ความปรารถนาดีและความรู้สึกที่บริสุทธิ์
จาก 134 ประเด็นของคำสอนที่ศักดิ์สิทธิ์
ของ บราห์มา กุมารี มหาวิทยาลัยทางจิตของโลก




19.การให้ความเคารพนับถือแก่ผู้อื่น และอยู่อย่างถ่อมตนคือการกระทำของการยกระดับ

นิยามของการเป็นผู้ยกระดับผู้อื่นนั้นเรียบง่ายและลึกล้ำมาก การเป็นผู้ยกระดับผู้อื่นหมายถึง
  1. การเห็นทุกดวงวิญญาณคือสัญลักษณ์ของคุณธรรม เช่นเดียวกับที่พ่อเห็น

  2. เมื่อเห็นความอ่อนแอหรือข้อบกพร่องของดวงวิญญาณใดลูกจะให้ทานพลังต่อดวงวิญญาณนั้นเพื่อจะกลับมาเต็มไปด้วยคุณธรรมด้วยความรู้สึกที่บริสุทธิ์และความร่วมมือของลูก

  3. การอยู่อย่างทัดเทียมกับพ่อเสมอและเป็นผู้ประทานต่อทุกดวงวิญญาณคือการให้จากคลังสมบัติที่มีค่าของลูกเอง

  4. ลูกจะมีประสบการณ์ว่าตนนั้นเต็มไปด้วยสมบัติที่มีค่าเสมอ และเป็นจักรพรรดิ์ของดินแดนที่ไม่มีความทุกข์ ดินแดนที่ไม่มีความทุกข์หมายถึงสถานที่ที่ไม่มีความทุกข์ ไม่มีประสบการณ์ของสันสการ์ความทุกข์แม้กระทั่งในความคิดของลูก

  5. การที่เฝ้าแต่ให้ทานอย่างไม่จบสิ้นด้วยพลังของความคิดของลูก พลังของคำพูด สีสันของความเป็นมิตรของตน ความรักของลูกในความสัมพันธ์ และสมบัติที่มีค่าของความสุขที่ไม่มีขีดจำกัด และด้วยสมบัติที่มีค่าของความสุขที่ไม่มีขีดจำกัด ดวงวิญญาณใดก็ตามที่เข้ามามีสายใยกับลูกนั้นควรจะกลับไปอย่างเต็มไปด้วยสมบัติที่มีค่าแห่งความสุข เขาจะเป็นผู้ให้ทานที่ไม่มีวันจบสิ้น เขาจะไม่เป็นผู้ที่ให้ทานแก่ดวงวิญญาณใดเป็นพิเศษในเวลาใดโดยเฉพาะแต่เขาจะเป็นผู้ให้ทานที่ยิ่งใหญ่ตลอดเวลาต่อทุกคน

  6. ก็เพราะผู้ที่ยกระดับผู้อื่นเองนั้นเต็มเปี่ยม ดวงวิญญาณเช่นนั้นจะไม่ได้มีความปรารถนาที่จะรับอะไรบางสิ่งจากใคร เพียงแต่เขาจะต้องให้เท่านั้น เขาจะไม่มีความคิดว่าฉันจะทำสิ่งนี้ถ้าผู้นั้นทำสิ่งนั้น ฉันจะเปลี่ยนถ้าผู้นั้นเปลี่ยน บุคคลนั้นควรจะเปลี่ยนเล็กน้อยแล้วชีวิตฉันจะเปลี่ยนด้วย ผู้ที่มีความรู้สึกเช่นนั้นคิดจะเปลี่ยนแปลงตนเองถึง10 เท่าเมื่อใครนั้นเปลี่ยนตนเองแม้กระทั่งในหนึ่งสิ่ง ไม่สามารถกล่าวได้ว่าเป็นผู้ที่ยกระดับผู้อื่น ดวงวิญญาณเช่นนั้นแทนที่จะเป็นผู้ให้ทานที่ยิ่งใหญ่ เขาจะกลายเป็นนักธุรกิจที่เพียงแต่ต่อรองว่า "ฉันจะให้มากขนาดนี้ถ้าเธอให้สิ่งนี้มากขนาดนี้แก่ฉัน ฉันต้องก้มลงให้ต่อไปเรื่อยๆเสมอหรือ ฉันต้องให้เสมอหรือ ? จนกระทั่งเมื่อไหร่ มากเท่าไหร่ละที่จะต้องทำสิ่งนี้ต่อไป ?" นี่ไม่ใช่ความคิดของผู้ที่ให้ เมื่อดวงวิญญาณอื่นนั้นตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของความอ่อนแอ ดวงวิญญาณเช่นนั้นก็จะเป็นขอทานในเวลานั้น นั่นคือไร้พลัง และว่างเปล่าต่อสมบัติที่มีค่าของพลัง

    ดวงวิญญาณผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่ไม่สามารถจะมีความอยากปรารถนาที่จะได้รับแม้กระทั่งหนึ่งสตางค์ใหม่ๆ จากขอทาน "ถ้าผู้นั้นเปลี่ยน ทำอะไรบางสิ่งและให้ความร่วมมือในอะไรบางอย่างหรือก้าวมาเพียงหนึ่งก้าว" ความรู้สึกของความร่วมมือใดที่ใครจะคาดหวังว่าจะได้รับจากผู้ที่ไร้พลังและเป็นดวงวิญญาณขอทาน? การให้อะไรบางสิ่งกับใครเพียงหลังจากที่ได้รับบางสิ่งนั้นไม่อาจกล่าวได้เขาว่าเป็นผู้ที่ยกระดับผู้อื่น

  7. การทำให้ดวงวิญญาณขอทานเต็มไปด้วยสมบัติที่มีค่าทั้งหมด การมีความเมตตาต่อผู้ที่ประณามลูก การโอบกอดผู้ที่ประณามลูกด้วยความร่วมมือของความปรารถนาดี ด้วยความรัก พลัง คำพูดที่อ่อนหวานและความจริงจังกระตือรือร้น การทำให้ดวงวิญญาณที่หดหู่หัวใจเต็มไปด้วยพลังนั่นคือการทำให้ดวงวิญญาณขอทานนั้นกลายเป็นจักรพรรดิ คือการยกระดับผู้อื่น

  8. ดวงวิญญาณตรีกาลดาชินั้นจะมีความร่วมมืออย่างเต็มที่ต่อทุกดวงวิญญาณที่อยู่เบื้องหน้า ขณะที่ตระหนักรู้ถึงความอ่อนแอของทุกดวงวิญญาณเขาจะไม่เข้าถึงซึ่งความอ่อนแอนั้น เขาจะไม่พูดถึงสิ่งนี้ อย่างไรก็ตามดวงวิญญาณนั้นจะจบสิ้นหนามของความอ่อนแอของผู้อื่นด้วยรูปที่ให้คุณประโยชน์ของเขา แทนที่จะเฝ้าเก็บหนามนั้นไว้ เขาจะเปลี่ยนหนามนั้นเป็นดอกไม้ ดวงวิญญาณเช่นนั้นจะยกระดับผู้อื่น ผู้ที่อยู่อย่างพอใจในตนเองเสมอเพชรพลอยแห่งความพอใจ ก็จะทำให้ผู้อื่นพอใจ นั้นคือสิ่งที่มหัศจรรย์ที่เขาจะสร้างความหวังในผู้ที่รู้สึกสิ้นหวัง

  9. สำหรับสถานการณ์หรือบุคคลที่มีความสิ้นหวังอยู่เสมอ เขาก็จะปลุกตะเกียงแห่งความหวังขึ้นมา เมื่อภาพลักษณ์ที่ไม่มีชีวิตของลูกนั้นเติมเต็มความอยากปรารถนาของดวงวิญญาณมากมายจนแม้กระทั่งทุกวันนี้ และแล้วในรูปที่ยังมีชีวิต -ถ้าพี่น้องหญิงชายใดของลูกที่ให้ความร่วมมือผู้เป็นดวงวิญญาณของครอบครัวนั้นยังขาดความเข้าใจหรือมีความดื้อดึงอยู่ หลงคิดว่าสิ่งต่างๆ ที่ธรรมดาชั่วคราวนั้นเป็นสิ่งถาวรและมีความปรารถนาที่จะได้รับชื่อเสียงเกียรติยศชั่วคราว--- ถ้าเป็นอย่างนี้แล้วการให้ความเคารพแก่ผู้อื่นเช่นนั้นและการอยู่อย่างถ่อมตนก็คือการยกระดับผู้อื่น การให้เช่นนี้คือการได้รับตลอดไป ยกตัวอย่างเช่นเด็กที่ไม่รู้ก็จะคิดว่าสิ่งที่อาจจะเป็นความเสียหายเป็นของเล่น ลูกก็ต้องให้บางสิ่งทดแทนเพื่อเขาจะทิ้งหรือปล่อยสิ่งนั้น การดื้อดึงนั้นสร้างความเสียหายตลอดไป และบางครั้งดวงวิญญาณที่ไม่เข้าใจก็จะคิดว่าการได้สิ่งชั่วครู่ชั่วคราวที่อาจจะสร้างความเสียหายของเขาตลอดเป็นระยะเวลาที่ยาวนานนั้นเป็นสิ่งที่ให้คุณประโยชน์ การเอาดวงวิญญาณออกไปจากสิ่งนั้นอย่างแรง หรือบีบบังคับเป็นไปไม่ได้ มันเป็นไปได้ที่ชีวิตของการเพียรพยายามของเขาจะจบสิ้นลงในการชักคะเย่อเช่นนั้น เหตุนี้เองการคงอยู่อย่างมีศิลปะวิธีและการให้บางสิ่งแก่เขาแทนคือสิ่งที่เขาจะต้องทิ้ง ดวงวิญญาณเช่นนั้นที่เป็นขอทานของสิ่งชั่วคราวต่างๆ จากการสิ้นคิดก็จะกลายเป็นผู้ที่รู้คิด เขาเองนั้นก็จะเข้าใจว่าสิ่งทั้งหลายนั้นชั่วคราว จงเป็นผู้ที่ยกระดับที่มีเมตตาต่อแม้กระทั่งดวงวิญญาณใดที่ไม่ได้มีความเข้าใจนั้นเลย บางดวงวิญญาณนั้นได้ให้คุณประโยชน์แก่ผู้อื่นเขาเองก็โดยอัตโนมัติจะกลายเป็นผู้ยกระดับผู้อื่น การให้หมายถึงสำหรับตนเองที่จะได้รับ เพียงผู้ที่ให้เป็นผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่จึงมีสิทธิ์ต่อทุกสิ่ง ลูกนั้นได้เข้าใจภาษาของการเป็นผู้ที่ยกระดับผู้อื่นนี้แล้วหรือยัง ? 12/12/78


หมายเหตุ:เนื่องจากภาษาที่ใช้นี้สำหรับนักศึกษาของบราห์มากุมารีที่ได้รับบทเรียนแล้ว ท่านอาจจะไม่เข้าใจ ถ้าต้องการเข้าใจมากขึ้นกรุณารับบทเรียนราชาโยคะก่อนครับโดยติดต่อที่ศูนย์ที่อยู่ใกล้บ้านท่าน
Back

© 2010 Brahma Kumaris Thailand. All rights reserved.