Sr.Sheetal นำสมาธิก่อนช่วง
มูร์ลี ในโอกาสที่มาพบครอบครัวทางจิต เพื่อดูแลรักษาสุขภาพร่างกายและจิตวิญญาณ พยายามถ่ายทอดวิชาจาปาตีสุขภาพที่ Cafe
มูร์ลี ในโอกาสที่มาพบครอบครัวทางจิต เพื่อดูแลรักษาสุขภาพร่างกายและจิตวิญญาณ พยายามถ่ายทอดวิชาจาปาตีสุขภาพที่ Cafe
ครั้งแรกพบกับน้องฝน 15 ก.ค. พร้อมน้องอุ๊คร่วมรับประทานอาหาร ที่บ้านนันทนา นอกจากกระแสจิตที่ดี ยังมีฝีมือด้านการบำบัด ให้เป็นหมอตนเอง สามารถดัดท่าอิริยาบถได้ทันที อย่างน่าอัศจรรย์ อาทิตย์ถัดมา พี่น้องทางจิต ผู้ที่ได้ใช้ร่างใช้แรงในงานรับใช้มามากมาย จึงพบกันที่บ้านเขาใหญ่ นอร์ดิกาฮิลล์ โคราช
สิ่งสำคัญที่สุด คือจังหวะเวลาและความตั้งใจ ในการรับบทเรียนราชาโยคะจนจบหลักสูตร เพื่อยืนยันการเป็นเครื่องมือของสิ่งสูงสุด ด้วยสำนึกที่สูงส่งในการเป็นผู้เยียวยา บาบาคือที่สุดในการรักษาโดยจัดหาเครื่องมือบำบัดให้ทุกคนเล่นบทบาท ตามความปรารถนาของหัวใจที่ ซื่อสัตย์ สะอาด และบริสุทธิ์ เพื่อปกป้องคุ้มครองตนเองจากความหลอกลวงตนเองและผู้อื่น ทุกคนจึงต้องระวังข้อสอบและเหตุของโรคภัย ที่กำเริบจากความอ่อนแอ
ดังนั้น การเยียวยาอารมณ์และหัวใจ ถือว่าสำคัญที่สุด เพราะมนุษย์สะสม ปมเด่น/ปมด้อย ไว้มากมาย ซึ่งจำเป็นต้องถูกทำลาย ให้เบาสบาย ไม่กีดขวางการไหลเวียนของเลือดลม ในกระบวนการสะสางบัญชีกรรมในรูปของโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ กัน สรุปได้ว่า เวลาและพระเจ้า คือผู้เยียวยาที่ยิ่งใหญ่ที่สุด Time & God is a Greatest Healer เพราะท่านคือผู้ชำระล้างบาป คงความบริสุทธิ์เสมอ เราจึงต้องดูดซับกระแสจิตที่บริสุทธิ์ที่สุด โดยไม่เสียเวลาไปกับอารมณ์และกระแสจิตที่เป็นลบของตนหรือของใครที่ส่งผลกระทบ ทุกอย่างเกิดจากสำนึกรู้ ทัศนคติ และการกระทำของเราเอง ในการปฏิสัมพันธ์ เวลากำลังเป็นเครื่องพิสูจน์
23 ก.ค.บทสัมภาษณ์ประวัติพี่หล้า โดย GodlyWood ผ่านระบบ ผู้แทนประเทศ (NCO)
Brahma Kumaris Thailand
ฉบับที่ 3 ฉบับที่ 48 ปัญญา ประจำวันพุธที่ 23 กรกฎาคม 2568
เส้นทางสู่ชีวิตทางจิตของฉัน
การเดินทางทางจิตของฉันเริ่มต้นอย่างแท้จริงเมื่อฉันพบว่าตัวเองอยู่ท่ามกลางเหล่าโยคีผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นแหล่งแรงบันดาลใจและข้อมูลอันมหาศาล ฉันรู้สึกราวกับว่าพระเจ้าประทานเครื่องมือให้ฉันเดินตามเส้นทางนี้ด้วยศรัทธาอันลึกซึ้งในทันที ฉันได้เห็นการอุทิศตนของพวกท่าน ใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด และรู้ว่าฉันเองก็สามารถมุ่งมั่นทำในสิ่งที่พระเจ้าต้องการจากฉันได้ การแสวงหาความเป็นไทของฉันผลักดันให้ฉันไม่ยึดติดกับชื่อเสียงเกียรติยศ หรือสิ่งใดที่ได้รับจากมนุษย์คนอื่น ฉันปรารถนาที่จะก้าวข้ามความยึดติดเหล่านั้นและใช้ชีวิตเพื่อจุดมุ่งหมายที่เหนือขึ้นไป
จุดเปลี่ยนที่ไม่คาดคิด: การแต่งงานและราชโยคะ
ฉันเชื่อว่าการตัดสินใจแต่งงานของฉันเป็นส่วนหนึ่งของแผนการของพระเจ้า ตอนแรกฉันชั่งใจระหว่างสองเส้นทาง แต่ในที่สุดฉันก็พบว่าตัวเองอยู่ในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นที่ที่ฉันมีการเกิดใหม่ทางจิตวิญญาณอย่างแท้จริง แม้กระทั่งในช่วงปีฮันนีมูนของฉัน การตื่นรู้ทางจิตวิญญาณก็กำลังดำเนินอยู่ แผนการของพระเจ้าคือให้ฉันได้พบกับท่านที่ญี่ปุ่น
ฉันได้พบกับราชโยคะผ่านหญิงสาวชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งที่ชวนฉันไปฟังการบรรยายเรื่องมังสวิรัติ การบรรยายนั้นน่าเชื่อถืออย่างมาก เมื่อพูดถึงประเด็นทางศีลธรรมจรรยา ไม่มีข้อแม้ใดๆ เลย ทุกเหตุผลที่นำเสนอล้วนสะท้อนเสียงจากใจของฉันอย่างลึกซึ้ง ตอกย้ำความปรารถนาที่ฉันจะเป็นมังสวิรัติ
การเปลี่ยนแปลงในเจ็ดวัน
หลังจากเรียนหลักสูตรราชโยคะเพียงเจ็ดวัน ทิศทางชีวิตของฉันก็กระจ่างชัดขึ้น ฉันรู้ว่านี่คือเส้นทางของฉัน ฉันบอกสามีว่า นี่คือชีวิตของฉัน และแสดงความปรารถนาที่จะเจาะลึกเข้าไปในจิตวิญญาณ ไม่มีใครสามารถขัดขวางแรงกระตุ้นอันลึกซึ้งนั้นได้ มันไม่ง่ายเลย ในตอนแรกสามีของฉันไม่ค่อยพอใจกับการตัดสินใจของฉันที่จะอุทิศชีวิตอย่างเต็มที่ แด่พระเจ้า แต่ในที่สุดเขาก็ตระหนักว่าเขาไม่สามารถหยุดฉันได้ ฉันอธิบายว่าฉันยังคงเป็นภรรยาได้ แต่วิถีชีวิตทางจิตวิญญาณและชีวิตที่บริสุทธิ์ของฉันนั้นเป็นสิ่งที่ไม่อาจต่อรองได้ ฉันปรารถนาที่จะรับใช้มนุษยชาติ ฉันมีทุกอย่าง ทั้งสามีที่ดี ครอบครัวที่ดี ทรัพยากรทางการเงิน แต่ฉันจำเป็นต้องทำให้ชีวิตของฉันมีค่าอย่างแท้จริงด้วยการอุทิศเวลาของฉันให้กับพระเจ้า
ตลอดสามปีที่อยู่ที่ญี่ปุ่น ฉันสร้างสมดุลระหว่างชีวิตสมรสกับการฝึกฝนโยคะ นับเป็นช่วงเวลาแห่งการเรียนรู้ที่ลึกล้ำและการค้นพบตัวเองอย่างลึกซึ้ง ฉันกลายเป็นโยคีที่แข็งแกร่งภายในจิตใจ
การกลับมาเมืองไทยและการสร้างครอบครัวทางจิตวิญญาณ
ฉันรู้สึกมีแรงดึงดูดอย่างแรงกล้าให้กลับมาเมืองไทย หลักการของพระเจ้าชัดเจน นั่นคือ เราต้องมีความรับผิดชอบ ฉันรอคอยอย่างอดทนจนกระทั่งสามียอมรับในความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ของฉัน และในที่สุดก็ยอมรับว่าเขาไม่อาจขวางทางระหว่างฉันกับพระเจ้าได้ นี่เป็นของขวัญจากพระเจ้าที่ให้อิสรภาพในการคงความบริสุทธิ์และเป็นเครื่องมือของท่าน การกลับมาเมืองไทยของฉันถือเป็นจุดเริ่มต้นของบทบาทใหม่ในการรับใช้ ฉันได้รับพรจากครอบครัวที่คอยสนับสนุนฉันอย่างแท้จริง ปัจจุบันแม่ของฉันอยู่ในวัย 97 ปีแล้ว และเป็นผู้มีชัย (เป็นแชมป์) ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฉัน ท่านหันมาเป็นมังสวิรัติปฏิบัติตามและยังช่วยแปลหลักสูตรราชาโยคะขั้นพื้นฐานร่วมกับลูกพี่ลูกน้องอีกสองคน
(คลิกอ่านต่อ)
28 ก.ค.การระลึกถึง ดิดี้ มานโมฮินี
พี่ภาได้แปลและตัดตอนจากคลาสของ Sr.Jyanti ในวันที่ 6 ก.ค. 2025 ที่ลอนดอน เกี่ยวกับคุณสมบัติที่โดดเด่นที่สุดของดิดี้ มานโมฮินี (“The Highest role is to be a child of God”) คือการเป็นลูกของพระเจ้า
การจดจำระลึกถึงดีดี้ มานโมฮินี ในวันที่ 28 กรกฎาคมปีนี้ เราขอยกย่องท่านเป็นพิเศษ... ดิดี้จดจ่อในโยคะ และให้การหล่อเลี้ยงผู้คนมากมาย ท่านเดินทางมาที่นิวยอร์ค และลอนดอนในปี 1983 การบินตรงมาจากอินเดียถึงนิวยอร์ค นั้นยาวนานและช้ากว่าในสมัยนั้น "นี้เป็นเวลาที่ต้องกลับบ้าน It’s time to go home" ดิดี้กล่าวไว้ โดยที่เราไม่รู้ว่าท่านกำลังเตรียมตัวอย่างจริงจังจากภายใน เพราะบางสิ่งกำลังขับเคลื่อนท่านอยู่ รู้ว่าเป็นเวลาที่จะจากเราไป ไม่ว่าท่านจะไปที่ไหน ท่านได้บอกมนตรานี้แก่ทุกคน ท่านอยู่ในนิวยอร์ค และคาริบเบียน และกลับมาที่ลอนดอน ท่านต้องการใช้เวลากับดาดี้แจงกี สองสามวัน แล้วกลับอินเดียอย่างเร็วมาก นั่นเป็นหนึ่งมนตรา
อีกหนึ่งมนตราที่ดิดี้มีตั้งแต่ต้น คือท่านเป็นคนแรกที่อุทิศตนรวมกันกับ 400 คน ครอบครัวของท่านรู้จักบาบา และในทางโลก แม่ของท่านได้ไปยังชุมนุม และขอให้ลูกสาว ชื่อโกปีไปด้วย ท่านกลายเป็นโกปีคนแรก ผู้ที่ได้อุทิศตนให้แก่บาบาอย่างสมบูรณ์ทันที และจากนาทีนั้นมนตราที่ท่านมีคือ “พละกำลังเดียว การค้ำจุนเดียว One Strength One support” ท่านสร้างสิ่งต่างๆเฉพาะตัว ท่านเป็นนักเรียนรับฟังมูร์ลีเสมอ ไม่เคยอ่านมูร์ลีแก่ผู้อื่น นั่งแถวหน้าในมธุบัน หรือที่ใดอื่นท่านจะเขียนประเด็นจากมูร์ลี และคำถามและคำตอบที่เราได้รับในมูร์ลีมาจากบันทึกของท่าน เพราะท่านได้ยินสะคาร์มูร์ลีทั้งหมดและเมื่อบาบาพูดว่า “ถึงเวลาที่จะทบทวน” ท่านจะนำเอาสมุดโน้ตเล่มหนาและปากกา เขียนในภาษาซินดี เราจะพูดกับท่านว่า ดิดี้ เขียนอะไรหรือ ท่านรู้หมดทุกอย่างแล้ว และท่านจะตอบว่า “ไม่หรอก ฉันยังคงเป็นนักเรียนอยู่”
(คลิกอ่านต่อ)