จดหมายข่าวฉบับที่ 10
วันที่ 29 กรกฎาคม 2555
ถึงพี่น้อง ผู้รักสันติทุกท่าน
E-Ego คือความหลงทะนงตน
พี่ธมแสดงเป็น Superman ล้อภาพ Ego ในกระจกมาหลายครั้ง เสริมด้วยเพลง Superman เป็น Sound Effect ให้เร้าใจ ชีวิตจริงของเราก็มีเสียงสะท้อนที่ทำให้หลงหรูฟูฟ่องจากผู้ที่เยินยอยกย่องเพราะเสน่หาหรือภาวะที่ต้องพึ่งพาผูกพันกัน แต่พอเสียหน้า เสียใจ เสียผลประโยชน์ใด ก็กลายเป็นเสียงประณาม ตัว E จึงมาพร้อมกับตัว A (Anger) ความโกรธจากการคาดหวัง ทั้งที่แสดงออกหรือซ่อนอยู่ ความหลงทะนง EGOนั้นเปรียบเหมือนขอทานที่หิวโหยการยอมรับฯลฯ เมื่อได้(คำเยินยอ)ก็เกิดปมเด่น เมื่ออด(คำติเตียน)ก็เกิดปมด้อย จึงไม่สามารถอยู่ได้ด้วยตนเอง ยอมทำทุกสิ่งเพื่อให้ทุกคนยอมรับและทั้งโลกหล่อเลี้ยง
ขบวนการของความผูกพันยึดมั่นในทุกความสัมพันธ์จึงหล่อเลี้ยงความหลงทะนงให้ชีวิตติดกับในความหลอกลวงและความทุกข์โดยไม่รู้ตัว
F-Fear คือความกลัว
จากภาพ ความกลัวหนามตะบองเพชรของวัวต้องหลบเอาตัวรอด หาความปลอดภัยจากฟองอากาศที่พร้อมสลาย...เมื่อต้องสร้างความหวังในทางบวก พี่ธรจึงช่วยสรุปข้อคิดไว้อย่างน่าสนใจ
ความกลัวเกิดจากการที่เราเข้าไปยึดติดอยู่กับความคิดของตัวตนที่คับแคบของสำนึกที่เป็นร่างซึ่งมันไม่ใช่ธรรมชาติที่แท้จริงจึงอ่อนแอง่าย ไม่มั่นคงและตกอยู่ภายใต้การข่มขู่คุกคามซึ่งจะคอยบอกอยู่ตลอดว่า "อันตราย ไม่ปลอดภัย ฉันกำลังถูกคุกคาม" จึงสร้างความกลัวขึ้นมา
สภาวะของความกลัวมีหลายรูปแบบที่แสดงออกเช่นความไม่สบายใจ ความวิตกกังวล ความเครียด ขวัญผวาหรือโรคกลัวสิ่งต่างๆ ในส่วนลึกภายในความกลัวทุกแบบ คือกลัวการสูญเสีย เมื่อยึดติดกับความคิดแบบนี้ จึงส่งผลกระทบต่อชีวิตทุกแง่มุม บางทีเรื่องไร้สาระและสุดแสนจะธรรมดา ก็โต้เถียงว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูกผู้อื่นผิด เพราะถ้าตนเองถูกมองว่าเป็นฝ่ายผิด จะรู้สึกว่าถูกคุกคามอย่างแรงและกำลังถูกทำลาย จึงไม่ยอมเป็นผู้แพ้ ทำให้ความสัมพันธ์ทั้งหลายแตกหักเพราะเหตุนี้
เมื่อเราเลิกยึดติดกับความคิด ไม่ว่าจะถูกหรือผิด เราไม่ได้สูญเสียตัวตนที่แท้จริง แรงผลักดันที่ต้องเป็นฝ่ายถูก แสดงออกด้วยการโต้เถียงหรือการใช้กำลังนั้นหายไป ไม่มีความก้าวร้าวหรือการปกป้องตัวตนจอมปลอมจากการมีความคิดที่คับแคบอีกต่อไป
จงสร้างสภาพของความเงียบสงบและตั้งสติทุกขณะจิตนั่นคือแสงแห่งปัญญาที่ส่องสว่างเพื่อทำลายความมืดหรือสลายความไม่รู้ออกไป นั่นคือจุดจบของการโต้แย้งและเกมแห่งอำนาจที่กัดกร่อนความสัมพันธ์
อำนาจเหนือผู้อื่น แท้จริงแล้วคือความอ่อนแอที่ปลอมแปลงมาในรูปของความเข้มแข็ง อำนาจแท้จริงคือพลังของความเงียบสงบภายในที่ทำให้เกิดความเคารพตนเองและผู้อื่นโดยไม่ข่มขู่ดูถูกใครเพราะนั่นคือความเป็นศัตรูที่ทำให้เกิดความกลัวต่อการถูกคุกคามซึ่งตามมาพร้อมกับความรุนแรงก้าวร้าวที่อยู่ภายในและภายนอก
Z-Zero คือการเป็นศูนย์
พี่เซียน ยกตัวอย่าง... "ชีวิตทั่วไปในวัยเยาว์ที่ไร้เป้าหมาย(Zero)
ก่อนที่จะพบสัจจะของชีวิต และมองเห็นคุณค่าที่แท้จริง(Hero)ของตนเอง...
ทุกวันตื่นขึ้นมา เข้าห้องน้ำมองกระจกเห็นตัวเอง รู้สึกว่าไม่อยากตื่นขึ้นมาเห็นตัวเองในกระจก อาบน้ำแต่งตัวไปโรงเรียนก็ไม่อยากจะเจอเพื่อนๆ พอเข้าห้องเรียนก็นั่งหลับ,หาวนอน ฟังอะไรไม่รู้เรื่อง..."
วันนี้เราจบลงด้วยการรับฟังเสียงของปัญญาจาก Brother Anthony ผู้ที่ทำให้เราสัมผัสกับสัจจะในความเรียบง่าย ลึกล้ำ นำไปปฏิบัติได้ด้วยความถ่อมตน ไม่วนอยู่กับความกลัว ไม่ลืมตัวว่าเหนือใคร Brother Anthony ผู้เป็นทั้งครูและนักเรียนของบราห์มา กุมารีมาร่วม 40 ปี เป็นผู้ประสานงานประจำประเทศกรีกและเป็นตัวอย่างของผู้รักษาสมดุลระหว่างสัจจะ(Truth)และความถ่อมตน(Humility)ที่สร้างความยิ่งใหญ่ให้ทุกคน
ลองคลิกฟังหลังจากอ่านความหมายนี้แล้ว จะทำให้อยู่เหนือขีดจำกัดของภาษา ใช้เวลาไหลลื่นไปกับคลื่นความคิดจากชีวิตของผู้ปฏิบัติจริง
Meditation Creating a hero การฝึกสมาธิ การสร้างนักแสดงเอก
นักแสดงเอกจะเป็นใคร ในเวลาใดก็ตาม :
ฉันนำตนเองออกมาจากเขาวงกตของความคิดที่ตึงเครียด
ฉันเริ่มที่จะกลับเข้าไปสู่ภายใน ที่เป็นรากเหง้าของจิตวิญญาณที่ยังคงอยู่ แต่บางครั้งก็ถูกลืมไป
เป็นเพราะมังกรของความสงสัย ความโกรธ ความวิตกกังวล ได้มาบดบังเอาไว้
ฉันตัดสินใจที่จะมีความเข้มแข็งมากขึ้น
ฉันกำหนดทิศทางชีวิต อย่างที่ปรารถนา
ฉันเลือกทางที่ดีกว่าในการใช้ชีวิต
ฉันตระหนักได้ว่าฉันสามารถพิชิตมังกรร้ายของความกลัวที่รออยู่ในมุมมืดต่างๆในชีวิตของฉัน
ฉันจึงเลือกอาวุธ ปัญญาและความมุ่งมั่น
ฉันมีความมั่นใจและพูดในสิ่งที่มาจากความเป็นจริง ไม่ว่าจะมีใครหรืออะไรก็ตามที่เข้ามาเป็นอุปสรรค
ฉันจะไม่ยอมต่อผู้ที่มีความกลัว โกรธ หรือการมองโลกในแง่ร้าย
ฉันเข้าใจถึงพลังของความเคารพตนเอง และความสงบที่จะใช้จัดการกับใครก็ตาม ผู้คน หรือสภาพการณ์ต่างๆ
ในสำนึกรู้ของฉัน ฉันจดจำเสมอถึงรากเหง้าดั้งเดิมและพลังดั้งเดิมแห่งตน
ฉันจำได้ว่าฉันคือนักแสดงเอกในละครชีวิต
ตามเวลาและชะตากรรม ฉันมีสิทธิ์ที่จะอยู่ที่นี่ ที่จะแสดงออก โดยไม่กลัวการพิสูจน์ตน ไม่กลัวถูกปฏิเสธ ไม่กลัวต่อการถูกวิจารณ์
ฉันเข้าใจและเพียงแต่มีความกล้าหาญที่จะทำ ฉันรู้ว่าฉันควรจะรู้อะไร
ฉันจะได้รับในสิ่งที่ควร จนกระทั่งฉันตระหนักได้ว่าการกระทำนั่นเองที่ฉันจะเรียนรู้ ถึงการได้รับชัยชนะ ได้รับการเติมเต็ม และอยู่เหนืออุปสรรคด้วยศรัทธาที่ลึกล้ำ และความคิดที่มุ่งมั่น ฉันมั่นใจที่จะทำในสิ่งที่ต้องทำ ฉันกล้าพูดในสิ่งที่ควร
ทีละเล็กทีละน้อย ที่ฉันตระหนักถึงอาวุธที่ยิ่งใหญ่ที่จะพิชิตมังกรของความสงสัย ความกลัว คือ ความสงบ ความไว้วางใจ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง พลังการตัดสินใจ
ฉันจำเป็นต้องชัดเจนกับตนเอง ฉันต้องการอะไรจริงๆในชีวิต
และแล้ว ฉันจะเลือก และตัดสิน ที่จะให้เกิดการกระทำที่ถูกต้องเหมาะสม
และยอมให้ความผิดพลาดเกิดขึ้นได้
ด้วยความตั้งใจที่จะเรียนรู้ในทุกย่างก้าว ฉันคือนักแสดงเอกในเวลานี้
ฉันจะไม่ยอมเสียสมดุล ไม่เสียเวลา กับความคิดไร้สาระและการสิ้นหวัง
ฉันจะไม่สูญเสียความเคารพตนเอง ไม่ว่าจะมาจากสายตาหรือคำพูดที่ผู้อื่นมีต่อฉัน
ฉันจะไม่สูญเสียเป้าหมาย เพียงแค่ผู้อื่นไม่เชื่อ หรือเห็นเป็นเรื่องน่าขบขัน
ขอให้ฉันได้ทำในสิ่งที่ควรและเติบโตขึ้นมาจากความสำเร็จและความล้มเหลว ยกย่องและประณาม
- จากความกลัว ฉันจะไม่แข็งขืน ฉันจะคงอยู่อย่างยืดหยุ่น อดทน และเปิดเผย
- จากความโกรธ ฉันจะไม่แข็งกร้าว หรือ ดื้อรั้น ฉันจะรักษาความสงบและความเคารพต่อทุกคน
- จากแรงจูงใจที่เห็นแก่ตัว ขอให้ฉันอย่าได้คิดคำนวณจากการเอาเปรียบแทนที่จะเป็นเช่นนั้น ฉันเคารพต่อสิทธิของผู้อื่น
- จากความไม่ปลอดภัย ขออย่าได้หลุดเข้าไปในการเปรียบเทียบแข่งขัน แต่กลับเห็นคุณค่าของความเป็นเอกลักษณ์ของทุกคนและตนเอง
| นี่ไม่ใช่มังกรขาดสารอาหาร แต่เป็น Superman ธม กลายเป็น Super Hero ปราบมังกรดำชั่วร้าย แปลงร่างเป็นมังกรขาว ช่วยอัศวินกอบกู้อาณาจักร
|
ท่วงท่าของนักแสดงเอก ในขณะนี้ คือผู้ที่พิชิตมังกรร้าย
ฉันคือ ฮีโร ฉันเปลี่ยนแปลงสิ่งเหล่านั้นได้
ฉันผู้เป็นรากฐานของจิตวิญญาณ ดวงวิญญาณของฉัน
ฉันเชื่อมโยงกับแหล่งพลังที่สูงส่ง มิตรที่สูงส่ง
ฉันได้รับพลัง และพรที่ทำให้งานของฉันง่ายดายยิ่งขึ้น มีความสำเร็จมากขึ้น เพื่อนที่สูงส่งของฉันทำให้ฉันเชื่อว่า ฉันสามารถเป็นฮีโรได้
ฮีโรทำให้การดำเนินชีวิตของตนเองและผู้อื่นอยู่อย่างสุขสบาย
|
|