Brahma Kumaris Thailand

วันสันติภาพสากล สำหรับความเงียบสงบภายในแต่ละคน

21 กันยายน วันสันติภาพสากล เริ่มต้นจากภายใน เพื่อสะสมพลังโยคะ พร้อมสาระ 11 ประการ ตามตารางเวลา 21 ชีวิตมีบาบา เป็นศูนย์กลางทุกย่างก้าว ไม่ว่าจะเปลี่ยนสถานที่ เปลี่ยนบรรยากาศ ท่ามกลางขุนเขา แต่ละกลุ่มก็ยังสามารถทำกิจกรรม ที่มีค่าควรแก่การบันทึกไว้ในสมุดส่วนตัว เพื่อย้อนระลึกถึงประสบการณ์ของการใช้ชีวิตในความเงียบสงบร่วมกัน
6.00 - 6.30 น.
หลักการที่ 2 : ตระหนักถึงแหล่งทรัพยากรภายใน
เรามักจะหาเหตุผลที่จะบ่นและกล่าวโทษระบบภายนอก-ไม่ว่าจะเป็นศาสนา, การเมือง, หรือสังคม-และใช้เป็นข้ออ้างอย่างสะดวกสบายสำหรับความเฉื่อยชา, ความหงุดหงิด, และความคิดเชิงลบของเราเอง ระบบภายนอกทั้งหมดล้วนมีต้นกำเนิดมาจากมนุษย์ ดังนั้นจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง แม้ว่าจะถูกสร้างขึ้นด้วยเจตนาที่ดีที่สุดก็ตาม อย่างไรก็ตาม บ่อยครั้งที่ตัวปัญหาเองไม่ใช่ปัญหา ปัญหาคือวิธีที่เราคิดและรับมือกับพฤติกรรมที่ยากลำบากหรือการกระทำที่เป็นอันตราย เรามุ่งความสนใจไปที่ปัญหามากเกินไป จนมีการขยายใหญ่ขึ้นในใจและพันธนาการเราไว้กับความคิดเชิงลบ, ความไร้สาระ, และเรื่องเล็กน้อย การพันธนาการนี้ขัดขวางความเข้าใจที่ชัดเจน: เรามุ่งความสนใจไปที่สิ่งที่ผิดมากจนเรามองไม่เห็นสิ่งที่ชัดเจนอยู่แล้ว เมื่อเราฝึกฝนความเงียบสงบ เราจะไม่มุ่งความสนใจไปที่ปัญหา แต่จะสร้างพื้นที่อย่างมีสติสำหรับทางเลือกและวิธีแก้ไขแทน โดยการตระหนักและใช้ทรัพยากรภายในของเรา เราจะพบทางเลือกเชิงบวกสำหรับความคิดเชิงลบที่รุนแรงที่อยู่รอบตัวเรา
(คลิกอ่านต่อ)

กิจกรรม : ขณะที่ร่วมกันอยู่ในความเงียบสงบ ณ Tower of Peace พี่แดง/พี่วิชญ์ ผลัดกันอ่านคุณสมบัติทั้ง 4 ด้าน ของพ่อบราห์มา

หลังจากนั้น คือการเข้าห้องเรียนรับฟัง Avyakt Murli จาก Sr.Rajini ผ่านระบบออนไลน์ การแปลจากระบบกลางขัดข้องไม่ชัด พี่ภาจึงตั้งใจแปลสด

พี่หล้าไตร่ตรองมูร์ลีและสรุปคุณธรรม ก่อนจะออฟเฟอร์โบ๊ค

ดำเนินกิจกรรมแต่ละกลุ่ม ณ บ้าน Museum (10.00 - 12.00 น.)
หลักการที่ 3 : ชื่นชมความใจกว้าง/การเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
ความใจกว้างคือคุณสมบัติของการแบ่งปันและการให้ ที่นำมาซึ่งการทวีคูณตามธรรมชาติของทุกสิ่ง สิ่งนี้มาพร้อมกับความไม่ผูกมัดใดๆ เพราะไหลมาจากสถานะของความสมบูรณ์, ความสำเร็จ, และอิสรภาพ-แห่งความอุดมสมบูรณ์ แต่บ่อยครั้งที่เราลืมที่จะเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เพราะเรากลัวที่จะถูกทำให้ด้อยค่า, ถูกใช้ในทางที่ผิด, หรือไม่ได้รับความชื่นชม พวกเราหลายคนเติบโตขึ้นมาโดยให้คุณค่ากับความเห็นแก่ตัวเพื่อเป็นเกราะป้องกันตนเองในโลกที่เต็มไปด้วยความโลภและไร้ความรู้สึก แต่ความใจกว้างเป็นสภาพธรรมชาติของเรา ในธรรมชาติ เมื่อเมล็ดพืชได้รับโอกาสที่จะเติบโตเป็นต้นไม้ ก็จะเติบโตและเบ่งบาน สร้างดอกไม้และผลไม้ปีแล้วปีเล่าในวัฏจักรของความใจกว้างตลอดช่วงชีวิตของมัน เมล็ดพืชหนึ่งเมล็ดไม่ได้ให้แค่ผลไม้หนึ่งผล; ต้นไม้จากเมล็ดหนึ่งเมล็ดจะผลิตผลไม้นับพันผลเป็นเวลาหลายปี ต้นแม่ยังสร้างเมล็ดอีกมากมายในแต่ละปี-ซึ่งล้วนเต็มไปด้วยศักยภาพที่จะให้ชีวิต, ไม่ว่าจะเป็นในรูปของต้นไม้ใหม่หรืออาหารสำหรับสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ไม่มีเหตุผลว่าทำไมเราไม่สามารถเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่หรือใจกว้างได้เหมือนธรรมชาติ (คลิกอ่านต่อ)
กิจกรรม : กระต่าย แบ่งปันสาระในความสงบ และสร้างความประทับใจในความใจกว้างของต้นไม้

และแม่ชิ้ง แจกมะม่วงแผ่นเพิ่มความหวานในความใจกว้างแก่ผู้ร่วมกิจกรรม ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์จากต้นมะม่วง จากมารดาคุณบูรพา-กระต่าย

หลักการที่ 5 : ให้คุณค่ากับตัวเอง
เมื่อคุณให้คุณค่ากับเอกลักษณ์เฉพาะตัวของคุณ, คุณจะกลายเป็นคนแข็งแกร่งและมีอิสระ, ไม่ถูกผูกมัดด้วยความสำเร็จหรือความล้มเหลว, ด้วยความสามารถและความคิดเห็น, หรือด้วยความสัมพันธ์และประสบการณ์ในอดีต คุณจะไม่ถูกยกขึ้นมากเกินไปจากคำพูดสรรเสริญ, และไม่รู้สึกพังทลายจากความเข้าใจผิดหรือไม่ชอบ
เมื่อคุณฝึกฝนความเงียบสงบ, คุณจะก้าวถอยออกมาจากภาพลักษณ์ที่คนอื่นมีต่อคุณและสามารถชื่นชมคุณค่าของตัวตนที่เป็นเอกลักษณ์ของคุณได้ คุณจะได้เรียนรู้ว่าคุณมีคุณค่าดั้งเดิมที่ไม่สามารถถูกทำลาย, เสียหาย, หรือเลียนแบบได้, และเมื่อคุณได้สัมผัสกับพิมพ์เขียวภายในนี้ คุณจะรู้สึกถึงคุณค่าของตัวตนที่แท้จริงของคุณอย่างลึกซึ้งจนความเคารพตนเองเริ่มผลิบาน คุณจะรู้สึกสมบูรณ์ เมื่อคุณมีสำนึกรู้ถึงตัวตนที่เป็นเอกลักษณ์ของคุณ, ให้ฝึกความถ่อมตนเพื่อรักษาคุณค่านั้นไว้ ความถ่อมตนจะช่วยให้คุณให้คุณค่าแก่ผู้อื่นและเคารพเอกลักษณ์ของพวกเขาไปพร้อมๆ กับของคุณเอง
กิจกรรม : พี่หญิง นำเสนอสาระ 😇ให้คุณค่ากับตัวเอง
แต่ละคนมีคุณค่าดั้งเดิมที่เป็นความพิเศษเฉพาะตนไม่สามารถถูกทำลาย หรือเลียนแบบได้ เมื่อสัมผัสถึงคุณค่าของตัวตนที่แท้จริงอย่างลึกซึ้ง จนความเคารพตนเองผลิบานพร้อมกับความถ่อมตน จึงรักษาคุณค่านี้ไว้จนนำมาซึ่งการให้คุณค่าแก่ผู้อื่นและเคารพเอกลักษณ์ของทุกคนไปพร้อมๆกับของตนเอง
(คลิกอ่านต่อ)

ป้าแมวทำหน้าที่
แต้มทิลัค

ทุกคนต่อแถวอยู่ในความเงียบสงบ ส่องกระจกในสำนึกที่เป็นดวงวิญญาณและรับคุณสมบัติพิเศษจากการหยิบดวงดาว 1 ดวง แล้วนำมาแบ่งปันผ่านสายตาของสำนึกที่เป็นดวงวิญญาณให้คนที่ต่อข้างหลัง ก่อนนำกลับไปบันทึกลงในสมุดประจำตัวของตนเอง

หลักการที่ 10 : เน้นย้ำด้านบวก
คนที่จมอยู่กับเรื่องเล็กน้อย, ความไร้สาระ, และเรื่องดราม่า(ละครน้ำเน่า) จะใช้ชีวิตอยู่ในสภาวะของการพร่ำบ่นอย่างต่อเนื่อง แทนที่จะบินอย่างมีอิสระและความสุข, คนเหล่านี้จะขังตัวเองไว้ในกรงของหัวใจที่แห้งแล้งและคับแคบ พวกเขายังแสวงหาเพื่อนร่วมทางที่คล้ายกัน จำคำกล่าวเก่าแก่ที่ว่า “นกที่ขนเหมือนกันจะเกาะกลุ่มกัน” ได้หรือไม่? ในขณะที่ความจริงสามารถกระทำเพียงลำพังได้, ความเท็จมักต้องการเพื่อน-เพื่อซุบซิบนินทา, เพื่อไม่เห็นด้วย, เพื่อตัดสิน, เพื่อรู้สึกว่าตนเองชอบธรรม, และเพื่อฆ่าเวลา เมื่อคนนินทา, พวกเขาจะเสริมสร้างภาพลวงตาของกันและกัน สำคัญมากที่เราต้องหลีกเลี่ยงการสร้างมิตรภาพเพราะความไม่ชอบร่วมกันหรือความเชื่อเชิงลบอื่นๆ แม้ว่าการรวมกลุ่มอาจดูดี, การวิพากษ์วิจารณ์และความสุขที่ได้จากการดูถูกคนอื่นจะยกเลิกสิทธิ์ของเราที่จะมีความสุข เราควรแสวงหาเพื่อนแบบไหนเพื่อรักษาความสุขของเรา? ลองทำแบบฝึกหัดด้านล่างเพื่อค้นหาว่าคุณกำลังแสวงหาเพื่อนด้วยเหตุผลที่ถูกต้องหรือไม่-คือการมองโลกในแง่บวก ใช้เวลาสักครู่...เพื่อตรวจสอบความจริงใจของคุณ
(คลิกอ่านต่อ)
กิจกรรม : 3 แม่ ได้แก่ แม่ปุ้ม/แม่ปุ๋ย/แม่เก๋ นำเสนอสาระ ก่อนแจกบัตร ท้าทายปัญหา ให้ทุกคนช่วยกันแก้ไขกิเลส ด้วยคุณธรรม ให้ตรงกัน

หลักการที่ 9 : กันไว้ดีกว่าแก้
เมื่อเราตระหนักถึงความคิดหรือความผิดพลาด โดยไม่ลังเลหรือกลัว, ลงมือแก้ไข, ชีวิตจะดีขึ้น เมื่อเราปฏิเสธที่จะเห็นหรือยอมรับรูปแบบเชิงลบ, ไม่ว่าจะเล็กน้อยแค่ไหน, ความเสียหายก็จะแย่ลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การตระหนักรู้ (Recognition) เกิดขึ้นจากความถ่อมตน, เช่นเดียวกับความกล้าหาญที่เกิดขึ้นจากความซื่อสัตย์ เราจะพัฒนาคุณสมบัติเหล่านั้นได้อย่างไร? ด้วยการฝึกฝนความเงียบสงบ, ซึ่งจะปรับจูนเราให้เข้ากับสัญชาตญาณและตัวตนที่ดีกว่าของเรา เพื่อให้เราตระหนักถึงความคิด "อ๋อ! Aha!" ที่เราต้องลงมือทำและยังมองเห็นความผิดพลาดได้อย่างชัดเจน

กิจกรรม : พี่ปู นำเสนอสาระ ก่อนตอบคำถาม ที่ยกตัวอย่างในการนำสาระไปสู่ทางปฏิบัติในการทำงานที่บริษัท

หลักการที่ 4 : เรียนรู้จากสิ่งตรงข้ามเชิงบวก
เพื่อทำภารกิจใดๆ ให้สำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ เราควรจัดระบบทีมหรือกลุ่มคุณค่า ที่เหมาะสมและสามารถทำงานได้ด้วยตัวเองให้สำเร็จ ภาพรวมของความสำเร็จหมายถึงการบรรลุความสุข, ความสงบ, และความคิดสร้างสรรค์ และเติมเต็มความรู้สึกถึงเป้าหมาย ของตนและของกลุ่ม/ทีม อย่างสอดคล้อง มีการสำรวจแนวคิดเหล่านี้ในการฝึกฝนความเงียบสงบภายในด้วยแบบฝึกหัดที่ให้พิจารณาว่า
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเราไม่ได้ใช้ทีมคุณค่าทั้งหมดเพื่อรับมือกับสถานการณ์และผู้คน? โดยทั่วไป เราจะตระหนักถึงความสำคัญและประโยชน์ของค่านิยมเพียงอย่างเดียว, แล้วก็ยึดติดอย่างไม่ลดละ ตัวอย่างเช่น คุณสมบัติของความมุ่งมั่นจะส่งเสริมให้เกิดสมาธิ, การจดจ่อ, และความตั้งใจที่จะเผชิญหน้ากับอุปสรรค อย่างไรก็ตาม หากคุณพึ่งพาคุณสมบัตินี้เพียงอย่างเดียวเป็นเวลานาน อาจเสื่อมถอยไปสู่ความแข็งกร้าว, ดื้อรั้น, รุนแรง, หรือแม้แต่ความหมกมุ่น
(คลิกอ่านต่อ)

กิจกรรม : พี่หล้า ขอให้ผลัดกันจับคู่ ทำความรู้จักกันตามคุณสมบัติของดวงดาวที่ติดเสื้อของแต่ละคน

12 นาฬิกาพร้อมเพรียงกัน จำลองเสียงระฆังสันติภาพ ซึ่งตั้งอยู่ที่ลานนอกอาคาร องค์การสหประชาชาติ ให้สัญญาณก่อนการประชุมสมัชชาใหญ่ของรัฐบาลโลก ณ ที่นี่ เมื่อถึงเวลาของการเปลี่ยนแปลง 12 นาฬิกา เรารับฟังเสียงระฆังดังกังวานของโบสถ์อันศักดิ์สิทธิ์ ที่ทิ้งความเงียบสงบเมื่อสุดเสียงนั้น จาก VDO Silence (บันทึกโดยพี่หล้า)

เก็บภาพความทรงจำ หลังช่วงเที่ยงที่สำคัญเพื่อการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ด้วยความทรงจำตลอดทั้งวงจร 5000 ปี ตามนัยสำคัญของ
'สวัสดิกะ' กงจักรของการสำนึกรู้ในตนเอง

15.00 น. หลังจากรับประทานอาหารกลางวันและพักผ่อน พี่เคี้ยงขับรถนำทางขบวนออกจากนอร์ดิก้า ไปยังร้าน Brown & Blanco Coffee and Bread สำหรับกิจกรรมนอกสถานที่

หลักการที่ 8 : ทำอะไรได้อย่างนั้น
เชื่อหรือไม่, ทุกสิ่งจะกลับคืนสู่ผู้สร้างความคิด, คำพูด, หรือการกระทำ ไม่ว่าเราจะส่งอะไรออกไปสู่จักรวาล จะสะท้อนกลับมา, ไม่ช้าก็เร็ว ดังนั้น เราต้องพูด, คิด, และกระทำด้วยความระมัดระวังและ, ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น, ด้วยความเคารพ; มิฉะนั้น, ความสุขจะหายไปอย่างรวดเร็วเหมือนน้ำที่เทลงบนทรายร้อนในทะเลทราย ความเงียบสงบช่วยให้เราใช้เวลาสักครู่เพื่อปรับจูน(tune in) ก่อนที่เราจะลงมือทำ

กิจกรรม : พี่นิ/พี่เจ เตรียมหลักการสั้นๆ มาแจกพร้อมโทลี ให้ทุกคนอยู่ในความเงียบสงบ ตามมุมที่เลือกนั่งบันทึกประสบการณ์ในสมุดประจำตัว ท่ามกลางกลางขุนเขากว้างใหญ่ ในบรรยากาศที่สดชื่นเย็นสบาย

หลักการที่ 7: ปรับตัวเข้ากับปัจจุบันขณะ
ระมัดระวัง! ที่จะไม่ติดอยู่กับสูตรสำเร็จของ "ถูก" และ "ผิด" ตามประเพณี, หรือค่านิยมหรือธรรมเนียมทางสังคม, หรืออารมณ์ส่วนตัว จงสร้างความสุขเมื่อเคลื่อนไปตามสำนึกรู้ในแต่ละขณะ, ไม่ใช่ตามสูตรที่สะดวก โดยการใช้เวลาสักครู่อยู่นิ่ง เงียบ สงบในระหว่างวัน, จะสัมผัสกับปัจจุบันขณะและมองเห็นสิ่งที่ต้องเข้าใจและลงมือทำ การตอบสนองที่เหมาะสมนั้นต้องอาศัยการไตร่ตรองอย่างรอบคอบมากกว่าการตัดสิน การตัดสินเป็นอันตราย; การพิพากษา(Judgements) สร้างอุปสรรคทางจิตใจและอารมณ์ เพิ่มอำนาจของการยึดติดกับตัวตนที่ผิดๆ กลายเป็นพิษหากยึดมั่นในกฎเกณฑ์เพื่อประโยชน์ส่วนตน ความสามารถในการแยกแยะก่อนการตัดสิน(Discernment) ช่วยให้เราปรับตัว, มีความรู้สึก, เคารพต่อความจำเป็นของปัจจุบันขณะ; ความสามารถในการตัดสินดี มีพื้นฐานมาจากความเมตตา เราใช้เวลาสักครู่...เพื่อใส่ใจกับปัจจุบันขณะ

หยุดสัก หนึ่งหรือสองนาที, และอยู่อย่างนิ่ง และเงียบสงบ
ลองมองย้อนกลับไปในวันของคุณและถามตัวเองด้วยคำถามต่อไปนี้:
- คุณได้ยินสิ่งใดที่ผู้อื่นพูดกับคุณ?
- คุณได้ยินอะไรที่คนอื่นพูดคุยกันเอง?
- คุณได้ยินสิ่งที่ต้องจำหรือไม่, ไม่ใช่คำพูดและวลีอื่น ๆมากมายใช่หรือไม่?
- มีข้อความสำหรับคุณในคำพูดที่คุณได้ยินวันนี้หรือไม่?

เมื่อได้ไตร่ตรอง-ผ่อนคลายและค่อยๆ ยืดหยุ่นไปกับคำพูดที่จำได้-ให้สังเกตว่ามีอะไร "คลิก" เพื่อสร้างช่วงเวลาที่เกิด "อ๋อ!" ขึ้นหรือไม่ หากวันนี้ไม่เกิดขึ้น, คำพูดที่คุณให้ความสนใจในวันนี้จะปูทางสำหรับช่วงเวลาแห่งการตระหนักรู้ที่จะตามมาในไม่ช้า

กิจกรรม : เราเดินทางต่อไปถึง Chiva Castle พี่นิกกี้ พาทุกคนขึ้นบันไดไปชั้น 3 ด้วยเพลง A Moment in Time (เพลงปลุกนักกีฬาโอลิมปิก) เพื่อสร้างความกระตือรือร้นขณะเดินขึ้นบันไดที่คดเคี้ยวไปยังเป้าหมาย(ชั้น 3 และ 4) ให้สำเร็จ แม้จะถึงช้าถึงเร็วก็ตาม บริเวณระเบียงชั้น 3 เห็นวิวรอบทิศกว้างใหญ่ไพศาล พี่นิกกี้อ่านคำถามทั้ง 4 นั้นช้าๆ ให้ติดตามและตอบด้วยตนเอง พี่ศรีนำเสนอสาระและแจกเอกสารให้บันทึกในคำถาม-คำตอบ และแจกโทลี

หลักการที่ 1: ใช้ชีวิตในปัจจุบันอย่างเต็มที่
การใช้เวลาไปกับความทรงจำที่กระตุ้นให้เกิดความรู้สึกผิด, ความเสียใจ, หรือความคิดถึงอดีต(nostalgia)เป็นสิ่งที่ไม่ค่อยมีประโยชน์ อดีตคืออดีตจบไปแล้ว, และเราต้องเดินหน้าต่อไป พวกเราทุกคนสามารถเพลิดเพลินกับ "การตระหนักรู้ในปัจจุบันขณะ" ได้ การมีสติอยู่กับปัจจุบันจะช่วยขับไล่เงามายาออกไป ซึ่งเป็นสิ่งที่เรามักพูดว่า "น่าจะ...", "ควรจะ...", "น่าจะมี..." "ตอนนี้" ปรากฏขึ้นเสมอ ให้จดจ่อ หยุดสักครู่และอยู่นิ่งๆ เงียบๆ

กิจกรรม : บนหอคอยชั้น 4 ตกแต่งด้วยโบราณวัตถุ รวมทั้งเปียโนอายุ 300 ปี ครั้งหนึ่งคุณเชี่ยวให้ลูกชาย(น้องชีวา)เล่นเพลงคลาสสิกให้ฟัง โอกาสนี้พี่หล้า คุณเชี่ยวและแขกแบ่งปันเกี่ยวกับสิ่งโบราณที่เราแต่ละคนสนใจ

พี่ภา รับของขวัญจากคุณเชี่ยว นกฮูก สัญลักษณ์ของปัญญา

พี่หล้าสรุป "ปัญญาโบราณ" มีค่าต่อการใช้ชีวิตที่ทันสมัย นกฮูกหมุนคอรอบตัว 360 องศา รู้ว่ามีปัญญารอบรู้ในปัจจุบัน ส่วนมนุษย์โบราณจริงๆ นั้นมีปัญญาใช้ 84 ชาติเกิด จนครบรอบวงจรละครโลก 5000 ปีย่อมหยั่งรู้ อดีต ปัจจุบัน อนาคต โดยใช้ชีวิตที่มีค่าที่สุดในปัจจุบัน
หลักการที่ 6 : เชื่อมโยงกันอยู่เสมอ
เดินทางกลับ นอดิก้า ได้นัดพบกันที่สะพาน สัญลักษณ์ของการเชื่อมโยงระหว่างโลกภายในและโลกภายนอก, มิฉะนั้น, ก็เหมือนมีเมล็ดพืชที่ไม่ได้นำมาปลูกและไม่สามารถเติบโตเบ่งบานได้เลย สะพานจะเอื้อในการสื่อสารที่แท้จริงกับผู้อื่นและช่วยให้เราคงความสมดุลในชีวิตที่มีความสุข ภายนอกก็เน้นความสัมพันธ์และสถานการณ์ที่หลากหลาย, กระตุ้นให้เราฟื้นฟูและประเมินตนเองอีกครั้ง ทั้งความคิด, ความรู้สึก, และทัศนคติ หากไม่มีการไตร่ตรองและคิดทบทวนนี้, เราอาจติดอยู่ในปัญหาในชีวิตประจำวัน, ความเจ็บปวด, และสภาพที่ไร้ความหมาย หากเรามีสำนึกรู้และกล้าหาญที่จะเดินทางไปมาระหว่างโลกภายในและโลกภายนอกบ่อยๆ ในแต่ละวัน, เราจะ "ที่ได้รับการขัดเกลา" ให้ปรับตัวและเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น-เมื่อเราเปลี่ยนหลักการอันเป็นนิรันดร์ให้เป็นคุณค่าในชีวิตประจำวัน เราจะกลายเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาการเปลี่ยนแปลงที่เป็นประโยชน์แก่ตัวเราเองและผู้อื่น การฝึกฝนความเงียบสงบช่วยให้เราถอยห่างจากโลกภายนอกและใช้บทเรียนที่เราพบที่นั่นเพื่อการไตร่ตรองและเปลี่ยนแปลงจากภายใน
กิจกรรม : นัดหมายตรงเวลา 5 โมงครึ่ง ตามตาราง ควบคุมการจราจรของจิตใจ พี่เคี้ยงเชิญผู้ร่วมกิจกรรมเดินขึ้นไปหยุดตรงกลางสะพาน เพื่อนำเสนอสาระ ในความสงบ ก่อนเดินข้ามสะพานไปยังบ้านใหญ่ เพื่อรับประทานอาหารเย็น

หลักการที่ 11 : พื้นที่ + ความเงียบ = การฟื้นฟู
หลักการสุดท้ายสำหรับการใช้ชีวิตที่ดีขึ้นคือสมการสำหรับความสมดุลและความเป็นอยู่ที่ดีที่สนับสนุนหลักการทั้งสิบข้อก่อนหน้านี้ หากเราฝึกเพียงข้อนี้, ข้ออื่นๆ จะตามมา เริ่มต้นด้วยการสรุปสาระสำคัญของการฝึกความเงียบด้วยแบบฝึกหัดนี้: ใช้เวลาสักครู่...เพื่อฟื้นฟูและเติมความสดชื่น

หยุดหนึ่งหรือสองนาที และอยู่นิ่งๆ เงียบๆ
ในความเงียบสงบของปัจจุบันขณะนั้น, หันจิตใจเข้าสู่ภายในเพื่อเติมความสดชื่น, และก้าวเข้าสู่มหาสมุทรแห่งความเยือกเย็น
ในคลื่นแห่งความเยือกเย็น, เริ่มปลดปล่อยตัวเองจากความคิดเชิงลบและความไม่แน่นอน เลื่อนเข้าสู่สถานที่ที่ไม่ต้องคิด, และอยู่นิ่งๆ
นำตัวตนที่ได้รับการฟื้นฟูจิตใจแล้วกลับไปใช้ในชีวิตประจำวัน

กิจกรรม : พี่ภานำเสนอสาระ ก่อนนำโยคะด้วยการแปล VDO ให้ทุกคนอยู่ในความเงียบสงบ ในตอนโยคะเย็น ณ ห้องเรียน บ้านนางฟ้า คลิกฟังเสียงแปลไทย

22 ก.ย. ก่อนร่ำลาจากกันกลับ กทม. เราแวะเปลี่ยนบรรยากาศ ณ สนาม คงรัต แรนโช ชาญวีร์ รีสอร์ท แอนด์ คันทรี คลับ

คุณป้าแมว วัย 85 รักษาคุณธรรม สดชื่นแจ่มใสได้เสมอ สนุกสนาน ในการเล่นชิ่งช้าหมุน

ประสบการณ์จากพี่น้องทางจิตในวันสันติภาพ
แม่เก๋
การได้มีโอกาสเข้าร่วมงานวันสันติภาพที่นอร์ติกา โคราช ในครั้งนี้ แม้ว่าฉันจะเข้าร่วมเพียงบางกิจกรรม แต่ทุกกิจกรรมก็เต็มไปด้วยคุณค่าและความหมาย งานถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย ผ่านการแบ่งกลุ่มย่อยที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้และสะท้อนประสบการณ์ในบรรยากาศที่สงบและเป็นกันเอง สิ่งที่ฉันได้รับจากกิจกรรม ไม่ได้เป็นเพียงความรู้เชิงหลักการ เช่น การมีใจกว้าง การเคารพตนเอง และการคิดเชิงบวกเท่านั้น แต่ยังเป็นการฝึกใช้สติปัญญาอย่างมีสมาธิ และได้สัมผัสถึงพลังของความเงียบสงบภายใน ขณะเดียวกันก็รู้สึกอบอุ่นที่ได้ทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัวทางจิต สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดการไตร่ตรองอย่างลึกซึ้ง และนำไปสู่ความเข้าใจใหม่ๆ เกี่ยวกับตนเอง จากประสบการณ์ครั้งนี้ ฉันได้เรียนรู้ว่าความสงบไม่จำเป็นต้องหาที่ไหนไกล แต่สามารถเกิดขึ้นได้เมื่อเราหยุดนิ่ง อยู่กับตัวเอง และเปิดใจเรียนรู้ งานวันสันติภาพครั้งนี้จึงเป็นเหมือนการปลุกให้ฉันได้กลับมาสัมผัสกับความสงบในใจ และได้ค้นพบคำตอบบางอย่างที่ช่วยนำทางชีวิตต่อไป โอมชานติ

สะท้อนความรู้สึก
🌸 หลักการ “ใจกว้าง” 21-09-2025
(คลิกอ่านต่อ)

แม่ปุ้ม
รู้สึกขอบคุณจากหัวใจจริงค่ะ จากทุกกิจกรรม จากทุกบรรยากาศที่ได้สร้าง เตรียมพร้อมต้อนรับ ให้พี่น้องได้ชื่นชมสัมผัสกับความงามของธรรมชาติ ให้ได้พร้อมก้าวสู่การเดินทางภายในได้อย่างง่ายดาย ได้รับการปลุกเรียกและย้ำเตือนตนเองอีกครั้ง และก็อีกครั้ง..กับภาวะที่สูญเปล่าไปกับเรื่องใด ที่สร้างภาวะรู้สึกหนักหน่วงในชีวิต ให้ได้กลับมาตระหนักถึงความจริงแท้ข้างใน ที่เราจะเป็นนายผู้สร้างชีวิตตนเองให้อิ่มเต็มได้อย่างไร ในภาวะที่ภายนอกวิกฤตแปรปรวนเกิดขึ้นในทั่วทุกทิศทาง ท่ามกลางทุกสิ่ง! ได้เตือนเราถึงสิ่งที่ควรทำ ควรเป็น..ได้มากเท่าที่เรามีภาวะที่เต็มอิ่ม จากการได้สะสมสต็อคไว้ได้มากเพียงใด ซึ่งในแต่ละหลักการ..ในฐานที่ได้เข้าร่วมก็เป็นภาวะที่เราต้องตระหนักรู้จักตนเองภายในจริงๆ ที่เราจะรู้ว่า..ควรคิด พูด ทำอะไร..เพื่อให้เราได้รับความเป็นอิสระกลับคืนมา นำตนเองกลับคืนสู่ชีวิตที่สมดุล เพื่อที่เราจะพร้อมแบ่งปัน ทุกประสบการณ์ที่ตนเองได้รับ ได้ร่วมสร้าง..กระแสบรรยากาศ ให้กับทุกสิ่งรอบตัว ให้ทุกคนได้สัมผัส..ถึงภาวะเป็นแสงที่เบาสบาย ด้วยคุณค่าและความดีงาม ที่ทุกคนต่างร่วมกันสร้างขึ้นมา เตรียมเราให้พร้อมในการอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข และมีสันติภาพได้อย่างแท้จริงจากข้างใน (คลิกอ่านต่อ)