วันที่ 6 มกราคม 2556

ขอเชิญรับฟังเพลง 'My Madhuban' จากSister Tina จาก บราห์มา กุมารี ประเทศฟิลิปปินส์ ด้วยแรงศรัทธาต่อสถานที่ที่ให้ทานชีวิตแก่พวกเราทั้งโลกด้วยการอยู่เหนือความต่างของวัฒนธรรม มธุบาน (Madhuban) หรือ ป่าน้ำผึ้ง (Forest of Honey) ชื่อที่กล่าวขานกันด้วยความรักอันหวานชื่นของความสัมพันธ์ที่บริสุทธิ์ที่สุด ดินแดนกระจกที่มีมนต์ขลังและความมหัศจรรย์ที่สามารถทำให้เราตรวจสอบหัวใจตนเอง เข้าใจจิตใจตนเองและจดจ่อสติปัญญาให้เกิดสมาธิ บ้านของพ่อและลูกที่ปลุกเรียกประสบการณ์ที่สวยงามและพลังของการทรงจำระลึกถึง สถานที่ที่หัวใจเปิดรับความรักที่ไม่มีเงื่อนไขของพ่อสูงสุดผู้เต็มไปด้วยความเมตตากรุณา ผู้ให้พรแก่ลูกแต่ละคนด้วยความยิ่งใหญ่ไม่มีขีดจำกัดของท่าน ที่ที่จดจำประสบการณ์ หอคอยของความสงบและการกระทำที่สูงส่งของพ่อบราห์มา...แต่ละมุมเต็มไปด้วยความสงบเงียบและความรักของพระเจ้า-พ่อสูงสุด ดินแดนของพลังความบริสุทธิ์และสัจจะ...ที่ที่สามารถทำให้ดวงวิญญาณสัมผัส 'เสรีภาพภายใน' และเป็นอิสระจากทุกสิ่งที่ไร้ประโยชน์เพื่อนำไปสู่การหลุดพ้นที่แท้จริง สถานที่ของพลังการสำรวจตนที่มีผลต่อความก้าวหน้าทางจิตวิญญาณอย่างมหัศจรรย์ซึ่งกลายเป็นประสบการณ์ของความปิติสุข ที่ที่คำพูดโดยตรงของพระเจ้า สิ่งสูงสุด-ศักดิ์สิทธิ์กลายเป็นพร ความสงบของจิตใจ (Peace of Mind) คือรายการสำหรับแขกรับเชิญทั่วโลกจำนวนน้อยประมาณ 200 คนในแต่ละปีที่เดินทางไปสู่ดินแดนที่ยิ่งใหญ่อันเก่าแก่ที่สุดในอินเดีย บนภูเขาอาบู สำหรับประสบการณ์ของการฝึกจิตที่ลึกล้ำ เริ่มจากคำพูดบัตรในเชิญที่ว่า 'Fate has written your name in the air of this magical place' 'โชคชะตา ได้จารึกนามของท่านไว้ในสายลม ของสถานที่ที่มหัศจรรย์นี้แล้ว' เส้นทางของเหตุการณ์ และประสบการณ์มากมายรอคอยท่านอยู่ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้มีการสอดประสาน เวลาและชะตากรรมเข้าด้วยกัน หลายสิบปีที่ผ่านมา บราห์มา กุมารีได้จัดส่ง VCD 'Welcome Home' ไปพร้อมกับบัตรเชิญ เป็นตัวอย่างประสบการณ์ของแขกรับเชิญ จากประเทศอังกฤษ ผู้เป็นอดีตรองประธานธนาคาร แชสแมนฮัตตัน (Chase Manhattan) มองดูผู้ที่อยู่ตรงกลาง คือแสงที่แฝงรูปอยู่กลางหน้าผาก ผู้ที่มีความเป็นบวกและเป็นกลางตลอดเวลา เรียกว่า A      l      p      h      a            P      o      i      n      t ครั้งสุดท้ายระหว่างวันที่ 2-9 ตุลาคม 2555 เราได้นำแขกจากประเทศไทยเดินทางไป 6 ท่าน รศ.ดาวรุ่ง กังวานพงศ์ได้เป็นตัวแทนของประเทศไทยไปแบ่งปันประสบการณ์ตอนจบรายการ Peace of Mind หลังจากที่ได้เรียนรู้จัก 'ราชาโยคะ' เพื่อซึมซับความสงบ ความบริสุทธิ์ ความรัก และพลัง ที่มีกำเนิดมาจากสถานที่จาริกแสวงบุญหลักทั้ง 4 ในมธุบาน ในฐานะที่เป็นเพื่อนพี่สาวที่รู้จักกันมาอย่างดีทั้งครอบครัว พี่ดุ้งจึงกรุณาเขียนประสบการณ์มาให้เราอ่านกันอีกครั้ง พร้อมทั้งฉายแสงของการเป็นดวงดาวแห่งความกระจ่างชัด(Star of Clarity) จากประสบการณ์ชีวิต "ดิฉันรู้สึกปิติมากที่ได้ไปร่วมสัมมนา 'Peace of Mind' ที่ Gyan Sarovar, Mount Abu ในระหว่างวันที่ 2-9 ตุลาคม 2555 ต้องขอขอบคุณน้องหล้าที่เชิญชวนให้ไปด้วย การได้พบน้องหล้าที่บ้านคุณแม่ของเธอที่เชียงใหม่ในวันนั้น สร้างโอกาสให้ดิฉันได้สานต่อความศรัทธาและประทับใจที่ดิฉันมีต่อปรัชญาของมูลนิธิ บราห์มา กุมารี ราชาโยคะ แต่ไม่ได้ใช้เวลาเรียนรู้ต่อให้ลึกซึ้งในขณะนั้น ดิฉันเริ่มรู้จักบราห์มา กุมารี เมื่อมีการจัดสัมมนาที่กรุงเทพฯ เป็นครั้งแรก เมื่อประมาณกว่า 25 ปีที่แล้วมา ได้เข้าใจถึงการพัฒนาจิตใจของตนเองไปสู่ความสงบสุขอย่างสร้างสรรค์ โดยการเพิ่มพลังทางจิตของตนในทางบวก ซึ่งทุกคนสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันของตนได้เป็นอย่างดี เมื่อไปถึง Gyan Sarovar ในช่วงเย็นๆ ของวันที่ 2 ตุลาคม สิ่งแรกที่ได้พบเห็น คือ บรรยากาศของความสงบ สถานที่สะอาด สวยงามตามธรรมชาติ ผู้คนสุขุม เป็นมิตร และเอื้อเฟื้อ ความรู้สึกดังกล่าวดำรงอยู่ตลอดเวลาขณะอยู่ที่นั่น และเพิ่มพูนขึ้นตามเวลาที่ผ่านไป จากการที่เรียนรู้คำว่า peace of mind ได้ลึกซึ้งขึ้น ด้วยการฟังคำบรรยายของ Dadis ฝึกปฏิบัติสมาธิกับ Sisters และมีการเดินเพื่อสมาธิในช่วงเช้าตามเส้นทางที่สวยงามและไม่ไกลนัก ต่างเส้นทางกันในแต่ละวัน ทั้งยังมีเสียงดนตรีตามสายลมคลอเป็นระยะ ซึ่งสร้างความสุขและสดชื่นให้แก่จิตใจเป็นอย่างมาก ในช่วงบ่ายของแต่ละวันได้ไปเยี่ยมชมสถานที่สำคัญหลายแห่ง ได้แก่ Global Hospital ของบราห์มา กุมารี ซึ่งให้การดูแลรักษาฟรีแก่ประชาชนในท้องถิ่น ชมวัดเก่าแก่และมีชื่อเสียง Dilwara รวมทั้งไปร่วมสังสรรค์ในยามเย็นที่ Peace Park ที่สำคัญและมีคุณค่าต่อจิตใจมากที่สุด คือ การเดินขึ้นสู่ Baba's Rock ในช่วงเย็นเพื่อนั่งสมาธิในขณะที่พระอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้าอยู่ตรงหน้า ลมเย็นพัดผ่านเบาๆ ทุกคนอยู่ในความเงียบสงัด ณ ที่นั้น นอกจากนั้นยังมีความประทับใจกับผู้คนที่อยู่ใน Gyan Sarovar ทุกคน ซึ่งช่วยกันทำหน้าที่ของตนด้วยความสมัครใจ ดูมีความสุข ความสงบ และพร้อมที่จะมอบสิ่งดีๆ แก่ผู้มาเยือนเสมอ โดยเฉพาะอาหารมังสวิรัติที่รสชาติดีมากและขนมหวาน (Toli) อันขึ้นชื่อ บรรยากาศเช่นนั้นหาได้ยากมากในโลกปัจจุบันซึ่งมีแต่ความเร่งรีบและรุ่มร้อน ดิฉันได้รับประสบการณ์ของ retreatment ที่แท้จริง และตั้งใจว่าจะพยายามฝึกตนให้สามารถอยู่ในสภาวะแห่งความสงบ พัฒนาจิตของตนให้มีพลัง และปฏิบัติต่อตนเองและผู้อื่นในทางบวกเสมอ ในวันสุดท้ายก่อนเดินทางกลับ มีงานอำลาด้วยการแสดง Art from the Heart ของผู้เข้าร่วมสัมมนาจากประเทศต่างๆ คณะจากเมืองไทยซึ่งมีด้วยกัน 6 คน ได้นำเสนอรำวงมาตรฐาน และจากนั้นก็อำลา Gyan Sarovar เพื่อเดินทางกลับบ้านกันในวันรุ่งขึ้น" ขอบคุณสำหรับโอกาสและประสบการณ์ที่ดีเลิศ ดาวรุ่ง กังวานพงศ์ (อดีตรองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ -ตำแหน่งสุดท้ายก่อนเกษียณอายุราชการในปี 2554) พี่ดุ้งคือดาวรุ่งสมชื่อ ด้วยรัศมีของดวงดาวแห่งความกระจ่างชัด(Star of Clarity)จากประสบการณ์ชีวิตจริง "การที่จะดำเนินชีวิตของเราให้มีคุณค่า มีคุณธรรม ทั้งต่อตนเองและผู้อื่นนั้น เราต้องมีความตระหนักรู้ให้ชัดเจนว่าคุณธรรมคืออะไร และทำอย่างไรเราจึงจะมีทัศนคติที่ดี มีพลังและความสุขสงบในจิตใจได้ตลอดเวลา คำตอบของดิฉันคือ เราต้องมีความ กระจ่างชัด ในการดำเนินชีวิตของเรา ในช่วงชีวิตที่ผ่านมา ดิฉันมีเป้าหมายในแต่ละระยะที่ชัดเจนและมีความมุ่งมั่นที่จะทำให้สำเร็จเสมอ ไม่ว่าจะมีอุปสรรคมากน้อยเพียงใดก็ตาม ดิฉันเป็นคนชอบคิดแต่ไม่ชอบท่องจำ เวลาเล่าเรียนสิ่งใดจะต้องเข้าใจสิ่งนั้นให้กระจ่างเสียก่อน จากนั้นก็จะจดจำได้ไปตลอด ไม่มีลืม สมัยอยู่โรงเรียน ดิฉันชอบวิทยาศาสตร์และคำนวณ เพราะสนุกกับการแก้โจทย์ ขอแสดงความยินดีที่พี่ดุ้งได้เข้ามา ใกล้ชิดกับมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ บราห์มา กุมารี กำลังเตรียมพร้อมสำหรับโลกใหม่ด้วยการปลุกบรรพบุรุษโลกให้ตื่นขึ้นมาพัฒนาพันธุกรรมทางจิตวิญญาณ โดยการปั้นแต่งของพระเจ้าอีกครั้ง เรียกว่า Spiritual DNA หรือ Godly DNA เป็นการเปรียบเทียบเกลียวคู่(double helix) ของ DNA กับเป้าหมายของกระบวนการปฎิบัติงานระดับโลก(Global Functioning) ด้วยการประสานพลังทางจิตและทักษะในการจัดการบริหารงาน เพื่อรับใช้ช่วยเหลือมวลมนุษย์ บนพื้นฐานของกฏเกณฑ์พระเจ้า(Godly Laws) และกฏหมายบ้านเมืองตามระบบ สังคม และวัฒนธรรม ดังนั้นเมื่อเข้ามหาวิทยาลัยดิฉันจึงเลือกเรียนวิทยาศาสตร์ และทำวิจัยทางด้านพันธุศาสตร์ ซึ่งใช้ความเข้าใจและการคำนวณเป็นหลัก จากนั้นก็ศึกษาต่อในสาขาวิชาเดิมจนจบปริญญาเอก และเป็นอาจารย์สาขาเวชพันธุศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยมหิดล งานของดิฉันเกี่ยวกับการวิเคราะห์โครโมโซมในผู้ป่วยโรคพันธุกรรมและโรคมะเร็ง ต่อมาดิฉันได้โอนย้ายมาอยู่ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อจะได้อยู่ใกล้ๆ คุณพ่อคุณแม่ และได้ดูแลท่านยามเจ็บไข้ โดยเป็นอาจารย์ทางด้านพันธุศาสตร์และอณูชีววิทยา ในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใด หลังจากรับทราบข้อมูลแล้ว ดิฉันจะประเมินสถานการณ์และวางแผนการทำงานให้กระจ่างชัดก่อนลงมือทำเสมอ ยิ่งถ้าเป็นเรื่องที่ยากและซับซ้อนยิ่งต้องมองให้กว้างขึ้น หาทางออกหลายๆ ทาง เพื่อให้บรรลุผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เมื่อถามว่า... อะไรคือสิ่งที่ท่านจำเป็นต้องกระจ่างชัดเกี่ยวกับชีวิตของท่านในเวลานี้? ชีวิตหลังเกษียณอายุราชการในช่วงปีกว่าที่ผ่านมานี้ เนื่องจากเป็นอาจารย์พิเศษไม่ใช่อาจารย์ประจำ ดิฉันจึงมีเวลาให้กับตัวเองมากขึ้น ทั้งยังมีโอกาสได้เรียนรู้เกี่ยวกับสาระความรู้ทางจิตของราชาโยคะ ดิฉันจึงกระจ่างชัดในจิตใจของตนมากขึ้น และมุ่งฝึกฝนจิตของตนให้ "สงบ สะอาดบริสุทธิ์ มีสติรู้เท่าทันสภาวะจิตใจ มองผู้อื่นในแง่ดี มีเมตตาและให้อภัย" มธุบาน คืออนุสรณ์ของเทพลีลาที่บราห์มา บาบาได้สร้างกระแสจิตและบรรยากาศที่เอื้อต่อการสร้างสมคุณธรรมที่สูงส่ง ในการปฏิสัมพันธ์กันของครอบครัวพระเจ้า ที่รวมความหลากหลายให้เป็นหนึ่งเดียวกันของคนทุกชนชั้น ทุกเชื้อชาติ ทุกศาสนา ด้วยการผสมสีสันของคุณธรรมความดีที่แต่ละคนต้องนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ยกตัวอย่างเช่นพี่หล้า ดวงดาวแห่งความซื่อสัตย์(ในจดหมายข่าวฉบับที่ 9)สามารถกลมกลืนกับพี่ดุ้ง ดวงดาวแห่งความกระจ่างชัดในวันนี้ ความซื่อสัตย์และความกระจ่างชัด (Honesty&Clarity) ความซื่อสัตย์ ไม่เพียงแต่เป็นการพูดจากใจแต่หมายถึงความกระจ่างชัดเกี่ยวกับทุกสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นภายในที่ใดมีความซื่อสัตย์ ความรู้สึกจะบริสุทธิ์และสะอาด ความซื่อสัตย์ที่แท้จริงนั้น ไม่มีความคิด ความรู้สึกอื่นใด นอกเหนือจากสิ่งที่พระเจ้ามีด้วยการศึกษาความรู้ที่กระจ่างชัดของท่านซึ่งสะท้อนในคำพูดที่เต็มไปด้วยพลังของสัจจะ ถ่ายทอดได้ง่ายดายโดยไม่รั้งรอเพราะความซื่อสัตย์ที่แท้จริงปลูกฝังไว้อยู่ภายในตนเองและมีแรงดึงดูดของสัจจะสำหรับผู้ที่โหยหาความบริสุทธิ์-สะอาด ผศ.ปาริชาติ จันทร์เพ็ญ จากคณะศึกษาศาสตร์และพัฒนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม ผู้เป็นแขกรับเชิญไป Peace of Mind ครั้งนี้ ได้กรุณาฉายแสงของดวงดาวแห่ง ความอ่อนโยน(Star of Gentleness) ความอ่อนโยนต้องเริ่มจากจิตที่คิดบวกต่อผู้อื่น ต้องเริ่มจากความเข้าใจคนอื่น รักเขาให้ได้แม้เขาจะไม่น่ารัก ละการเอาตัวเราเป็นตัวตั้งหรือเป็นมาตรฐานให้คนอื่นโน้มเอียงหรือเดินเข้าหาเกณฑ์ของเรา เพราะนั่นคืออัตตาที่ห้อมล้อมด้วยความเห็นแก่ตัวอย่างแน่นหนา ดิฉันพบว่าความอ่อนโยนในตัวเองก่อตัวและสะสมมากขึ้นเรื่อยๆจากการที่ดิฉันตระหนักว่าเราจะมีชีวิตที่สงบได้อย่างแท้จริงหากเราพยายามเข้าใจคนอื่นและความเป็นไปของสรรพสิ่ง ทุกคนต้องการที่จะ "ดี" แต่การแสวงหา"ดี"นั้น แต่ละคนก็มีวิถีที่แตกต่างกันตามเหตุและปัจจัยที่แวดล้อมชีวิตนั้น ดังนั้นทุกๆวันเราจึงต้องพยายามฝึกควบคุมจิตและกายให้แสดงต่อคนอื่นเหมือนอย่างที่เราอยากให้คนอื่นแสดงต่อเราด้วยความเมตตา ความเกรงใจ ความอ่อนน้อม การยอมรับและการให้เกียรติคนอื่น ดิฉันใช้ความอ่อนโยนในการสร้างมิตรและสลายศัตรูได้ผลดีเสมอ ความอ่อนโยนไม่ใช่ความอ่อนแอ แต่ในทางตรงกันข้ามความอ่อนโยนกลับสร้างเข้มแข็งให้จิตวิญญาณจนสามารถต้านทานกิเลสตัวร้าย คือโทสะได้อย่างเยี่ยมยอด ขอจงเตรียมความพร้อมเพื่อจิตวิญญาณที่สงบ (Peace of Mind) ด้วยความอ่อนโยนต่อทุกสรรพสิ่งที่ผ่านเข้ามาเชื่อมโยงกับชีวิตของเราในเวทีละครโลกแห่งนี้ ถ้าหันกลับมามองตัวเองแล้วถามว่าเราอ่อนโยนกับตัวเองและคนอื่นแล้วหรือยัง? ดิฉันแน่ใจว่าทุกคนก็อยากจะอ่อนโยนกับตัวเองทั้งนั้นแต่ไม่เข้าใจว่าอ่อนโยนกับตัวเองน่ะคืออะไรหรือไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ดิฉันมีวิธีแสดงความอ่อนโยนกับตัวเองด้วยการเมตตาตัวเองคือไม่ทำให้จิตวิญญาณของตนเองเต็มไปด้วยความทุกข์(ใครจะเอาไปใช้ก็ได้นะคะ ไม่สงวนลิขสิทธิ์) การคิดบวกกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตทำให้ความทุกข์ในใจหมดไปดย่างรวดเร็วหรือบางทีก็ไม่เกิดขึ้นเลย ดิฉันเตือนสติตัวเองเสมอว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเราเป็นสิ่งที่ดี ใครด่าว่านินทาก็ดีเพราะทำให้รู้ว่าเขาคิดอย่างไรกับเรา ถ้าเป็นเรื่องจริงเราจะต้องระมัดระวัง ปรับปรุงตัวหรือใช้สติแก้ไขสถานการณ์นั้น ถ้าไม่จริงก็ไม่ต้องรับมาให้ขุ่นใจเพราะไม่ใช่เรา ใครชื่นชมยินดีกับเราก็เป็นกำลังใจให้เรา คิดดี พูดดี ทำดีต่อไป ส่งผลเป็นการแสดงความอ่อนโยนต่อผู้อื่นไปโดยอัตโนมัติได้เลยค่ะ เพราะการคิดดีต่อคนอื่นทำให้เราเข้าใจเขา ไม่โกรธ ไม่รังเกียจ ให้อภัย การพูดดีเกิดจากการคิดดีอยู่แล้ว ดิฉันจะพูดสิ่งที่เป็นความจริงและให้ประโยชน์ต่อพวกเขาเสมอไม่ว่าจะเป็นการให้คำแนะนำทั้งเรื่องส่วนตัวและการเรียน การอบรมสั่งสอน(โดยเฉพาะลูกศิษย์) การให้กำลังใจ หรือความสนุกสนานผ่อนคลาย ส่วนการทำดีนั้นก็เป็นผลจากการคิดดีเช่นกัน ดิฉันอ่อนโยนต่อตนเองและคนอื่นด้วยการทำสิ่งดีๆให้พวกเขาและสิ่งดีๆก็จะย้อนกลับมาหาตัวดิฉันเสมอโดยไม่ได้คาดหวัง ดิฉันพยามยามช่วยเหลือคนอื่นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้และตามความเหมาะสม ช่วยให้เขาช่วยตัวเองให้เป็นโดยไม่รอแต่ให้คนอื่นช่วย เช่น ดิฉันชวนแม่ พี่ๆและเพื่อนสนิทร่วมกันให้ทุนการศึกษาแก่ลูกศิษย์ที่ยากจนมากและอาจต้องออกจากมหาวิทยาลัยเพราะไม่มีเงินเรียน(ทั้งที่กู้เงินรัฐบาลแล้วแต่ได้มาไม่พอ) จำนวน๓ คนทุกเดือนจนกว่าเขาจะเรียนจบเพื่อให้เขาได้ช่วยเหลือคนอื่นต่อไปเหมือนกับที่เขาได้รับ และผู้ที่ร่วมทำดีกับดิฉันก็ได้มีโอกาสแสดงความอ่อนโยนต่อตนเองและผู้อื่นไปพร้อมๆกับดิฉันเช่นกัน สิ่งเหล่านี้เป็นตัวอย่างเล็กๆน้อยของการแสดงความอ่อนโยนของตัวเองค่ะ ถ่ายภาพร่วมกับ Sister Sharonah ผู้ประสานงานประจำประเทศอิสราแอล ผู้มีสติปัญญาละเอียดที่ทำให้แขกมีประสบการณ์ของสมาธิที่ลึกล้ำ ที่มธุบันดิฉันได้พบความอ่อนโยนที่ทุกคนมอบแก่กันและกัน โดยไม่ต้องพูด สายตาที่มองและการปฏิบัติต่อกันด้วยเมตตาอย่างเท่าเทียม โดยมองข้ามความเป็นหญิงหรือชาย ผู้ใหญ่ เด็ก หน้าที่การงาน ฐานะ ชนชาติหรือศาสนาใดๆ ทำให้บรรยากาศที่นั่นเต็มไปด้วยความสุขบริสุทธิ์ ตลอดสัปดาห์ที่อยู่ที่นั่นความอ่อนโยนในจิตของตนก็เพิ่มมากขึ้นอีกดิฉันรู้ว่าดิฉันโชคดีมากที่มีโอกาสได้ไปที่นั่น....... ขอขอบคุณ พี่หล้า คุณศรี น้องฝนและเหล่ากัลยาณมิตรผู้ร่วมเดินทางทั้ง 5 ด้วยความรักค่ะ.......โอมชานติ ปาริชาติ จันทร์เพ็ญ (น้อง) Be Gentle, Be Angel ขอให้อ่อนโยนเหมือนเทวดา-นางฟ้าผู้ปรากฏอยู่ในตำนานหรือเทพนิยายซึ่งมาจากชีวิตจริงของผู้เพ่งเพียรทางจิตเพื่อบรรลุถึงสภาพจิตสำนึกที่สูงสุด เป็นสภาพที่อยู่เหนือบ่วงกรรม สามารถโบยบินไปด้วยปีกของความรู้และความรักที่แท้จริงตามที่พระเจ้าให้สัญญาณ ในช่วงเวลาของการปลดปล่อยมวลมนุษย์จากความทุกข์ทรมาน วันที่ 18 มกราคม คือวันของเทวดา-นางฟ้า(The Day of Angel) ที่บราห์มา บาบาผู้ก่อตั้ง บราห์มา กุมารีได้จากร่างที่หยาบไปสู่ร่างแสง เราจึงฉลองวันแห่งชัยชนะนี้พร้อมกันทั่วโลกในความสงบเงียบ ส่วนวันที่ 19 มกราคม 2556 คือวันที่เราจะแนะนำ ชีวิตที่เป็นแสงในอาณาเขตที่ละเอียดอ่อน... เพื่อฉายภาพโลกในอนาคต ท่านพร้อมแล้วหรือยังที่จะก้าวมาสู่หนทางที่ละเอียดอ่อนอย่างอ่อนโยน? …ความไม่ก้าวร้าวรุนแรง คือปรัชญาที่ลึกล้ำมาก ฉันไม่เพียงแต่ไม่ทำร้ายใครทางร่างกาย แต่ฉันต้องหลีกเลี่ยงการทำลายความเคารพตนเองของผู้อื่น การขีดเส้นศิลธรรมจรรยาเช่นนั้นได้อย่างชัดเจน ต้องอาศัยสำนึกและการรับรู้ที่ไวอย่างละเมียดละไม เมื่อฉันได้เรียนรู้ที่จะอ่อนโยนกับตนเอง ฉันจึงสามารถเป็นเช่นนั้นกับผู้อื่นได้อย่างเป็นธรรมชาติ ...ความอ่อนโยน จึงไม่ใช่การขาดความเข้มแข็ง แต่เป็นพลังอำนาจอันยิ่งใหญ่ที่ไม่มีการบีบบังคับหรือการกระทบกระทั่งผู้ใด เราจึงขอใช้จดหมายข่าวฉบับนี้ เป็นจดหมายเชิญให้ทุกท่านมาร่วมรายการพิเศษเพื่อลิ้มรสที่หอมหวานของ มธุบานจากประสบการณ์ของผู้ที่อยู่ในกระบวนการสร้างบุคลิกภาพที่สวยงามที่สุด ด้วยความเบาสบาย และความละเอียดอ่อนของสติปัญญา รวมทั้งผู้ที่เคยเป็นแขกในรายการ Peace of Mind ในวันเสาร์ที่ 19 มกราคม 2555 เวลา 10.00-12.00น. ณ มูลนิธิ บราห์มา กุมารี ราชาโยคะ ถ.แจ้งวัฒนะ นนทบุรี