชีวิต
เมื่อมองทะลุ เข้าไปถึงสัจจะภายใน เราจึงสามารถเข้าใจสภาวะที่หลับใหล 4 ประการหลัก
- มุมมองที่ทำให้ตึงเครียดเป็นการกล่าวโทษผู้อื่นและสถานการณ์ เชื่อว่าผู้อื่นหรือสิ่งภายนอกเป็นสาเหตุของความเครียด โดยไม่ยอมรับว่า ทุกสิ่งนั้นสร้างขึ้นมาจาก ความคิด ความรู้สึกของตน การยอมรับเช่นนั้นได้ต้องอาศัยความสามารถในการตอบรับ (Response-ability)
ผู้ตื่นแล้ว ย่อมรับ-ผิด-ชอบ ต่อความคิด อารมณ์ ทัศนคติ และการกระทำของตนได้เสมอ....
- การเปรียบเทียบตนเอง เมื่อไหร่ก็ตามที่เปรียบเทียบกับผู้อื่น นั่นหมายถึง เรายังไม่ตระหนักรู้ถึงคุณลักษณะพิเศษ และคุณค่าของตนเอง จึงคิดลอกเลียนแบบผู้อื่น มีความเชื่อว่า "ฉันไม่มีค่าเท่าเขา"
ผู้ตื่นแล้ว รู้ถึงคุณค่าของตนและสามารถมั่นคงในคุณค่านั้น จึงไม่ปรารถนาที่จะเป็นเหมือนใคร แต่สามารถปลุกเรียกศักยภาพที่แท้จริงภายในของตนเองขึ้นมาได้
- พฤติกรรมในการควบคุมบังคับ
เมื่อเราพยายามจะควบคุมบังคับและครอบงำ เราจะขุ่นมัวจากการเชื่อว่า "เราสามารถควบคุม สิ่งที่ไม่สามารถควบคุมได้" บางครั้งอาจคิดว่า ผู้อื่นทำตามคำสั่ง แต่ความจริงแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจด้วยตนเอง ว่าเขาจะทำอะไร ถ้าเรามีอาการของคนเดินหลับอยู่(ไม่รู้ตัวว่าทำอะไร) เราอาจรู้ถึงความอ่อนแอของผู้อื่น และช่ำชองในการเอาประโยชน์ นั่นคือความสัมพันธ์ที่หลอกลวง
ผู้ตื่นแล้ว ไม่เคยฉกฉวยโอกาสจากผู้ที่เดินหลับ... เพราะเขาตระหนักในบทบาทที่ต้องปลุกให้ผู้อื่นตื่น ไม่ใช่เอาประโยชน์จากความไม่รู้ของใคร
- การเสพติดทางอารมณ์
เมื่อเรามองหา 'สิ่งเร้า' ที่จะปลุกความรู้สึกบางอย่าง เช่นบางคนชอบโต้แย้ง จากการเสพติดความโกรธ...พูดถึงสิ่งที่ผิดพลาด สิ่งที่สูญเสีย เพราะติดอยู่กับความทุกข์ของตนเอง และถ้าหากมองดูอนาคตด้วยความไหวหวั่น ความวิตกกังวล ก็เหมือนการเสพติด 'ความกลัว'
ผู้ตื่นแล้ว ได้ตัดขาดจากการเสพติด ไม่พึ่งพิงภาวะอารมณ์ของตน เกิดการเรียนรู้ที่จะเลือกและสร้างความรู้สึกใหม่ในแต่ละขณะ แต่ละฉากของละครชีวิต
|
|